กว่าจะคิดค้น เสาะหาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แต่ยากยิ่งกว่าคือ ก็ต้องปลุกปั้นให้แจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม

แต่ละวันมีสินค้าออกใหม่มากมาย ดังบ้างดับบ้าง ทำยังไงให้สินค้าออกใหม่ของเรา เป็นที่สนใจ ดึงดูดใจลูกค้าให้มาซื้อได้มากที่สุด เพราะความสำเร็จวัดกันที่ยอดขาย ถึงแม้เปิดตัวยอย่างอลังการงานสร้าง แต่ยอดขายไม่มี ก็ไม่มีประโยชน์ การออกสินค้าใหม่ จึงต้องมีการวางแผนเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ปิดช่องโหว่ทุกจุดเท่าที่ทำได้ให้เหลือแค่คำว่า “สำเร็จ”  ลองมาดูกันว่า มีเคล็ดลับในการเตรียมตัวอะไรบ้าง เพื่อให้ปังแบบยั้งไม่อยู่

1.วิจัยการตลาดเท่านั้น อย่ามโน

หลายคนมักเข้าข้างตัวเองว่าสินค้าเราดีเลิศ พอวางตลาดต้องได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นแน่นอน แต่สิ่งที่เราคิดอาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าอยากได้ วิจัยการตลาด ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้ หรือช่วยให้เราตาสว่างขึ้นก่อนเจ็บตัว

2.หาจุดแข็ง จุดอ่อน เรื่องสำคัญที่อย่ามองข้าม

หากเรารู้จักการวิเคราะห์หาจุดแข็ง จุดอ่อนของสินค้าเรา ปรียบเทียบกับคู่แข่ง คุณก็พอจะรู้ว่า เราแตกต่างกับคู่แข่งตรงไหนบ้าง อะไรที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างเด่นชัด ว่าแต่สิ่งที่เหนือกว่านั้น เป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่มีประโยชน์อีกเช่นกัน

3.ลูกค้าเป้าหมาย รักเรามากแค่ไหน

ลูกค้าเป้าหมาย คือใคร  แล้วเขารู้สึกอย่างไรกับสินค้าเรา ถ้าลูกค้าที่เราเลือก ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับสินค้าเลย นั่นแสดงว่า สินค้านั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหลักที่ลูกค้า ถึงแม้สินค้าเราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ แต่มันแรงพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อมให้ตัดสินใจซื้อกับลูกค้ากลุ่มนี้  อย่าเพิ่งปล่อยมันออกมา กลับไปพัฒนาสินค้าใหม่ ดีกว่า จนกว่าลูกค้าเป้าหมาย จะรักเรา

4.เปลือกนอก ใครว่าไม่สำคัญ

รูปลักษณ์ของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ เคยซื้อสินค้า แล้วต้องแอบๆซ่อนๆ ไม่กล้าให้ใครเห็น รู้สึกอาย ไม่ภูมิใจเวลาใครเห็นเราใช้ ถ้ามีความรู้สึกนี้เกิดกับลูกค้า แย่แล้วครับ สินค้าที่ดี ต้องเย้ายวนน่าหลงใหล ลูกค้าต้องภูมิใจ กล้า อวด โชว์ แชร์ให้คนอื่นรู้ว่าใช้สินค้านี้  การออกแบบสินค้า แพจเกจ ผลิตภัณฑ์ ต้องเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ และไม่ทำให้ภาพลักษณ์ลูกค้าเสื่อมเสียไปด้วย

5.ติดหู โดนตา กระแทกใจ

มีการศึกษาพบว่า การตั้งสโลแกน ให้โดน ต้องมีครบ 3 ปัจจัยหลัก คือ

  1. มีความชัดเจนข้อความที่จะสื่อ สั้น กระชับ ไม่อ้อมค้อม
  2. มีความคิดสร้างสรรค์ แปลกแหวกแนว สื่อถึงสินค้าเรา
  3. มีความใกล้ชิดคุ้นเคยกับกลุ่มเป้าหมาย ใช้ภาษา สำนวนให้ตรงเป้า

ถ้าเราได้ยินสโลแกนอย่างเช่น ซ่าส์จี๊ด ซี๊ดถึงใจ เราคงพอจะเดาได้ว่า สินค้านี้น่าจะจับกลุ่มวัยรุ่น มีความสนุก ท้าทาย ชอบความสะใจแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร  สโกแกนเท่ๆ จำง่าย จะบ่งบอกบุคลิกภาพ ความเป็นตัวตนของแบรนด์ แทนการบรรยายเป็นร้อยเป็นพัน

6.ปั่นกระแส ยั่วให้อยาก

  • กระตุ้นความอยาก แต่ช้าก่อน ต้องอดใจรอให้ได้จนถึงวันเปิดตัว การปลุกกระแสจากการบอกต่อ ปากต่อปาก สามารถทำให้ลูกค้าเกิดอาการคลุ้มคลั่ง สร้างกระแสต่อเนื่องได้ยาวนาน ยิ่งมาก ยิ่งเป็นผลดี การเปิดตัว ไอโฟน  การสร้างข่าวรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะอวดโฉม การปล่อยทีเซอร์หนังดังๆที่ทั่วโลกตั้งตารอ การออกหนังสือใหม่ของนักเขียนชื่อดัง ล้วนกระตุ้นให้เหล่าสาวกไม่เป็นอันกินอันนอน
  • เลือกใช้สื่อให้เหมาะสม จ้างนักเขียนสร้างเรื่องราวปลุกกระแสในเว๊ปดังๆ หรือจ้างคนดังรีวิวสินค้าในเชิงบวก  ปล่อยภาพหลุด ความลับบางอย่างออกมาเรียกเสียงฮือฮา เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าจริงหรือเท็จ

7.ลองของจริง เสร็จสรรพสัมผัสเดียว

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาไม่เท่าได้สัมผัสแค่วูบเดียว บางสินค้าการให้กลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาสสัมผัสของจริง ทดลองใช้จริง เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่สินค้าอื่นไม่เคยให้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องบรรยายสรรพคุณให้ยืดยาว บางรายอาจทำการสำรวจตลาดดูผลตอบรับจากผู้บริโภค เมื่อได้สัมผัสของจริง เพื่อแก้ไขรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก่อนออกตลาด 

8.ปล่อยหมัดเด็ด ทุกช่องทาง

อย่าจำกัดอยู่สื่อใดสื่อหนึ่ง การใช้ทุกสื่อผสมผสาน เหมือนการประกาศป่าวร้องพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะสังคมออนไลน์ สื่อทีวี สื่อกลางแจ้ง  โอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะเห็นสื่อสูง โอกาสสำเร็จก็สูงตาม

9.อยากได้ต้องจองก่อน

การเปิดให้สั่งจองสินค้าก่อน เป็นอีกวิธี เพื่อเช็คกระแสตอบรับความนิยมหรือความสนใจของสินค้าอีกทาง  ถ้าเปิดจอง แต่คนเข้ามาสั่งน้อยมาก มันส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้กับเจ้าของสินค้าแล้ว เหตุผลที่ลูกค้าไม่สนใจสั่งล่วงหน้า คืออะไร 

10.ปั่นกระแสให้พีค ในวันเปิดตัว

ถ้ากระแสการบอกต่อทำงานมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้จะวันที่พีคสุดให้ทุกคนจับตา การตั้งแถวรอซื้อยาวเหยียดข้ามวันข้ามคืนเพื่อรอเป็นเจ้าของสินค้า การวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมออนไลน์  ไม่ว่าสำนักข่าวไหนก็ต้องมาทำข่าว  เกิดการปั่นกระแสให้พีคสุดในวันเปิดตัวนั่นเอง 

11.โปรแรงแค่วันเดียว

ของอะไรที่มีน้อย มีจำนวนจำกัด คนมักมุงรอแย่งเยอะ แน่นอน ไม่มีใครอยากตกขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ การจัดโปรโดนใจแค่วันเดียว ช้าหมดอดแน่  พิเศษเฉพาะคุณเท่านั้น ยังมีมนต์ขลังเสมอ ไม่เชื่อลองดู 

12.แปลก แตกต่างอย่างมีสไตล์

ไม่จำเป็นที่คุณต้องจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวให้ใหญ่โตทุ่มทุนให้งบการตลาดหมดเกลี้ยงแค่วันเดียว การให้สปอตไลท์ส่องมายังคุณในวันเปิดตัว สามารถทำได้ในงบที่จำกัด  ไม่ปฎิเสธที่งานใหญ่ มักจะปังได้ง่ายกว่า แต่งานปัง ไม่จำเป็นต้องเป็นงานใหญ่ แค่แตกต่างในการนำเสนออย่างมีชั้นเชิง ก็เพียงพอ สร้างธีมที่ไม่เหมือนใคร จัดในที่ที่ต้องทุกคนต้องร้อง ว้าว!! ก็โดนแล้วครับ

13.แผนสำรองมีไว้ ไม่เกิดไม่ว่ากัน

สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ถึงแม้จะเตรียมการดีแค่ไหน ความผิดพลาดที่ไม่คาดฝันระหว่างทางก็อาจเกิดขึ้นได้ ลองหาทางหนีทีไล่ คิดแผนสำรองเผื่อไว้ ถ้าไม่เป็นไปตามแผน จะช่วยให้เราไม่ต้องนั่งอึ้ง คอตก แก้ปัญหาไม่ทันการณ์ 

กว่าจะคิดค้น เสาะหาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แต่ยากยิ่งกว่าคือ ก็ต้องปลุกปั้นให้แจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม

ลองให้ความสำคัญกับการวางแผนเตรียมตัวก่อนการออกสินค้า ที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม แล้วคุณจะรู้ว่า ก้าวแรกที่ย่ำเดินเมื่อลืมตาดูโลก บอกอนาคตได้จริงๆ

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”

คุณ สุวัฒน์ โปษยะวัฒนากุล (คุณวัฒน์)

เภสัชกร นักวิเคราะห์ข้อมูล วิทยาศาสตร์การตลาดและการขาย

พนักงานบริษัทเอกชน

บทความเกี่ยวกับการทำธุรกิจ