อยากจะขยายธุรกิจแต่ตอนนี้ไม่มีทุน !!!

มีน้องท่านหนึ่งเข้ามาพูดคุยขอคำแนะนำเรื่องช่องทางในการขยายธุรกิจ แต่เจอปัญหาเรื่องของเงินทุนที่พอมีนะ

แต่ไม่พอที่จะขยายธุรกิจได้ตามสเกลที่ต้องการ…

ผมว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะเจอปัญหานี้นะครับ เลยถือโอกาสนี้เขียนบทความนี้มาบอกเล่าวิธีการเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีมาเป็นทุนในการขยายธุรกิจ

ก่อนจะพูดถึงปัญหาเราลองมาดูข้อมูลสถิติเกี่ยวกับการเติบโตของ SMEs ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้หน่อยนะครับ

ผมพบคำสัมภาษณ์จากผู้บริหารจากธนาคารเกียรตินาคิน

(แหล่งข้อมูลhttp://www.kiatnakin.co.th/news-detail.php?id=287 )

“ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโตขึ้นเป็นลำดับ ส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินนโยบายส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีของภาครัฐ และธนาคารพาณิชย์เองได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มเอสเอ็มอีมากขึ้น ในระยะต่อไปการขยายตัวของสินเชื่อกลุ่มนี้จึงมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น”

การเติบโตของ SMEs ก็มาพร้อมกับการเติบโตของสินเชื่อนี่แหละ ทว่าการกู้เงินเพื่อธุรกิจมันมีเงื่อนไขหลายอย่างทำให้พวกเราหลายคนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้

แล้วน้องคนนี้จะทำอย่างไรดี ?

 

เริ่มต้นสู่การขยายธุรกิจ ปัญหาหลักคือเรื่องเงินทุนในการขยายธุรกิจ

            น้องมันเล่าให้ผมฟังว่า ตอนนี้สินค้าเริ่มเข้าตลาดได้แล้วกำลังจะขยายกำลังการผลิตเพิ่ม

แต่ติดปัญหาว่าเงินทุนขาดมือ พอไปคุยกับแหล่งเงินทุนธนาคารก็ยังไม่สามารถกู้ได้เพราะเพิ่งทำธุรกิจไม่นาน

ยังไม่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการกู้สินเชื่อ SME

เขาเลยแนะนำให้กู้แบบ Personal Loan ก็ยังคิดหนักอยู่พอสมควรเพราะดอกเบี้ยค่อนข้างสูง

โดยส่วนตัวแล้วผมก็เจอปัญหานี้เช่นกันครับ ปัญหาใหญ่เลยหละ ไม่มีหลักประกันที่จะนำไปเป็นเงินทุนในการกู้เพื่อขยายกิจการ ตอนนั้นสิ่งที่ผมทำคือการใช้บัตรเครดิตรูดเงินสด ใช้การกู้แบบ Personal Loan

ต้องบอกว่าเป็นวิธีที่ควรเป็นคำตอบสุดท้ายที่ควรจะเลือกครับแต่ตอนนั้นผมไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากนัก

เพราะไม่ได้มีทรัพย์สินอะไร แต่ถ้าเป็นตอนนี้ผมคงเลือกใช้วิธีการที่จะเปลี่ยนทรัพย์สินมาเป็นทุนครับ

 

แนวคิดเปลี่ยนทรัพย์สินมาเป็นทุน ใช้รถแทนเงินทุน

จริง ๆ แนวคิดนี้ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่มากมายนักครับ ถ้าเรามีบ้าน รถ ที่ดิน

เราก็สามารถที่จะนำทรัพย์สินเหล่านี้มาค้ำประกันในการกู้เงินเพื่อนำมาขยายธุรกิจของเรา

ผมก็แนะนำน้องมันไปว่ามีรถผ่อนหมดแล้วไม่ใช่หรือ ? ก็เอารถที่มีมาเป็นทรัพย์สินที่จะไปค้ำประกัน

นำเงินกู้ออกมาจากธนาคาร เงินก็ได้มาต่อยอดธุรกิจ รถเราก็ยังใช้ขับส่งของ ไปหาลูกค้าได้อยู่

ช่องทางนี้มันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ

แต่เรื่องมันก็ยังไม่ได้จบลงแค่นี้สิครับ แล้วจะเลือกนำรถไปค้ำประกันนำเงินทุนจากแหล่งเงินทุนธนาคารไหนดีหละ ?

 

แนวทางการเลือกสินเชื่อรถมาเป็นทุนการทำธุรกิจ

เมื่อน้องตัดสินใจว่าจะนำรถมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันธนาคาร ผมก็เสนอแนวทางให้น้องมันลองไปสำรวจตามเงื่อนไขด้านล่างนี้นะครับ เพื่อน ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นะครับ

1.หาข้อมูลให้ครอบคลุม

สินเชื่อเพื่อ SME อาจอยู่กระจัดกระจาย ทำให้คุณต้องเสียเวลาในการหา คุณอาจเข้าระบบค้นหาข้อมูล เช่น  Google ค้นหาข้อมูลสินเชื่อสำหรับคนทำธุรกิจ SME เพื่อเปรียบเทียบข้อมูล จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของสินเชื่อทั้งหมด

2.เลือกสถาบันการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เพราะคุณจะได้รับความคุ้มครอง และเกิดความเชื่อมั่น ไม่มีปัญหาตามมา  ถ้าคุณทำตามกติกาหรือกฎเกณฑ์

ของสถาบันการเงินนั้น ๆ ก็เชื่อว่าเมื่อถึงครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไข คุณก็จะได้รับความคุ้มครองจนถึงนาทีสุดท้าย

3.เปรียบเทียบวงเงินให้กู้

ในแต่ละสถาบันจะมีข้อกำหนดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะวงเงินให้กู้ที่บางแห่งอาจให้กู้ถึง110 % หรือ 100 % ของราคาประเมิน แต่บางแห่งอาจให้กู้ 80% ของราคาประเมิน เห็นไหมว่าแต่ละแห่งมีวงเงินให้กู้ไม่เหมือนกัน

คุณจึงต้องทำการเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจเพื่อให้ได้วงเงินที่เพียงพอต่อการนำไปใช้ในการลงทุนของคุณ

ตารางสินเชื่อรถยนต์เพื่อ SMEs ของแต่ละธนาคาร 

ธนาคารอายุรถสูงสุด(ปี)ระยะเวลาสินเชื่อสูงสุด(ปี)จำนวนเงินสินเชื่อสูงสุด

ธนาคารเกียรตินาคิน

KK SME รถคูณ 3

86300% ราคาประเมิน

ธนาคารไทยพาณิชย์

สินเชื่อรถคือเงิน

 My Car My Cash

1352 ล้านบาท

ลีสซิ่งกสิกรไทย

สินเชื่อรถช่วยได้

กสิกรไทย

145100% ราคาประเมิน

ธนาคารธนชาต

รถแลกเงิน

166100% ราคาประเมิน

ธนาคารทิสโก้

สินเชื่อทะเบียนรถยนต์

175100% ราคาประเมิน

กรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง

บริการสินเชื่อ

รถหมุนเงิน

15790% ราคาประเมิน
กรุงศรี ออโต้

กรุงศรี คาร์ฟอร์ แคช

สินเชื่อเพื่อคนมีรถ

156100% ราคาประเมิน

4.ตรวจสอบระยะเวลาการให้กู้

ระยะเวลาการให้กู้ก็มีความสำคัญ เพราะจะทำให้คุณบริหารเวลาให้ทันกับการใช้คืนหรือก่อนกำหนดก็ดีกว่าส่งใช้ล่าช้า

ซึ่งจะถือว่าผิดเงื่อนไขตามมา ก็ขอให้คุณคาดคะเนว่าเงินที่ได้มานี้สามารถบริหารให้งอกเงยและทันตามกำหนดชำระสินเชื่อหรือไม่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นกับการวางแผน ถ้าวางแผนดีการขอสินเชื่อก็ไม่ถือว่าเป็นภาระหนี้แต่อย่างใด

5.เช็คอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยยิ่งถูกยิ่งดี เพราะจะทำให้คุณจ่ายน้อยกว่า ได้ประโยชน์มากกว่า

ซึ่งคุณต้องทำการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยก่อนตัดสินใจเพราะตัวเลขที่ต่างกันเล็กน้อยก็มีผลต่อจำนวนเงินที่คุณต้องเสียไปด้วยเช่นกัน

6.สอบถามรายละเอียด

เมื่อคุณได้ข้อมูลคร่าว ๆ จากการค้นหาด้วยตนเองแล้ว ก็เตรียมเอกสารให้พร้อม แล้วไปติดต่อกับสถาบันการเงินนั้น ๆ

เมื่อทางสถาบันการเงินที่คุณไปขอสินเชื่อตรวจสอบแล้วคุณเข้าหลักเกณฑ์ทุกประการ การอนุมัติก็จะเร็วขึ้น

เรียกว่ามีการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปติดต่อจะทำให้คุณไม่เสียเวลาและได้เงินตามเวลาไม่ยืดเยื้อให้เสียอารมณ์อีกด้วย

น้องมันหายไปสักพักแล้วก็โทรกลับมาหาผมว่า ขอบคุณคำแนะนำมากตอนนี้มันได้เงินทุนมาขยายกิจการมันแล้วครับ

คราวนี้ผมก็ถามน้องมันบ้างครับว่า สุดท้ายแล้วเลือกธนาคารอะไร

น้องมันก็บอกว่า เลือกสินเชื่อ KK SME รถคูณ 3 เหตุผลเพราะ

สามารถกู้ได้วงเงินสูงสุดถึง 3 เท่าของมูลค่ารถ แถมใช้รถเป็นหลักประกันได้ถึง 3 คัน น้องมันยื่นกู้ไปใช้เวลา 6 ปีในการผ่อนจ่าย ทำให้มีเวลาหายใจหายคอในการทำธุรกิจไม่เร่งจนเกินไปได้อัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากนักเทียบเท่า effective rate 14.95%* ต่อปีและไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. 1.75% ของวงเงินสินเชื่อตลอดอายุสัญญาแต่มีจ่ายค่าธรรมเนียมในการอนุมัติสินเชื่อ 2.50% ของวงเงินอนุมัติซึ่งทุกธนาคารก็อัตราก็ใกล้เคียงกัน สุดท้ายคือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ อีกเล็กน้อย

สรุปน้องมันก็ได้เงินจากรถที่มีไปขยายธุรกิจด้วยสินเชื่อรถค้ำ ต่อยอดธุรกิจได้ไม่สะดุด กิจการก็ขยายไปได้เร็วมากขึ้นครับ

ถ้าเพื่อน ๆ กำลังจะขยายธุรกิจ การนำรถมาเป็นทุนก็เป็นแนวคิดที่ไม่เลวเลยนะครับ !!