เราอาจจะเคยเห็นตัวอย่างมากมายของคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการเงินมาแล้ว โดยที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือเก่งเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเชื่อว่า โลกนี้ยังมีความยุติธรรมมากพอ ที่จะให้โอกาสแก่คนที่ทุ่มเท และมีความมุ่งมั่นที่จะออกแบบชีวิตของพวกเขาโดยไม่ละความพยายาม

และวันนี้ผมจะพาทุกท่าน มาทำความรู้จักกับนักธุรกิจที่เข้าข่ายดังกล่าว ซึ่งชื่อของเขาก็คือ ริชาร์ด ชาร์ลส์ นิโคลัส แบรนสัน หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ริชาร์ด แบรนสัน นั่นเอง

ริชาร์ด แบรนสัน เป็นนักธุรกิจไฟแรงที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนที่ชอบคิดนอกกรอบและไม่ยอมแพ้ต่อกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าชีวิตของเขาจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เส้นทางชีวิตของเขานั้น ต้องถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ริชาร์ด แบรนสัน มีบริษัทในเครือมากกว่า 360 บริษัท ภายใต้แบรนด์ Virgin ที่เขาบริหารมากับมือถึงสี่ทศวรรษ จวบจนกระทั่งทุกวันนี้แบรนด์ Virgin กลายเป็นแบรนด์ที่พบเห็นอยู่ทั่วทุกมุมโลก คลอบคลุมตั้งแต่รถไฟ โรงแรม เครื่องดื่ม มือถือ ค่ายเพลง การเงิน เรียกว่า แทบจะธุรกิจที่เราสามารถนึกออกนั่นเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังได้ชื่อว่าเป็น

ซีอีโอที่มีความบ้ากล้าคิดนอกกรอบ เคยทำแม้กระทั่งธุรกิจท่องอวกาศ และกำลังมีแผนทำธุรกิจดำดิ่งร่องน้ำลึกที่สุดในมหาสมุทร 5 แห่ง อีกด้วย

หากย้อนกลับไปในวัยเด็กจะพบว่าเขาเป็นเด็กที่เรียนหนังสือไม่เก่ง เพราะมีความผิดปกติทางร่างกายและถูกดูถูกอยู่เสมอว่าเป็นคนไม่มีความสามารถ แต่เขาก็ฉายแววความเป็นนักธุรกิจนับตั้งแต่อายุ 15 ปี

เมื่อเขาไม่ชอบกฎเกณฑ์ของโรงเรียน จึงมีแนวความคิดที่จะออกนิตยสารรายเดือนที่ชื่อ Student เพื่อเป็นช่องทางให้นักเรียนสามารถพูดตามความรู้สึกของตนเอง จนเขามีรายได้จากโฆษณาจากบริษัทใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมาก

จากนั้นเขาเริ่มขยายธุรกิจจัดจำหน่ายแผ่นเสียงทางไปรษณีย์ ในปีพ.ศ.2513 และยังเปิดร้านจำหน่ายแผ่นเสียงชื่อว่า Virgin Record ที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับทำธุรกิจห้องบันทึกเสียงและเริ่มผลิตแผ่นเสียงในธุรกิจของตนเอง และธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย

หลายคนรู้จักริชาร์ด แบรนสันเป็นอย่างดีและยอมรับว่าเขาเป็นอีกผู้หนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักธุรกิจมากมาย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น

15 แนวคิดธุรกิจ ริชาร์ด แบรนสัน

1.ทุกวินาทีคือโอกาสของธุรกิจ

เขาคิดว่าโลกใบนี้ช่างเป็นโลกที่ท้าทายสำหรับเขายิ่งนักและเป็นโลกที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทุกวินาทีที่ผ่านไปล้วนเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งสิ้น ริชาร์ดรู้จักใช้โอกาสต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาอย่างชาญฉลาด

สิ่งสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จสูงสุด นั่นก็คือการที่เขาทำงานอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์ก็คือ ตั้งเป้าหมายความฝันไว้ก่อนแล้วมองโลกอย่างท้าทาย พร้อมทั้งหาแนวทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีคู่แข่ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินไปสู่ความสำเร็จของเขา

2.สร้างแบรนด์จากตัวตนของตนเองต่อยอดธุรกิจ

เนื่องจากริชาร์ด แบรนสัน มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก เขาจึงรู้วิธีที่จะสร้างตัวเองขึ้นมาจนตัวเขาเองได้กลายเป็น    แบรนด์ที่มีคนรู้จักไปทั่วโลก โดยเขาไม่จำเป็นต้องจ้างดาราดัง ๆ เพื่อมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าของเขาเลย

ทุกวันนี้  ริชาร์ดเป็นคนที่โด่งดังและมีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นบุคคลที่สื่อทุกแขนงให้ความสนใจ ซึ่งเท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของเขาไปด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแบรนด์เวอร์จิ้นจึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาแต่อย่างใด

3.เปลี่ยนงานให้กลายเป็นการผจญภัยของธุรกิจ

ริชาร์ด แบรนสัน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในฐานะผู้บริหารที่ทำให้พนักงานในองค์กรมีจิตสำนึกของความเป็นคนในชุมชนเดียวกันและทำให้พนักงานรู้สึกรักในองค์กรมาก เขาอยากให้พนักงานในองค์กรทำงานด้วยความสนุกและมีความสุข

ซึ่งเขามีความคิดว่าถ้าเปลี่ยนงานให้กลายเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น จะส่งผลให้ทัศนคติและผลงานของพนักงานดีขึ้นกว่าเดิม โดยเขามีพนักงานที่ต้องดูแลถึง 35,000 คน

4.มีความมุ่งมั่นเพื่อธุรกิจ

ความมุ่งมั่นของริชาร์ด แบรนสัน นั้นมิใช่มุ่งมั่นเพื่อชนะ แต่เป็นการมุ่งมั่นเพื่อธุรกิจเป็นที่ตั้ง มุ่งมั่นเพื่อผลกำไร เพื่อการเติบโตและเพื่อความอยู่รอด หากเขาเห็นว่าจะเกิดผลดีต่อธุรกิจต่ออนาคตเขาก็จะทำ คุณจะไม่เคยเห็นริชาร์ดมุ่งมั่นเพื่อตำแหน่ง ความมุ่งมั่นของริชาร์ด แบรนสัน ทำให้ก่อเกิดธุรกิจมากมายของเวอร์จิ้น

5.ทำมากกว่าพูด

คำว่า “ทำเลย” เป็นคำที่แบรนสันชอบใช้อยู่เสมอ เขามักจะทำได้ เขากล้าลองผิดลองถูกแทบจะทุกเรื่องที่เขาเห็นว่าตนเองทำได้ มิใช่ว่าจะไม่พลาดแต่เมื่อคำนวณดูแล้วผลที่ออกมาจะเป็นบวกมากกว่า เพราะเขามีนิสัยแห่งการทำมากกว่าพูดนั่นเอง

6.รักการผจญภัย เสี่ยงตายและเป็นนักสู้

การได้ออกไปผจญภัยหรือลุยด้วยตนเอง ทำให้เขารู้และเห็นตามความเป็นจริง

อย่างเช่น การเสี่ยงตายในการท่องบัลลูน ทำให้เขาเข้าถึงสัจธรรม อันนำมาซึ่งการตัดสินใจหลาย ๆ อย่าง การตัดสินใจทุกประเภทล้วนเกิดจากการค้นพบด้วยตัวของเขาเอง มิใช่จากตำราหรือปริญญาแต่อย่างใด อาจกล่าวได้ว่าการรักการผจญภัยของเขาทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ มากมายก็คงไม่ผิดนัก

7.หาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ

หลังจากทำธุรกิจไปได้สักระยะหนึ่ง แบรนสันจะมองหาโอกาสเพื่อต่อยอดธุรกิจหรือเพื่อประกันความเสี่ยงให้กับธุรกิจของตนเสมอ แม้บางเรื่องอาจอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ในการจัดการหรือการบริหารก็ตาม แต่ด้วยสัญชาตญาณเขาสามารถคว้าโอกาสนั้นมาได้เกือบทุกครั้ง

โดยเฉพาะในเรื่องของการชี้ชวนให้คนมาลงทุน ซึ่งวิธีการของเขามักลงทุนด้วยตนเองเข้าไปเจรจาเอง อาจเนื่องมาจากที่เขาอยู่โรงเรียนประจำในช่วงเด็ก ทำให้ต้องพึ่งพาตนเองตั้งแต่ยังเล็กจนโต

8.มีความสามารถในการติดต่อสื่อสาร

แม้ว่าทุกครั้งที่ลูกน้องของเขามีปัญหา เขามักจะหนีปัญหาแล้วให้ผู้อื่นตัดสินใจแทน โดยไม่เอาตนเองเข้าไปอยู่กับปัญหา แต่สำหรับปัญหาของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของบริษัทแล้ว เขาจะเดินหน้าด้วยความสามารถในการจูงใจผู้อื่น

ตั้งแต่การขอสปอนเซอร์เพื่อมาลงโฆษณาในการทำนิตยสาร Student หรือการเจรจากับนักลงทุน นักการธนาคารต่าง ๆ ซึ่งแบรนสันต้องใช้ทักษะในการโน้มน้าวใจ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถเบิกเงินเกินบัญชีจำนวนมากมาได้

9.หลักการทำงานเป็นทีมบริหารธุรกิจ

นับแต่ครั้งการทำนิตยสาร Student ที่มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน แบรนสันไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายงานคนอื่นแม้แต่งานในบ้านที่แม่ของเขาจะแบ่งหน้าที่กันระหว่างพี่น้องเขาก็ปฏิบัติด้วยดีเสมอมา โดยเขาจะให้ความสำคัญกับงานบ้านก่อนเสมอ และตัวเขาเองก็ไม่เคยก้าวก่ายงานของทีมงานเลย แต่กลับแสดงความมั่นใจในทีมงานทุกครั้ง

10.สนุกกับการทำงาน

สิ่งที่แบรนสันเน้นเป็นพิเศษคือ เวลาจะทำอะไรก็ตามจะต้องสนุก แม้ว่าความสนุกของเขาจะไม่ตรงกับความรู้สึกของ เพื่อน ๆ ก็ตาม แต่ความสนุกของเขานั้นรวมถึงการเล่นเป็นเวลา การทำงานเป็นเวลา โดยสังเกตจากงานอดิเรกหรือวันหยุดของเขา แบรนสันจะเล่นอย่างสนุกสุดเหวี่ยง เวลาอยู่ในโหมดของการทำงานเขาก็จะทำงานอย่างสนุกสุดเหวี่ยงเช่นกัน โดยเวอร์จิ้นจะมีการจัดงานปาร์ตี้เพื่อให้พนักงานสนุกสนานกันในช่วงสุดสัปดาห์เสมอ

11.ซึมซับความคิดเชิงธุรกิจ

แบรนสันชอบที่จะสนุกกับงาน และการที่ครอบครัวมักมองหาทุกวิธีที่จะหาเงินเข้าบ้านเสมอ ทำให้เขาซึมซับความคิดเชิงธุรกิจอยู่ทุกวินาที ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาคิดแต่เรื่องธุรกิจและประสบความสำเร็จอย่างมากมาย

12.ยอมรับความผิดพลาดและไม่กลัวความล้มเหลว

คนเราก็ต้องมีความผิดพลาดกันบ้าง แบรนสันยอมรับผิดในหลาย ๆ เรื่องและหาทางแก้ไขเสมอ บางครั้งความผิดของเขากลับไปติดอยู่ที่ความคิดของเพื่อน ๆ ที่ไม่ยอมรับรู้อะไรและไม่แก้ไขอะไรทั้งสิ้น จนแบรนสันมักเข้ามาแก้ปัญหาเอง สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเองและมีความมั่นใจและไม่กลัวความผิดพลาด

13.หมั่นจดบันทึกอยู่เสมอ

หากการจดบันทึกเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของริชาร์ด แบรนสัน คุณเองก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน เขามักจดบันทึกลงในสมุดบันทึกคู่ใจเสมอ นั่นเป็นนิสัยส่วนตัวที่เขาปฏิบัติเป็นประจำมิได้ขาด ถึงแม้ในแต่ละวันเขาจะมีงานที่ต้องทำมากมาย และมีคนมาติดต่อพบปะพูดคุยนับไม่ถ้วน แต่เขามีวิธีการจัดการชีวิตที่แสนจะเรียบง่ายด้วยการทำโน๊ตย่อหรือจดบันทึกเพื่อเตือนความจำ และสามารถทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีแต่อย่างใด

14.ดึงศักยภาพของการเป็นนายตัวเองออกมา

แบรนสันกล่าวว่า แม้คนจำนวนมากที่เติบโตมาเป็นลูกจ้างก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเกิดมาเพื่อเป็นลูกจ้างตลอดไป ปัญหาอยู่ที่ระบบการศึกษาโลกที่สอนให้คนเรียนให้ดี เรียนให้จบ แล้วเอาเกรดหรือใบปริญญาไปสมัครงานดี ๆ ผู้คนจึงเดินตามระบบที่วางไว้

แต่ศักยภาพของการเป็นนายตัวเองนั้นมีอยู่ในส่วนลึกของทุกคน ซึ่งแต่ละคนจะรู้ได้มากหรือน้อย เร็วหรือช้า และมีความกล้าที่จะดึงออกมาใช้ในการเปลี่ยนตัวเองหรือไม่

15.ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม

การจะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น  คุณจะต้องเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยมก่อน

คุณต้องก้าวออกไปและฟังว่าผู้อื่นเขาพูดอะไรบ้าง สนับสนุนให้พวกเขาแสดงความคิดเห็น จงคิดไว้เสมอว่าไม่มีใครที่จะผูกขาดความเป็นเจ้าของความคิดและคำแนะนำที่ดีแต่เพียงผู้เดียว

ได้อ่านประวัติและแนวคิดของริชาร์ด แบรนสัน แล้ว ทำให้รู้สึกว่าการที่เขาประสบความสำเร็จในระดับโลกเช่นนี้ ก็มาจากพลังภายในเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น พลังความคิด พลังความมุ่งมั่น  และอื่น ๆ ที่มีส่วนช่วยผลักดันเขาให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าในเรื่องของธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง

ทำให้ได้คิดว่าคนเรามีศักยภาพไม่มีขีดจำกัดคิดทำสิ่งใดก็สามารถประสบความสำเร็จได้หากค้นพบตัวตนที่แท้จริง และที่สำคัญสามารถประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ธุรกิจในคนเดียวได้อีกด้วย  หลายคนอาจจะบ่นว่าธุรกิจเดียวก็จะแย่แล้ว แต่พอเห็นริชาร์ด แบรนสัน ทำได้เช่นนี้ถึงกับเปลี่ยนมุมมองความคิดไปเลยทีเดียวครับ