เทรนด์ตลาดออนไลน์สินค้าสำหรับเด็กในช่วงปี 2014 – 2020 มีการเจริญเติบโตสูงขึ้นเฉลี่ยถึง  34% ต่อปี และยังมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับกำลังซื้อของพ่อแม่ยุคใหม่ ที่หันมาโฟกัสในเรื่องของความคุ้มค่าด้านคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่าปัจจัยด้านราคา  ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเด็กระดับพรีเมี่ยมมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผู้ที่มองหาลู่ทางเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดเด็ก หากมีไอเดียสดใหม่  สามารถตีโจทย์ความต้องการของพ่อแม่ได้ โอกาสย่อมมากกว่าของเดิม ๆ ที่ขาดไอเดียต่อยอด นอกจากนี้ปัจจัยอื่น ๆ ก็ต้องนำมาพิจารณาประกอบด้วยเช่นกัน เช่น ทำเลที่ตั้ง  ช่องทางการตลาด  กระแสความนิยม ฯลฯ

Picture Credit: www.statista.com
Picture Credit: www.statista.com

โจทย์ของผู้ซื้อ การบ้านของผู้ขาย  มีอะไรน่าสนใจในตลาดเด็ก

แม้ตลาดสินค้าเด็กจะเป็นเพียงกลุ่มสินค้าเฉพาะสำหรับเด็กเล็ก ๆ  แต่สินค้าเฉพาะเหล่านี้กลับเติบโตอย่างต่อเนื่องและยังมีแนวโน้มว่ายังต้องการ “ไอเดียใหม่ ๆ” ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์พ่อแม่ยุคปัจจุบันมากขึ้น  มีอะไรบ้างที่น่าสนใจในตลาดเด็ก

1.เสื้อผ้าเด็ก ตลาดใหญ่สไตล์มินิมอล

ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำหรับเด็ก ยังคงครองตลาดเป็นอันสองรองจากผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็ก เพราะนอกจากเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 แล้ว แฟชั่นเสื้อผ้าเด็กก็วิ่งเร็วไม่แพ้แฟชั่นผู้ใหญ่ ที่ผู้ขายต้องติดตามเทรนด์ของสินค้าอยู่ตลอดเวลา นอกจากดีไซน์โดนตา คุณภาพต้องโดนใจ วัสดุที่ใช้ต้องคำนึงถึงเด็กเป็นหลัก  “ต้องใส่สบาย ดีไซน์เลิศ” เท่านั้นถึงจะเกิด

3.ขนมเด็ก Demand ที่ยังรอการเติมเต็ม

โจทย์ของผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับเด็กหลัก ๆ แล้วมีแค่ 4 ไม่…ไม่มีผงชูรส ไม่หวาน  ไม่เค็ม และไม่มีอันตราย ถ้าคุณตอบโจทย์ได้เท่ากับมีโอกาสเข้าไปแชร์เค้กชิ้นโตที่ยังเหลือที่ว่างให้รายใหม่เข้ามาร่วมแจมอีกเยอะ เพราะปัจจุบันสินค้ากลุ่มนี้ยังมีผู้ขายน้อยราย หาซื้อไม่ง่าย และราคายังสูง  โดยสินค้ากลุ่มนี้จะต้องมีความปลอดภัย 100% และผลิตจากธรรมชาติ และจะยิ่งดีถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิกส์

3.ของเล่นเสริมพัฒนาการ  ไอเดียดีมีเกิด

ปัจจุบันพ่อแม่มุ่งเน้นสร้างความฉลาด และพัฒนาการตามวัย  ดังนั้นของเล่นธรรมดา ๆ ไม่ดึงดูดใจพ่อแม่อีกแล้ว คุณสมบัติเฉพาะของมันต่างหากที่พวกเขาจะเลือก เช่น ความต่างระหว่างแป้งโดว์ กับดินน้ำมัน  เรารู้ว่ามีไว้ปั้นเป็นรูปร่างต่าง ๆ เหมือนกัน แต่คุณสมบัติของแป้งโดว์คือ ไม่มีสารอันตราย และพอเพิ่มคำว่า “ช่วยในการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก” เราจะเริ่มรู้สึกว่ามันต่าง  มันพิเศษมากกว่าดินน้ำมัน พ่อแม่จึงเลือกซื้อแป้งโดว์ให้ลูกเล่นมากกว่าดินน้ำมัน

4.เครื่องสำอางสำหรับเด็ก

หนึ่งในกลุ่มสินค้าที่ตลาดยังมีความต้องการสูง เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว สินค้าประเภทเครื่องสำอางสำหรับเด็กที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ยังถือว่ามีเพียงหยิบมือ  แม้จะมีเครื่องสำอางเด็กวางขายในราคาถูกมากมาย แต่ก็ไม่ใช่สินค้าที่ปลอดภัย ซ้ำยังอุดมไปด้วยสารเคมี หากมีตัวเลือกที่ดีกว่า แม้จะราคาสูงแต่ก็มีน้ำหนักในใจของพ่อแม่ที่จะเลือกซื้อได้มากกว่า เช่น  แป้งพัฟอัดแข็งสำหรับเด็กที่ผลิตจากแป้งข้าวจ้าว

5.ตลาดของใช้ ขายไอเดียไม่มีที่สิ้นสุด

ของใช้สำหรับเด็ก  ตลาดที่กว้างขวางและครองส่วนแบ่งการตลาดกว่าครึ่งของตลาดสินค้าเด็กทั้งหมด เริ่มต้นตั้งแต่วัยทารกไปจนถึงช่วงปฐมวัย สินค้ากลุ่มนี้เน้นความปลอดภัยและฟังก์ชั่นการทำงานเป็นหลัก ส่วนเรื่องความส่วยงามถือเป็นอัจจัยรองลงมา เช่น กระติกน้ำสำหรับเด็กสิ่งแรกที่พ่อแม่จะดูคือ ปลอดสาร PBA  รองลงมาคือ ฟังก์ชั่นการทำงานของขวดน้ำแต่ละรุ่น และสุดท้ายคือลวดลายสีสันสวยงาม ดังนั้นหากสินค้าของคุณมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็สามารถสมัครเข้าลงแข่งขันในตลาดนี้ได้ค่ะ

6.สินค้าเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

พ่อแม่ยุคนี้ตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกมาเป็นอันดับหนึ่ง สินค้าคุณสมบัติเดียวกัน แต่ความปลอดภัยต่างกันมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ เช่น การเลือกซื้อ  AWG (Around We Go)  ที่มีราคาสูงกว่ารถหัดเดินธรรมดา 5-6 เท่า แต่เพราะมีความปลอดภัยสูงกว่า รถหัดเดิน เป็นต้น  หากจะเลือลงทุนในสินค้ากลุ่มนี้  จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และสามารถอธิบายคุณสมบัติด้านความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งด้วยนะคะ

7.โรงเรียนฝึกทักษะสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน

พ่อแม่ยุคใหม่มีความกังกลเกี่ยวกับพัฒนาการและความสามารถของลูกเป็นอย่างมาก โรงเรียนฝึกทักษะจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ของลูกได้ดี เพราะโรงเรียนเหล่านี้ จะมีผู้เชี่ยวชาญ และนักจิตวิทยาสำหรับเด็ก เพื่อประเมิน และจัดแพคเกจการสอนให้เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงอายุได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังสามารถจัดการกับอารมณ์และฝึกให้เด็กสร้างสมาธิได้อย่างดีเยี่ยม พ่อแม่รุ่นในสังคมเมืองจึงนิยมให้ลูกเข้าฝึกทักษะกับโรงเรียนเหล่านี้แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงก็ตาม หากต้องการเข้าร่วม Market share ในตลาดนี้ นอกจาก ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะและนักจิตวิทยาเด็กแล้ว ทำเลที่ตั้งถือควรอยู่นแหล่งชุมชนและเมืองใหญ่ เพราะทำเลเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โรงเรียนของคุณ รุ่ง หรือ รุ่งริ่ง ได้เช่นกัน

ตลาดสินค้าเด็กไม่ได้เล็กตามชื่อนะคะ ตลาดนี้ยังต้องการสีสันใหม่ ๆ เข้าไปเติมเต็มอยู่ตลอดเวลา เพียงคุณตอบโจทย์ความต้องการได้  ใช้ช่องทางการตลาดที่ดี และมีไอเดียบรรเจิด คุณก็สามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตลาดเด็กได้ไม่ยาก

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”

คุณ สุภารัตน์  ศรีลา (แต)ปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต

มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา

ปัจจุบัน พนักงานบริษัท และตัวแทนประกันชีวิต

บทความเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์

เริ่มต้นธุรกิจอย่างไรไม่ให้เจ๊ง !!!