ในอดีตที่ผ่านมาแม้จะมีโรงเรียนกวดวิชาหรือสถาบันติวเตอร์เกิดขึ้นมากมายแต่การแข่งขันก็ยังไม่ดุเดือดและรุนแรงเฉกเช่นในปัจจุบันที่นักศึกษาจบใหม่หรืออาจารย์ต่างก็ผันตัวเองเป็นติวเตอร์กันมากมายประกอบกับการคาดหวังของผู้ปกครองและเด็กนักเรียนที่ต่างก็ต้องการทำคะแนนสอบในชั้นเรียน สอบแข่งขันเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงรวมทั้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีสูงมากการแข่งขันในวงการนี้จึงพลอยดุเดือดตามขึ้นมาด้วย การทำการตลาดออนไลน์จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจสถาบันติวเตอร์และโรงเรียนกวดวิชาประสบความสำเร็จในแง่ที่เป็นที่รู้จักมากขึ้น การตลาดสำหรับโรงเรียนกวดวิชาและสถาบันติวเตอร์มีวิธีการอย่างไร วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากครับ

7 วิธีการทำการตลาดออนไลน์สำหรับโรงเรียนกวดวิชาและสถาบันติวเตอร์

1. จะทำการตลาดออนไลน์ถึงอย่างไรก็ต้องมีเว็บไซต์

เว็บไซต์คือประตูบานแรกที่จะเชื่อมต่อธุรกิจของคุณเข้าสู่โลกออนไลน์เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดผู้คนให้เข้ามารู้จักหรือเข้ามาทำความรู้จักกับคุณ เว็บไซต์ยังเป็นเสมือนฐานบัญชาการที่ช่วยให้คุณทำการตลาดออนไลน์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย หากคุณคิดจะทำการตลาดออนไลน์ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใด หน้าเว็บไซต์ที่เป็น Official website คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีโดยไม่อาจปฏิเสธได้ครับผู้ที่คิดทำการตลาดออนไลน์โดยไม่มีหน้าเว็บไซต์และคิดแต่จะอาศัยแพลตฟอร์มของคนอื่นนั่นคือคุณกำลังยืมจมูกคนอื่นหายใจซึ่งไม่ว่าเขาจะออกกฎเกณฑ์ใดออกมาคุณก็ต้องน้อมรับอย่างช่วยไม่ได้ไม่ว่าคุณจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม

2. สร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ลงไปในเว็บไซต์และหมั่นอัปเดตคอนเทนต์อยู่เสมออย่าได้ขาด

เครื่องมือสำคัญที่มักใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ก็คือการสร้างคอนเทนต์ครับ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของสถาบันกวดวิชาการทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับคุณก็คือคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทเรียนที่คุณสอนครับ ไม่ว่าจะเป็นคลิปวิดีโอ สไลด์ภาพนิ่ง หรือบทความเนื้อหาย่อยๆ ที่สำคัญๆ ในบทเรียนหรือการเฉลยข้อสอบก็ตาม การทำเช่นนี้นอกจากจะช่วยแบ่งปันความรู้ของคุณไปสู่เด็กนักเรียนยังเป็นการช่วยโฆษณาความรู้และความสามารถของคุณไปในตัว ซึ่งผลลัพธ์ที่ตอบกลับมาหาคุณก็คือความน่าเชื่อถือของคุณเองที่เพิ่มมากขึ้นครับ

3. สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนให้แก่น้องๆ นักเรียนในการก้าวตามความฝันสู่คณะเด่นมหาวิทยาลัยโปรด

คอนเทนต์ประเภทนี้เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจครับ เพราะธรรมชาติของนักเรียนที่กำลังเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมในการเรียนเพื่อทำคะแนนสอบเข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการต่างก็ต้องการที่พึ่งทางใจหรือใครสักคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาต่อสู้ในสนามการเรียนและการสอบนั้น หากคุณสามารถสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้แก่พวกเขาก็เสมือนกับว่าคุณนั้นเข้าอกเข้าใจและพร้อมจะยืนเคียงข้างในสนามสอบนี้ไปกับพวกเขา นี่คือวิธีการที่น่าสนใจในการเข้าหากลุ่มเป้าหมายครับ จงพยายามทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าคุณเป็นพวกเดียวกับเขาด้วยการสร้างแรงบันดาลใจและแสดงความเข้าอกเข้าใจต่อพวกเขา วิธีการนี้คุณจะได้ลูกค้ากลับมาอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

4. ตัวอย่างของความสำเร็จคือสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดและมีอิมแพคต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

อีกวิธีการหนึ่งที่สถาบันกวดวิชามักจะชอบนำมาใช้ก็คือ “การนำความสำเร็จของศิษย์เก่ามาเป็นตัวอย่าง” วิธีการนี้สร้างอิมแพคให้เกิดขึ้นอย่างสูงครับ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยแสดงถึงผลงานของทางสถาบันได้เป็นอย่างดี ดั่งคำกล่าวที่ว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หากคุณมีลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จก็อย่าลืมที่จะนำรายชื่อของพวกเขามาเป็นคำนิยมให้แก่สถาบันของคุณ เพราะสิ่งเหล่านี้คือเครื่องแสดงผลงานในระดับมาสเตอร์พีซว่าสถาบันของคุณ “เจ๋ง”แค่ไหนและน่าเชื่อถือมากเพียงใด

5. มองกลุ่มเป้าหมายให้ออกแล้วเจาะลึกลงไปถึงแหล่งที่กลุ่มเป้าหมายนั้นๆ อยู่

กลุ่มเป้าหมายของสถาบันกวดวิชาไม่ได้มีแต่เพียงน้องๆ นักเรียนเท่านั้นแต่กลุ่มเป้าหมายนั้นยังรวมไปถึงกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการส่งลูกหลานมาเรียนเสริมเพื่อสร้างอนาคตอีกด้วยซึ่งทั้ง 2 กลุ่มเป้าหมายนี้ต่างมีแหล่งชุมนุมที่ไม่เหมือนกันและเนื้อหารวมถึงรูปแบบที่คุณจะนำมาทำเป็นคอนเทนต์แนะนำสถาบันก็ไม่เหมือนกัน แยกให้ออกว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มต้องการคอนเทนต์ในรูปแบบใดและทำคอนเทนต์ที่ตรงใจและเจาะไปถึงแกนกลางความต้องการของพวกเขา แล้วการทำการตลาดออนไลน์ของคุณจะประสบความสำเร็จ

6. ปล่อยคลิปการเรียนการสอนใน class ลงในเว็บไซต์บ้างเพื่อสร้างความน่าสนใจให้แก่สถาบันของคุณ

การตลาดเชิงรุกในอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ “การนำเสนอสินค้าออกไปโดยตรง” สำหรับธุรกิจสถาบันกวดวิชา สินค้าที่ดีที่สุดในการนำเสนอจึงหนีไม่พ้น “คลิปวิดีโอการเรียนการสอยภายในคลาส” จริงๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องปล่อยวิดีโอทั้งหมดของคลาสออกมาก็ได้เพียงแต่ปล่อยแค่บางส่วนของคลาสออกมาคัดเลือกเนื้อหาหรือบรรยากาสการเรียนการสอนที่น่าสนใจออกมาแล้วจัดการปล่อยคลิปเหล่านั้นลงไปบนเว็บไซต์ หากบรรยากาสการเรียนการสอยและวิธีการสอนของคุณไปเข้าตากลุ่มเป้าหมายพวกเขาก็จะเข้ามาเป็นลูกค้าของคุณเองครับ

7. อย่าละเลยการมีคอร์สเรียนออนไลน์

วิธีนี้อาจจะไม่ใช่การทำการตลาดออนไลน์โดยตรง แต่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่สถาบันกวดวิชาของคุณครับ
เพราะแม้เนื้อหาและบรรยากาศในการเรียนการสอนของคุณจะน่าสนใจแต่ถ้าเวลาในการจัดคอร์สหรือสถานที่ไม่เอื้อให้กลุ่มเป้าหมายมาใช้บริการ การทำการตลาดออนไลน์ทั้งหมดก็แทบไม่มีความหมายใดๆ เลยเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายลองนำคอร์สเรียนของคุณมาจัดในรูปแบบของคอร์สเรียนออนไลน์ดูสิครับ วิธีการนี้นอกจากที่คุณจะได้ลูกค้า ได้รายได้เพิ่มยังเป็นการประหยัดต้นทุนไปได้หลายส่วนเลยทีเดียว เพราะคอร์สเรียนออนไลน์เป็นสินทรัพย์ที่อาศัยการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถเก็บเกี่ยวรายได้คืนมามากมาย สิ่งสำคัญเดียวที่คุณต้องคำนึงก็คือ “ต้องหมั่นอัปเดตเนื้อหาสำคัญอยู่เสมอ” เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถนำคอร์สออนไลน์มาเป็นส่วนหนึ่งในการทำการตลาดออนไลน์ได้แล้ว

การตลาดออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจทุก ๆ ธุรกิจครับ เพราะหากจะหาเครื่องมือใดที่มีอานุภาพในการทะลุทะลวงและทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักได้มากก็คงจะไม่มีเครื่องมือใดที่ทำได้เท่ากับการทำการตลาดออนไลน์อีกแล้ว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของสถาบันกวดวิชาและอยากให้สถาบันของคุณเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์การตลาดออนไลน์ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน

บริการอบรม ให้คำปรึกษา Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัวการตลาดออนไลน์สำหรับโรงเรียนกวดวิชา