ช่องทางออนไลน์ที่มาแรงและกำลังมีบทบาทอย่างมากในอนาคต เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็ว อะไรคือสิ่งที่ธุรกิจร้านอาหารควรเรียนรู้

รักในการทำอาหาร เป็นคนที่ชื่นชอบการทานอาหาร หรือมีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความมุ่งมั่นที่ดี แต่การทำธุรกิจไม่ใช่แค่การเตรียมความพร้อมในการเปิดร้านแล้วทุกอย่างจะเสร็จสิ้น ยังมีอีกหนึ่งกระบวนการที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและดำเนินไปได้ในช่วงแรกของการเริ่มต้น นั่นคือการทำการตลาด ที่มีทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่มาแรงและกำลังมีบทบาทอย่างมากในอนาคต เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็ว อะไรคือสิ่งที่ธุรกิจร้านอาหารควรเรียนรู้

1.ถ่ายรูปต้องน่ากิน สร้าง VDO ให้น่าดู

สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์คือการถ่ายรูปอาหาร ความยากอยู่ตรงที่จะทำอย่างไรเมื่อลูกค้ามองเห็นรูปแล้วเกิดความรู้สึกว่าอาหารช่างดูน่ากินเหลือเกิน เนื่องจากเห็นแค่รูปในลักษณะสองมิติ โดยปราศจากกลิ่นถือเป็นด่านแรกที่ต้องให้ความพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดให้คนสนใจ ซึ่งการถ่ายรูปอาหารให้ออกมาดูดีต้องอาศัย

  • สีของอาหารในรูปต้องใกล้เคียงกับของจริง เพื่อไม่ให้รูปออกมาดูจืดชืด มองแล้วไม่น่ารับประทาน
  • ใช้แสงจากธรรมชาติดีที่สุด เลือกมุมถ่ายรูปจากโต๊ะริมหน้าต่าง ดีกว่าใช้แสงจากโคมไฟ
  • ถ่ายแบบ close up ให้เห็นกันแบบชัดๆไปเลย ถือเป็นทีเด็ดที่ช่วยกระตุ้นให้มีความอยากอาหาร
  • สีสันที่ตัดกันบนจานช่วยเพิ่มความน่าสนใจ
  • รูปที่ถ่าย กับอาหารของจริงต้องมีความใกล้เคียงกัน
  • มุมของอาหารมีความสำคัญ เช่น แฮมเบอร์เกอร์ หากถ่ายจากมุมสูงคงไม่มีใครรู้ว่าข้างในใส่อะไรบ้าง เลือกถ่ายให้เห็นเนื้อ ผัก ซอสเยิ้มๆ จะดีกว่า
  • เน้นโชว์จุดเด่นของอาหาร เช่น อาหารที่มีชีส รูปที่ได้ต้องเห็นชีสยืดๆยาวๆ หรือไม่ก็แบบเยิ้มๆ
  • มีการใส่ท่าทางต่างๆ เช่น อาหารที่ต้องราดซอส อาจจะถ่ายให้เห็นว่ากำลังราดซอสอยู่

นอกจากในส่วนของภาพนิ่งแล้ว ภาพเคลื่อนไหวก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยให้เห็นอาหารได้ชัดเจนมาขึ้น ตอกย้ำความน่าลิ้มลองให้กับลูกค้า สร้าง VDO ขึ้นมาให้ดูมีความน่าสนใจ อาจทำเป็นคลิปสั้นๆก็ได้ เช่น

  • ให้เห็นขั้นตอนการทำบางส่วน เช่น อาหารปิ้งย่าง แสดงให้เห็นท่าทางการปิ้งย่าง close up ที่เนื้อกำลังจะสุก หรือการจุ่มเนื้อลงไปในน้ำจิ้มอย่างชุ่มฉ่ำ
  • เลือกทำ VDO เมนูที่เป็นจุดขายของร้าน มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย
  • แอคชั่นต่างๆ เช่น หั่น ยืด ดึง เยิ้ม VDO แนวนี้จะช่วยให้อาหารดูน่ากินขึ้นอีกหลายเท่า
  • ถ่ายให้เห็นบรรยากาศของร้านบ้าง แม้แต่เมนู ราคาต้องชัดเจน

2.ของดีต้องมีรีวิวจาก Blogger หรือ Influencer

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นนั่นคือการอาศัยรีวิวจาก Blogger หรือ Influencer กลุ่มคนเหล่านี้มีผู้ติดตามกันตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน สำหรับผู้ที่เริ่มทำธุรกิจร้านอาหารการที่จะทำให้ร้านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ต้องอาศัยกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ อย่างแรกคือประหยัดเงินและประหยัดเวลา อย่างที่สองคือมีความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดตาม

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าลูกค้าของเราคือกลุ่มไหน เพื่อที่จะหา Blogger หรือ Influencer ให้เหมาะสมกับธุรกิจร้านอาหารของเรามากที่สุด แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ค่อนข้างได้รับความน่าเชื่อถือ ซึ่ง Influencer ที่ดีนั้นต้องแอคทีฟตลอดเวลา มีการอัพเดทเรื่องใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ใช่โพสต์ล่าสุดคือเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนปัจจัยอื่นๆในการพิจารณาเลือกคือ

  • กลุ่มผู้ติดตามเป็นใคร : ตรงกับกลุ่มลูกค้าของร้านหรือไม่
  • จำนวนผู้ติดตามเท่าไหร่ : เป็นการเพิ่มโอกาสให้มีคนเห็นร้านอาหารของเรามากขึ้น
  • มีการโต้ตอบกับผู้ติดตามหรือไม่ : การที่ Influencer มีการพูดคุยกับผู้ติดตามทำให้เห็นถึงการเอาใจใส่ และวิธีในการตอบคำถาม
  • มีความถนัดเกี่ยวกับการรีวิวประเภทไหน : เช่น ร้านอาหารทั่วไป ร้านอาหารเฉพาะกลุ่ม ร้านอาหารตามที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหารในกรุงเทพฯ
  • ผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร : เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเราควรจะเลือกใครให้เหมาะกับการรีวิวร้าน
  • ช่องทางในการใช้สื่อมีทางใดบ้าง : Instagram, Youtube, Website, Facebook หรือ Twitter

3.โฆษณาอย่าเสียดาย Facebook บ้าง Google บ้าง

เป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการตกแต่งมากเกินไปจนมองข้ามการโฆษณา ทั้งที่ในความเป็นจริงควรจะมีการเตรียมเงินทุนส่วนนี้ไว้ด้วย เป็นการทำให้ร้านเป็นที่รู้จักในเบื้องต้น โดยอาศัยระยะเวลาที่ไม่นาน ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของประเทศ ทำให้ผู้คนต่างรับรู้ว่าร้านอาหารของเราอยู่ที่ไหน ขายอะไร และช่วยได้ดีสำหรับร้านอาหารที่ทำเลไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

การมีหลากหลายช่องทางในการโฆษณาย่อมสร้างโอกาสได้มากกว่าการเลือกใช้เพียงแค่ไม่กี่ช่องทาง Platform ที่ได้รับความนิยมสำหรับคนไทยอย่าง Facebook จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการโฆษณาธุรกิจร้านอาหาร

  • Facebook Fanpage

เป็นเหมือนตัวแทนธุรกิจ ที่ถอดแบบร้านอาหารของเราให้มาอยู่ในโลกออนไลน์ ควรเลือกรูปโปรไฟล์ที่ดูน่าสนใจ และการใส่รายละเอียดรวมถึงคำอธิบายที่ชัดเจนช่วยให้ลูกค้ากล้าเข้ามาสอบถามมากขึ้น ซึ่งทาง Facebook เองมีระบบในการสนับสนุนธุรกิจเช่นกัน

  • มีการโปรโมทเพจเพื่อค้นหากลุ่มลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน
  • การแชทแบบตัวต่อตัว ช่วยให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลได้สะดวกขึ้น
  • มี Facebook Fanpage ได้ไม่จำกัดจำนวน
  • มีข้อมูลสถิติให้เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้เข้าชม

การโฆษณาบน Facebook ช่วยให้ค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง โดยใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็ได้

  • สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้เอง
  • ดึงดูดความสนใจด้วยรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย ทั้งรูปภาพ วิดีโอ ภาพสไลด์
  • มีการรายงานผลโฆษณาว่าส่งผลต่อธุรกิจอย่างไร

และอีกช่องทางที่ช่วยให้ผู้คนรู้จักในวงกว้างคือการโฆษณาใน Google ไม่ว่าใครอยากรู้อะไรต่างก็ต้องเข้ามาค้นหากันในนี้

  • Google Adwords
  • ช่วยดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้น สามารถกำหนดโฆษณาว่าเป็นภายในท้องถิ่นหรือทั่วโลก
  • เริ่มต้นด้วยงบประมาณเท่าไหร่ก็ได้ ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน
  • Keyword เป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องใช้คำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา และตอบโจทย์คนที่เข้ามาค้นหา
  • เป็นตัวเชื่อมไปยัง Facebook หรือ Website ของร้าน รวมทั้งรีวิวต่างๆ พูดง่ายๆคืออะไรที่เกี่ยวข้องกับร้านเรา หากมีการโฆษณาบนนี้ก็จะแสดงให้เห็นทั้งหมด

4.ใช้บริการร่วมกับ Application ต่างๆ เพื่อเพิ่มช่องทางขาย

มี Platform ที่หลากหลายเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหาร หนึ่งในนั้นคือการเข้าร่วมเป็น partner กับบรรดา Application ที่เกี่ยวกับร้านอาหาร เป็นการเจาะจงเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง บางรายมีบริการส่งอาหารที่ช่วยเพิ่มความสะดวกทั้งกับร้านอาหารและลูกค้า ไม่ต้องเสียเวลามาจัดการระบบเองทั้งหมด

ซึ่ง Application มีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องเข้าผ่านเว็ปไซต์ บางครั้งการเดินทางไปสถานที่ๆไม่เคยไปมาก่อน การมองหาร้านอาหารที่ถูกใจสักร้านอาจไม่ใช่เรื่องง่าย  การหยิบมือถือขึ้นมาแล้วทำการค้นหาจึงเป็นทางออกที่ดี แม้แต่คนที่อยู่บ้านบางครั้งก็มองหาร้านอาหารที่มีบริการส่งเช่นกัน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจของเราได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จุดเด่นของการใช้บริการผ่านแอปฯคือ

  • เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น บางแอปฯมีผู้ใช้บริการกว่าล้านคน
  • เข้าถึงร้านอาหารท้องถิ่นที่ไม่ได้มีการโฆษณาผ่านช่องทางอื่น
  • ไม่ว่าร้านอาหารขนาดเล็ก ร้านอาหารเปิดใหม่ แม้แต่ร้านอาหารชื่อดังก็เข้าร่วมได้
  • เพิ่มยอดขายมากขึ้น
  • สื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง
  • มีการชำระเงินออนไลน์
  • บางแอปฯมีการรีวิวจากลูกค้า ช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจมากขึ้น

แน่นอนว่าการตลาดออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นสำหรับร้านอาหาร ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของประเทศก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับนักชิมอีกต่อไป ควรเลือกใช้ช่องทางให้เหมาะกับธุรกิจของตนเอง แม้การตลาดที่ดีจะช่วยดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงแรก แต่สิ่งสำคัญที่ครองใจลูกค้าได้คือ เรื่องของรสชาติอาหาร คุณภาพที่มอบให้แก่ลูกค้า และการใส่ใจบริการ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องและมั่นคง

บริการรีวิวร้านอาหาร ผ่านคลิป VDO บทความรีวิวและ แชร์ Social Media

เพิ่มเพื่อน