ช่วงนี้ผมมีโอกาสได้ฟังวิทยุคลื่น 97.0 MHz เป็นประจำเพราะกำลังศึกษาการลงทุนเรื่องหุ้นมีหลาย ๆ รายการน่าสนใจมากครับ นอกจากช่วงรายการที่มีแล้ว สปอร์ตโฆษณาแต่ละช่วงก็ให้ความรู้ไม่ใช่น้อยเช่นกัน

ซึ่งมีสปอร์ตช่วงหนึ่งผมฟังแล้วได้ความรู้จึงขอนำมาสรุปแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ ได้เรียนรู้ไปด้วยกันครับกับ…

10 นิสัยทางการเงินของเศรษฐี

1.ใช้เงินน้อยกว่าที่หาได้

จะเป็นเศรษฐีได้ต้องรู้จักคนค่าของเงินที่หามาได้จากหยาดเหงื่อแรงงานที่มี เพราะฉะนั้นการจับจ่ายอะไรเขาจะคิดเสมอว่าหามาได้เท่าไหร่และ ควรจ่ายเท่าไหร่ ต้องรู้จักการวางแผนการจ่ายเงิน

2.อดดทนรอคอยสะสมเงินเป็น สิบปี

จะเป็นเศรษฐีต้องใจเย็น รอคอยความสำเร็จได้ การสะสมเงินจึงเป็นเรื่องจำเป็น เก็บสะสมวันละนิดวันหน่อยเป็นสิบ ๆ ปีจึงทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูนแบบต้นทบดอก ดั่งที่ไอสไตล์ได้กล่าวไว้ว่า “ดอกเบี้ยทบต้น นั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ลำดับที่ 8  ใครเข้าใจมันได้ก่อน คนนั้นก็ไม่ต้องเสียโอกาสจากมัน”

3.ไม่ฟุ่มเฟือย ไปกับสตาร์บวม ดื่มเพียงสตาร์บัง

ไม่ใช้จ่ายแบบอู๋ฟู่ ทำตัวหรู โก้เก๋ เห็นคุณค่าของสิ่งที่จ่าย ไม่สุรุ่ยสุร่ายไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิต ใช้จ่ายเพียงแค่จำเป็นเท่านั้น ยิ่งฟุ่มเฟือย เส้นทางสู่การเป็นเศรษฐียิ่งถอยห่างออกไป

4.ชำระเต็มจำนวน เครดิต อะไรที่ไม่มั่นใจว่าจ่ายได้ก็จะไม่ซ์้อ

การใช้จ่ายบัตรเครดิต เขาจะคิดก่อนว่าเมื่อถึงรอบบิลเขาสามารถจ่ายเต็มจำนวนได้หรือไม่ เพราะไม่ต้องการที่จะจ่ายดอกเบี้ยเพราะนั่นถือว่าจะเป็นการซื้อของเกินราคา หากไม่มั่นใจว่าจะจ่ายไหวก็จะไม่ซื้อ หรือเลื่อนการซื้อไปรอบครั้งต่อไปเมื่อสามารถจ่ายไหว

5.ไม่เคยลืม อิสภาพทางการเงินเกิดจาการไม่มีหนี้

คีย์สำคัญคือการไม่มีหนี้ นั่นเท่ากับว่าเราเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่เส้นทางเศรษฐีแล้ว อะไรที่ก่อให้เกิดหนี้เขาก็จะคิดแล้วคิดอีกว่ามันคุ้มค่าที่จะเป็นหนี้ก้อนนั้นไหม และที่สำคัญคือ หนี้ก้อนนั้นมันสามารถก่อให้เกิดเป็นรายได้ ที่เอาชนะดอกเบี้ยและเงินต้นที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนได้หรือไม่ หากไม่คุ้มค่าที่จะเป็นหนี้ก็จะไม่เป็น หนี้สำหรับนิสัยคนจะเป็นเศรษฐีคือ หนี้ที่จะก่อให้เกิดรายได้เท่านั้น

6.เข้าใจดีว่าเงินเหมือนเด็กที่ดูแลตัวเองไม่ได้

เด็กตัวน้อย ๆ เขาดูแลตัวเองไม่ได้ ต้องให้ผู้ใหญ่ดูแล ช่วยวางแผน ช่วยให้ความรู้ ส่งเสริมในด้านต่าง ๆ หากผู้ใหญ่ไม่ดูแล เด็กคนนั้นอาจจะเสียคน ติดยา สำมะเลเทเมา ไม่ต่างจากเงินหากเราไม่ดูแลดี ๆ เงินนั้นมันก็จะเสียไปหายไป กลายเป็นหนี้ แทนที่จะทำให้เงินเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง กลายเป็นว่าเงินที่ไม่ได้รับการดูแลจะกลับกลายมาทำร้ายตัวเราเอง

7.ความล้มเหลวเพราะไม่วางแผน ไม่ต่างอะไรกับวางแผนเพื่อให้ล้มเหลว

จะลงมือทำอะไรต้องประกอบไปด้วยการวางแผน หากไม่วางแผนโอกาสล้มเหลวก็มีสูง ในทางกลับกันหากวางแผนไม่ดีโอกาสก็ล้มเหลวมีมากอีกเช่นกัน ต้องวางแผนทางการเงิน อย่างรัดกุม หากไม่มีความรู้ ก็จะต้องหาความรู้ หาที่ปรึกษามาช่วยวางแผนทางการเงินให้ ไม่อย่างนั้นมันก็จล้มเหลวกันไปไม่เป็นท่า เงินทองที่หาได้มาก็จะบินหนีเราไป

8.ไม่มีอะไรแน่นอนทำประกันในเรื่องจำเป็น

บนเส้นทางชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนเลย เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา คนจะเป็นเศรษฐีเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดี เขาจึงมีการวางแผนทำประกันในเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น ประกันทางธุรกิจ ประกันชีวิต ประกันการเดินทาง ประกันความเสี่ยงในเรื่องต่าง ๆ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยเขาล้มลงก็ยังมีเบาะมารองรับ หรือหากต้องเสียชีวิตคนข้างหลังก็ไม่เดือดร้อนมากนัก

9.เวลาเป็นมิตรกับคนวัยเยาว์ จึงอดออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย

เวลาของเด็กย่อมยาวนานกว่า คนสูงวัยเป็นไม้ใกล้ฝั่ง เมื่อวัยเยาว์เราต้องรู้จักที่อดออมถนอมเงินตั้งแต่เล็ก ๆ เงินมันจะได้โตไปพร้อม ๆ กับอายุของเรา เงินว่ามีค่ามากแล้ว แต่เวลาที่จะใช้เงินนั้นมีค่ามากยิ่งกว่า จงใช้เวลาทุกวินาทีให้มีคุณค่า

10.ไม่ประทับใจกับการขับรถหรูหรา ใส่เสื้อผ้าแรงเกินจริง ทำตัวสมถะ อยู่แบบพอเพียง

เศรษฐี ส่วนใหญ่ทำตัวติดดิน สมถะไม่อวดร่ำอวดรวย มีบ้านหลังใหญ่โตเอาแค่พออยู่กันในครอบครัว ไม่ได้มีรถหรูหรา เอาแค่พอนั่งไปทำงานได้ ทุกอย่างดูเรียบง่าย เพราะเขาเห็นคุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาหามาได้ และความสุขของพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ที่เงินทองมากมายเหล่านั้น กลับอยู่ที่การได้รู้จักใช้อย่างรู้คุณค่าของเงินนั้นต่างหาก