ผมเชื่อว่าหลายคนมักสะดุดหกล้มก่อนที่จะได้มีโอกาสลองทำอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตด้วยคำพูด “หวังดี” ของเพื่อน ๆ ญาติพี่น้อง แต่ความหวังดีบางครั้งมันก็ทำร้าย “หัวใจดวงน้อย ๆ “ ของเราให้ฟ่อห่อเหี่ยว จนไม่กล้าทำอะไร ใช้ชีวิตไปแบบเดิม ๆ ทุกวันหนะดีแล้ว

ไม่ผิดหรอกนะครับที่เพื่อนหรือญาติเราเขาเป็นห่วง แต่ผิดที่เราไม่ทำให้หัวใจเรา “เข็มแข็ง” ต่างหาก เราเองต่างหากที่ไม่กล้า “สู้” หรือ เอาชนะคำพูดเหล่านั้น เพราะตัวเราก็เชื่อ “คำพูด” ของเพื่อน มากกว่า “เชื่อหัวใจ” ของเราเอง

ผมมีคำพูดที่จะมาทดสอบ “หัวใจ” ของพวกเราครับว่าจะแกร่งแค่ไหน พร้อมที่จฝ่าฟัน ก้าวเท้า พาตัวเองไปให้ถึงความฝันได้มากน้อยขนาดไหน

12 คำพูดฉุดชีวิต ให้ติดลบ

1.คิดดูดี ๆ นะ

สั้น ๆ แต่ “จุก” คิดดูดี ๆ นะ เขาหวังดีบอกให้เราคิดดูดี ๆ ว่าที่เราจะทำนั้นหนะ มันดีแล้วจริงหรือ รอบคอบแล้วจริงหรือ โดยส่วนใหญ่เมื่อเจอคำนี้ ก็จะกลับไปคิดดู(ไม่)ดี ๆ ถอดใจเสียตั้งแต่เราคิดหละ

2.ยังไม่มีใครเคยทำ

ใช่เลย พอเจอคำนี้หลายคนก็เริ่มคิดหนัก ยังไม่มีใครทำ แล้วกรูจะทำได้ไหมนี่ เริ่มหนักอกหนักใจ จะเอาอย่างไรดี ไปต่อก็ชักเริ่มไม่แน่ใจ ท้ายสุดอาจจะจบด้วยโครงการดีๆแบบนี้ก็ยังไม่มีใครทำอีกต่อไป

3.คนเขาทำกันเยอะแล้ว

จะทำไปทำไมคนทำกันล้นหลาม คนนี้ก็ขาย คนโน้นก็ทำ มันเต็มไปหมดแล้ว จะไปสู้เขาได้อย่างไร อีกนั่นแหละครับ ไม่มีคนทำก็เป็นปัญหา คนทำเยอะก็ยิ่งเป็นปัญหา จบครับ พับเสื่ออีกตามเคย

4.จะเอาทุนมาจากไหน

ทุนไม่มีคิดได้แต่ทำไม่ได้เป็นเยอะครับ พอใครทักก็ชักเริ่มหดหู่น้อยใจในโชคชะตาความจนของตัวเอง ไร้วาสนาจะร่ำรวย จริงๆ แล้วถ้าเราไม่ถอดใจเรื่องทุน ผมว่าทุกอย่างมันเริ่มจากจุดเล็ก  ๆ เท่าที่ทุนเราพอมีได้นะครับแล้วค่อยขยับขยาย

5.จะมีใครใช้ของแกหวะ

นั่นสินะ !!!! ไอ้ที่เราคิดเราจะทำ มันจะมีใครใช้ใครซื้อ ถ้าทำมาแล้วขายไม่ได้จะทำอย่างไร เงินก็ลงทุนไปแล้ว ลังเลจนได้ คือถ้าตัวเราคิดว่าสิ่งที่เราทำมันช่วยแก้ปัญหาได้ มันก็ขายได้นะครับ ผมยกตัวอย่าง “แผ่นติดก้นกันตดเหม็น” แชร์กันในเฟส คุณคิดว่ามันขายได้ได้ไหม จะมีใครซื้อไหม เชื่อสิครับว่ามันขายได้ ไม่ลองไม่รู้ครับ

6.มีความรู้แค่ไหนกันเชียว

ไม่มีความรู้ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร จะทำอย่างไร จริง ๆ ทางออกมันก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ถ้าเราอยากทำสิ่งนั้นจริงๆ ก็แค่หาความรู้เพิ่ม ถามผู้รู้ หาหนังสือมาอ่าน หรือ เรียนเพิ่ม เอาให้มันรู้จริง ทำไปเรียนรู้ไปก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ แต่โดยส่วนใหญ่ถอดใจเพราะ “ไม่รู้ใจตัวเอง” มากกว่า “ไม่รู้ภายนอก”

7.จะบ้าไปแล้วหรือมึง

บางทีความคิดเรามัน “หลุด” จนเพื่อน ญาติหาว่า “บ้าไปแล้ว” พอเพื่อนทักก็กลับได้สติเหมือนได้ยาขนาดเอก กลายเป็นว่า “กูไม่ทำหละ” เพราะไม่อยากบ้า มีตัวอย่าง “คนบ้า”

หลายคนครับที่ตอนคิดช่วงแรกเขามักได้ยินคำพูดว่า “มึงจะบ้าไปแล้ว” เช่น ริชาร์ด แบรสัน จะทำทัวร์ไปเที่ยวนอกโลก ,มาร์ค ชัคเกอร์เบิร์ก จะทำสมุดเยี่ยมชมใหม่ในมหาลัย เป็นต้น แต่ผู้คนเหล่านี้ เขาก็ยัง “บ้า” ที่จะทำครับ สุดท้าย “ความบ้า” ของพวกเขาก็นำสิ่งใหม่ ๆ มาให้กับพวกเราได้ใช้กัน ลอง “บ้า” ให้มันสุดไปสักอย่างสิครับ ….ถึงจะบ้าแต่ว่าไม่โง่

8.มึงก็ลองดูถ้าไม่เชื่อกู

ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู !!! กลายเป็นว่าเชื่อเลยไม่ลอง ไม่ทำ เพื่อนก็สมน้ำหน้ากูว่าแล้ว ผมอยากบอกว่า การปรึกษาใครสักคนเราควรปรึกษาคนที่ “สู้ชีวิต” ไม่ใช่คุยกับคน “ไม่เอาอะไรสักอย่าง”  เพราะคำตอบที่ได้ หรือ คำแนะนำที่ได้มันต่างกันมากครับ ไม่เชื่อลองดูสิ

9.อย่าเสี่ยงเลยหวะ

ความเสี่ยง กับ ไม่เสี่ยง มันค่ากันแค่เส้นบาง ๆ ครับ ความเสี่ยงหนึ่งที่เราต้องระวังคือ “คำพูดที่ทำลายความหวัง” ใช่ครับ มันเสี่ยงที่สุดแล้ว เพราะหากเราเจอแล้วความหวังเราโดนทำลาย แล้วเราจะมีอะไรให้ได้หวังอีก

สิ่งที่ควรทำหากต้องการเอาชนะความเสี่ยง คือ ลงมือทำมันไปเลยครับ เพราะเสี่ยงมีโอกาสได้กับเสีย (แต่ก็ยังได้ความรู้) แต่หากไม่เสี่ยงเรามีแต่ เสียกับเสีย

10. เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า

อะไรดีกว่า ? ต้องลองถามกลับไปดูบ้างนะครับ ถ้าเรามั่นใจว่าตอนนี้มันดีถึงแม้มันไม่ได้ดีที่สุด เราก็ควรจะเดินหน้าครับ

11.เจ๊งขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร

เจอคำว่า “เจ๊ง” ก็สะดุดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มกันเลยครับ ถ้าถามผมว่าเจ๊งแล้วจะทำอย่างไร ผมก็ตอบว่า “เจ๊ง” ก็คือ “เจ๊ง” ครับ ก็หากันใหม่ ทำกันใหม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเราจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ธุรกิจเรา “เจ๊ง” ถูกต้องไหมครับ คำว่า “พยายายามทุกวิถีทาง” นี่แหละครับเป็นสิ่งมีค่าที่เรามิอาจประเมินค่าได้ในการที่เราจะทำอะไรสักอย่าง แต่หากเรา “ถอยทุกเรื่อง” นั่นเท่ากับว่าชีวิตเรามัน “เจ๊ง” แบบ “ล้มละลาย” ไปทั้งชีวิต

12.มึงทำไม่ได้หรอก

สุดท้าย ทำไม่ได้หรอก จบเกม หรือว่ากูจะทำไม่ได้จริง ๆ ดังที่คนอื่นเขาว่า คำถามคือ “ชีวิตเราควรจะอยู่ภายใต้คำพูดของคนอื่น” อย่างนั้นหรือ เราเลือกที่จะ “ทำได้” ตามสิ่งที่เราคิดปรารถนาไม่ได้หรือ หรือเลือกที่จะ “ทำไม่ได้” ตามลมปากของใครบางคนที่เราไม่อาจ “ฝากชีวิตและอนาคต” ไว้กับเขาได้กันหละ

ยังมีคำพูดอีกมากมายครับที่เป็น “เสียงภายนอก” ที่เรามักได้ยินแล้วมัน “สะเทือน” ไปถึงภายในหัวใจ ความคิด จิตวิญญาณ ของเรา สุดท้ายเราก็บอกตัวเองว่าเรามันเป็น “ไอ้คนขึ้แพ้” เพราะแม้แต่คำพูดเพียงไม่กี่คำ มันก็ทำให้เรา “หยุด” ทำให้เราจบ “อนาคต” ไว้แค่นั้น

                เราเลือกที่ “ฟัง” ได้ พร้อม ๆ กับเลือกที่จะ “ไม่ฟัง” ได้เช่นกัน

                เราเลือกที่จะ “เชื่อ” ได้ พอ ๆ กับเลือกที่จะ “ไม่เชื่อ” ได้เช่นกัน

                เราเลือกที่จะ “ทำ” ได้ พอ  กับเลือกที่จะ “ไม่ทำ” ได้เช่นกัน

                เราเลือกที่จะฝากชีวิตอนาคตของตัวเราไว้กับ “คำพูดของใคร” หรือเลือกอยู่กับ “ใจของเราเอง”……

                คำตอบไม่ได้อยู่ที่บทความนี้แต่อยู่ที่ “หัวใจ” ของคุณเองครับ