ทั้ง 5 วิธีการเลือกสินค้ามาขายออนไลน์ สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกท่านจำไว้ก่อนจะเลือกของมาขายก็คือ “ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการตลาดบนโลกออนไลน์และต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้เป็น” ครับ

ในยุคนี้ใคร ๆ ก็อยากขายของออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะนอกจากไลฟ์สไตล์ในการช็อปปิ้งของลูกค้าจะเปลี่ยนมาอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น การขายของออนไลน์ยังสร้างรายได้สร้างกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับพ่อค้าแม่ค้ามากหน้าหลายตา หลายคนเข้ามาลิ้มรสส่วนแบ่งในรูปแบบอาชีพเสริม แต่อีกหลาย  ๆ คนเอาจริงเอาจังสร้างเป็นรายได้หลักหล่อเลี้ยงตัวเองร่ำรวยกันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ยากที่สุดที่ฉุดรั้งฝันหวานแสนโอชะนี้กลับอยู่ที่ขั้นตอนแรกสุดในการขายนั่นก็คือ “ไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี” ในวันนี้เรามีวิธีง่าย ๆ ในการเลือกขายสินค้าออนไลน์มาแนะนำให้กับผู้สนใจอยากผันตัวมาขายของครับ เพื่อจะได้หมดคำถามหมดข้อข้องใจที่ว่า “แล้วจะขายอะไรดี” ตามมาดูกันเลยครับ

ก่อนจะเลือกว่าจะขายอะไร มาทำความเข้าใจกับปัจจัยที่จะกำหนดว่าคุณจะขายสินค้าได้หรือไม่

ถ้าจะแนะนำขั้นตอนการเลือกสินค้าที่จะมาขายก่อนจะพูดถึงปัจจัยที่จะกำหนดการขายก็ดูจะข้ามขั้นตอนไปสักนิด ฉะนั้นเรามาดูกันเสียก่อนครับว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะกำหนดอนาคตในการขายของคุณ

1. สินค้า นี่แหละปัจจัยแรกสุดที่ต้องคำนึงถึง จะรุ่งหรือจะร่วงอยู่ที่สินค้าเป็นอย่างแรก การเลือก สินค้ามาขายคุณควรที่จะคำนึงถึง

-คุณภาพต้องมาก่อนสิ่งใด ถ้าสินค้าที่คุณขายเป็นของดีมีมาตรฐาน คุณก็เก็บดอกเก็บผลในวงการ   ขายออนไลน์กันไปยาว ๆ แต่ถ้าคุณเอาของไม่ดีมาขาย คุณก็เก็บร้านกลับบ้านกันไปยาว ๆ เช่นกัน

-ราคา ปัจจัยนี้มีส่วนสำคัญในการอยู่รอดของคุณ ราคาที่คุณตั้งเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วเป็นอย่างไร    สูงกว่าหรือต่ำกว่าครับ แต่ขณะเดียวกันคุณเองก็ต้องนำเอาปัจจัยด้านต้นทุนมาคิดด้วยว่าเมื่อหักกลบ       ลบหนี้แล้วมันเหลือเป็นกำไรหรือเปล่า

-แพ็คเกจ เรื่องของแพ็คเก็จก็สามารถกำหนดยอดขายได้เช่นกัน ถ้าสินค้าของคุณมีแพ็คเก็จที่สะดุด   ตาย่อมเป็นที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ง่ายครับ

2. ลูกค้า มีสินค้าแล้วไม่มีลูกค้าก็ไม่รู้จะเอาไปขายใครจริงไหม นอกจากตัวสินค้าลูกค้าเองก็คืออีก ปัจจัยสำคัญที่กำหนดอนาคตคุณ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

-ความต้องการของลูกค้า ของที่จะเอามาขายเป็นสิ่งที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าหรือไม่หรือเป็นความ  ต้องการของเราเอง ถ้าคุณเลือกของที่คนอื่นต้องการคุณก็ขายได้แต่ถ้าคุณเลือกจากสิ่งที่คุณต้องการ ของนั้นก็เอาไว้ขายคุณแค่คนเดียว

-ตอบโจทย์การแก้ปัญหา ยิ่งสินค้านั้นตอบโจทย์หรือช่วยแก้ปัญหาบางเรื่องให้กับลูกค้า สินค้านั้นก็  มีโอกาสขายดิบขายดี

-ความพึงพอใจ ส่วนนี้คือเรื่องของอารมณ์ล้วน ๆ แม้สินค้าจะเป็นที่ต้องการและตอบโจทย์เพียงใด แต่ถ้าลูกค้าไม่พอใจเขาก็ไม่ซื้อ นี่จึงเป็นปัญหาที่คุณต้องขบให้แตกครับ

3. การตลาด มีของแต่ไม่รู้การตลาดก็แทบปิดประตูรวย การตลาดที่ต้องคำนึงถึงมีดังนี้

--ช่องทางจำหน่ายหรือช่องปล่อยของ ว่าคุณมีช่องทางนี้มากน้อยเพียงใด ตรงกับช่องทางที่จะเข้าถึง        ลูกค้าหรือไม่

-การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ คือช่องทางที่จะนำเสนอตัวเองให้ลูกค้าเห็น ไม่ว่าจะในเฟซบุ๊ก,       Google, หรือ IG คุณจำเป็นต้องมีงบในด้านนี้ไว้เลย เพราะถ้าไม่มีงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ โอกาส ที่คุณจะขายของสำเร็จก็ยาก

--เครื่องมือทำการตลาดออนไลน์ ปัจจุบันมีหลากหลายเครื่องมือให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก การทำ SEO หรือการทำ CRM เครื่องมือเหล่านี้มีส่วนช่วยทั้งการหาลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเดิมครับ

4. การบริการ สินค้าที่ดีต้องมาพร้อมการบริการที่ดี ถ้า 2 สิ่งนี้ไม่ไปด้วยกัน คุณมีโอกาสจบเห่เอา ง่าย ๆ  การบริการแบ่งได้เป็น

-การบริการก่อนการขาย คุณต้องสร้างความประทับใจและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า สินค้าของคุณ  จึงจะมีสิทธิขายได้

-การบริการระหว่างการขาย มักจะมาในรูปแบบของการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หากคุณให้   ข้อมูลเพิ่มเติมได้ละเอียด และตอบข้อซักถามได้เป็นที่น่าพอใจคุณก็ปิดการขายได้ง่าย

-การบริการหลังการขาย การขายจะสำเร็จอย่างง่ายดายถ้าลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำหรือบอกต่อ คุณต้อง สานความสัมพันธ์กับลูกค้าเหล่านี้ไว้ให้ได้ แล้วของของคุณจะขายได้ไม่รู้จบครับ

5 วิธีเลือกสินค้ามาขายออนไลน์ : ขายออนไลน์อะไรดีเรามีคำแนะนำ

รหัสคำเชิญของฉัน 183772
รหัสคำเชิญของฉัน 183772

เมื่อเรารู้ปัจจัยที่จะกำหนดความสำเร็จกันแล้ว คราวนี้เรามาดูกันครับว่าเราจะใช้อะไรมาเลือกของที่จะขายกันดี ถ้าพรอ้มแล้วตามมาครับ

            1. เลือกสินค้ามาขายออนไลน์ตามกระแส ส่องสินค้าขายดี

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นและช่วยคัดกรองความผิดพลาดไปได้ส่วนหนึ่งครับ สำหรับที่ ๆ อยากแนะนำให้เข้าไปส่องก็คือตาม “market place” อย่าง Lazada, Shoppee, alibaba, ebay และเข้าไปดูในหมวดหมู่สินค้าขายดี ซึ่งถ้ามีสินค้าตัวใดที่คุณสนใจอยู่แล้ว คุณก็เลือกนำมาขายได้เลยครับ วิธีการนี้เป็นการทำ market research เบื้องต้นให้กับคุณ

        2. เลือกร้านที่สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบ dropship ขายออนไลน์

วิธีการนี้เป็นการขายของที่คุณแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แม้แต่การสต็อกสินค้า ถ้าคุณสนใจก็แค่ติดต่อตัวแทนที่รับจำหน่ายแบบ dropship แล้วขอข้อมูลรายละเอียดสินค้านำมาโพสต์ เมื่อมีลูกค้าออเดอร์เข้ามาคุณแค่เพียงส่งออเดอร์นั้นแก่ร้านค้าโดยคุณจะได้ค่าส่วนต่างตามกำหนด วิธีการนี้คุณอาศัยแค่ความรู้การตลาดเท่านั้นครับ ถ้าจะให้ดีคุณควรลองใช้สินค้านั้นเสียก่อน คุณจะได้ตอบคำถามลูกค้าได้

        3. เลือกจากขายของมือสองที่อยู่ในบ้าน

วิธีการนี้เป็นวิธีการที่มีต้นทุนต่ำเช่นกัน แค่คุณนำสินค้าหรือของใช้ในบ้านที่อยู่ในสภาพดีมาโพสต์ขายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือของใช้อื่น ๆ ในบ้านเพียงเท่านี้ ของมือสองที่คุณเบื่อและไม่คิดจะใช้อีกต่อไปก็จะเปลี่ยนเป็นเงินให้กับคุณได้เช่นกัน

         4. เลือกสินค้ามาขายออนไลน์โดยไปเดินดูตามห้างหรือแหล่งขายส่งสินค้า

ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะขายอะไรดีหรือนึกภาพไม่ออก วิธีง่าย ๆ อีกวิธีคือการไปเดินดูตามสถานที่จริงไม่ว่าจะเป็นตามห้างขนาดใหญ่เช่นโฮมโปร, แม็คโคร หรือสำเพ็ง แล้วลองติดต่อร้านค้าเพื่อขอถ่ายรูปสินค้าไปเช็คกระแสความต้องการครับ ซึ่งถ้าคุณทำได้ก็จะเป็นอีกวิธีที่มีต้นทุนที่ต่ำมากเช่นกัน คโครมื

        5. เลือกจากความชอบ ความต้องการของตัวเอง

เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมาที่สุดคือชอบอะไรก็ทำสินค้านั้นมาขายเลย เช่น บางคนอาจจะชอบทำขนม ทำคุ๊กกี้ ทำกระเป๋า ก็ทำออกมาขายเลยโดยอาจใช้วิธีการ per-order เพื่อลดต้นทุนครับ ถ้าคุณรักจะขายด้วยวิธีนี้ก็อย่าเพิ่งไปสนใจรายได้ในช่วงแรกเพราะมันจะค่อย ๆ เติบโตเอง แต่สิ่งที่คุณจะได้แน่ ๆ คือ ความสุขในการทำสิ่งที่รักครับ

ทั้ง 5 วิธีการเลือกสินค้ามาขายออนไลน์ สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกท่านจำไว้ก่อนจะเลือกของมาขายก็คือ “ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการตลาดบนโลกออนไลน์และต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้เป็น” ครับ และอย่าเลือกแค่สินค้าที่จะนำมาขายแต่ “จงลงทุนในเรื่องของความรู้ด้านการตลาด” แล้วความสำเร็จที่จับต้องได้จะมาหาคุณเอง