สำหรับธุรกิจบริการซักรีดแม้จะพบเห็นบ่อยและมีการแข่งขันสูง แต่ยังมีช่องว่างทางการตลาดและสามารถเติบโตได้อีกไกลในอนาคต

หนึ่งในงานบ้านที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะอย่างการทำความสะอาดเสื้อผ้า โดยเฉพาะช่วงวันหยุดกับผ้ากองโตเต็มตะกร้านั้นสามารถทำลายบรรยากาศของการพักผ่อนได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ดีในการใช้บริการร้านซักรีด และธุรกิจนี้เองก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ขนาดของธุรกิจซักรีดนี้มีตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงแฟรนไชส์รายใหญ่ มองเผินๆอาจดูเหมือนง่าย แต่ก็มีหลายรายต้องปิดกิจการลง ทำไมหลายคนจึงผิดหวังกับธุรกิจนี้ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ไปไม่รอด

เหตุผลที่ทำให้ธุรกิจรับซักรีดไปไม่รอด

1.ไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ

ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ อย่างแรกที่ควรทำคือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนั้น อย่างน้อยก็ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่ายังมีความสนใจที่จะทำอยู่หรือไม่ ทั้งหาอ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือคอร์สเรียนต่างๆ ธุรกิจซักรีดเป็นธุรกิจที่มีรายละเอียดซับซ้อน ไม่ใช่แค่ซักผ้าแล้วรีดเป็นอันว่าจบ สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นคือ

  • ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเนื้อผ้า เนื่องจากผ้าแต่ละชนิดมีวิธีการดูแลที่ต่างกัน
  • เทคนิคที่ทำให้เสื้อผ้าสะอาดและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • การเลือกใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาด มองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการใช้น้ำ ทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้ แม้แต่อุปกรณ์อย่างเตารีดไอน้ำแรงดันสูงช่วยให้รีดเรียบและเร็วกว่าแบบธรรมดาสามารถประหยัดเวลาในการทำงานได้เช่นกัน

2.ขาดการวางแผนและการบริหารจัดการที่ดี

เป็นส่วนที่หลายคนมักทำพลาดและขาดการวางแผนที่ดี สำหรับมือใหม่ทำได้ง่ายๆคือ ลองเขียนใส่กระดาษดูว่าตั้งแต่การเปิดร้าน การดูแลพนักงงาน ขั้นตอนการรับผ้าจนส่งถึงมือลูกค้า ต้องทำอะไรบ้าง

  • อย่างแรกเลยคือเงินลงทุนใช้สำหรับ ค่าเช่าร้าน อุปกรณ์ต่างๆ ค่าน้ำค่าไฟ เงินหมุนเวียน ฯ มีพอหรือไม่
  • มีการจัดการอย่างไรเพื่อป้องกันความผิดพลาด เช่น สลับเสื้อผ้าลูกค้า สูญหาย ชำรุด หากมีระบบการจัดการหลังร้านที่ดีมีการนำโปรแกรมเข้ามาช่วย ขั้นตอนการทำงานตรงนี้จะง่ายและสะดวกขึ้น
  • ระบบน้ำและไฟ หากเกิดกรณีฉุกเฉินมีการเตรียมแผนสำรองตรงนี้หรือไม่ รวมไปถึงระบบการกำจัดน้ำเสียเป็นอีกส่วนที่ต้องมีการดูแลควบคุม เพราะหมายถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม

3.ควบคุมคุณภาพค่อนข้างยาก

งานที่ต้องอาศัยแรงงานคนอย่างงานซักรีดเป็นงานที่ต้องมีความอดทนสูง ทำให้ยากต่อการควบคุมคุณภาพให้ไปในทิศทางเดียวกันเพราะฝีมือแต่ละคนต่างกัน ผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่จะต้องมาดูแลควบคุมเอง หลายคนที่คิดว่าแค่เปิดร้านแล้วจ้างพนักงานน่าจะเพียงพอแล้ว นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเสียหายได้ ลูกค้าจะเสียความรู้สึกซึ่งมีผลต่อความน่าเชื่อถือของร้าน

ทำอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจซักรีดอยู่รอด

แม้แต่รายใหญ่ยังเข้ามามีบทบาทในธุรกิจนี้ สังเกตตามศูนย์การค้า Community Mall  หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ ที่มีการให้บริการ 24 ชั่วโมง ถือเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงมาก ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด

ทำเล

ทำเลอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยเยอะ ยิ่งใกล้สถานที่พักถือว่าดีมาก เช่น หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม หอพักนักศึกษา ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ตากผ้าเพราะใช้เครื่องอบผ้าแทน ส่วนการสัญจรไปมาต้องสะดวก และมีที่สำหรับจอดรถลูกค้านำผ้ามาส่งซักได้

บทความเกี่ยวกับการเลือกทำเล

คุณภาพและการให้บริการ

นอกจากความสะดวกแล้วลูกค้าที่ใช้บริการมักจะคาดหวังว่าเสื้อผ้าที่ส่งร้านจะต้องสะอาดเรียบร้อยและมีกลิ่นหอมติดทนมากกว่าการซักด้วยตัวเอง ผู้ประกอบการต้องรู้จักหาวิธีการในการควบคุมคุณภาพให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อาจลงทุนสูงในช่วงแรกแต่ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามคาดและคุ้มค่าในระยะยาว รวมถึงระยะเวลาในการให้บริการที่รวดเร็วทันใจ

การตั้งราคา

ราคาที่สูงเกินไปอาจไม่ดึงดูดและราคาที่ถูกเกินไปอาจขาดทุนได้ ราคาต้องอิงกับทำเลและกลุ่มลูกค้า หากมีบริการรับส่งผ้า อย่าลืมที่จะบวกราคาเผื่อเข้าไปด้วย

การตลาด

ควรจะเพิ่มในส่วนของการตลาดออนไลน์ เนื่องจาก Google เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดในการหาทุกสิ่งบนโลกใบนี้ สำหรับลูกค้าที่เพิ่งมาอาศัยอยู่บริเวณนั้นแล้วต้องการหาร้านซักรีด แน่นอนว่าการหยิบมือถือคือหนทางไปสู่คำตอบ อยากให้ร้านเป็นที่รู้จักอย่าลืมที่จะพาธุรกิจของคุณเข้าไปในโลกออนไลน์

การพัฒนาและต่อยอด

ธุรกิจซักรีดย่อมต้องมีการพัฒนาเหมือนกับธุรกิจอื่น ติดตามความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รวมถึงเส้นใยผ้า และการเพิ่มบริการอื่นๆนอกเหนือจากเสื้อผ้า เช่น ผ้าม่าน ผ้านวม ชุดผ้าปูที่นอน พรม

เปิดร้านซักรีดเองหรือซื้อแฟรนไชส์ อย่างไหนดีกว่ากัน

ถ้าจะให้เลือกว่าอย่างไหนดีกว่ากัน คงตัดสินใจยากเพราะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคล การเปิดร้านเองทำให้มีอิสระในการดำเนินการมากกว่า แต่ต้องอาศัยการลองผิดลองถูกเยอะ ส่วนการซื้อแฟรนไชส์อาจไม่มีอิสระมากเท่าการเปิดร้าน แต่เหมือนมีพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา มีระบบที่วางแผนมาให้ง่ายต่อการจัดการ

บางครั้งการทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องคิดในสิ่งที่ยากเสมอไป จุดเริ่มต้นอาจมาจากสถานการณ์ต่างๆรอบตัว เพียงแค่มองให้ลึกขึ้นก็จะเห็นถึงโอกาสที่ อยู่ที่ว่าจะสามารถนำเสนอให้เกิดเป็นธุรกิจได้อย่างไร สำหรับธุรกิจบริการซักรีดแม้จะพบเห็นบ่อยและมีการแข่งขันสูง แต่ยังมีช่องว่างทางการตลาดและสามารถเติบโตได้อีกไกลในอนาคต

บทความเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์

เริ่มต้นธุรกิจอย่างไรไม่ให้เจ๊ง !!!