Facebook Group นั้นเป็นทัพเสริมที่ทรงประสิทธิภาพในด้านการสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์สินค้าซึ่งจะส่งผลถึงอัตราความยั่งยืนของกลุ่มลูกค้า และสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้จากการแนะนำสินค้าผลิตภัณฑ์ของเราให้กับสมาชิกภายใน Group

ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับช่องทางการขายสินค้าและลงโฆษณาสินค้าในรูปแบบของ Fanpage ที่สามารถโพสข้อความเพื่อโฆษณาสินค้าเรียกยอด Like  Share  และขายสินค้า แต่รู้หรือไม่ว่า Facebook Group ก็สามารถนำมาใช้ในการกระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าและบริการของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ไม่น้อยหน้า Fanpage และยังมีอัตราความสำเร็จในการปิดการขายสูงกว่าและยังสามารถรักษากลุ่มลูกค้าเก่าได้อย่างเหนียวแน่นอีกด้วย

1.Facebook Group ทำให้กลุ่มเป้าหมายแคบลง

เพราะผู้ที่เข้าร่วม Facebook Group มักจะเป็นกลุ่มรวบรวมคนมีความสนใจในสิ่งเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกัน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่สนใจร่วมกัน มีความเคลื่อนไหวและติดตามกันอย่างเหนียวแน่น  ซึ่งเราเองก็สามารถสร้าง Group หรือเข้าร่วม Group ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของเรา เพื่อร่วมแชร์ประสบการณ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขาสนใจ นอกจากจะได้ลูกค้าเพิ่มแล้ว ยังมีโอกาสสูงที่จะสามารถปิดการขายกับเหล่าสมาชิกใน Group ได้ เพราะสิ่งเขาสนใจคือสินค้าที่เรามีอยู่ในมือ เพียงให้ข้อเสนอแนะพร้อมแนะนำสินค้าที่อยู่ในความสนใจของกลุ่ม ก็นับว่าได้เป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีแรงจูงใจในการซื้อสูงแล้ว

2.สามารถส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมผ่าน Facebook Group

เราสามารถส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางร้านค้าจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการขาย หรืออาจเป็นกิจกรรมเพื่อการกุศล โดยการสนับสนุนจากแบรนด์สินค้าของเราเอง  เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้าของเรา ซึ่งเราสามารถสำรวจจำนวนผู้ที่สนใจและต้องการเข้าร่วมกิจกรรมจากการส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ๆ ได้อีกด้วย นอกจากสามารถใช้ประโยชน์การการเชิญเข้าร่วมกิจกรรมและเก็บข้อมูลผู้ที่สนใจและเข้าร่วมเพื่อนำข้อมูลที่ได้เข้าสู่กระบวนการทำ CRM แล้ว สมาชิกใน Group บางคนอาจมีการเชิญเพื่อนนอก Group  ให้เข้าร่วมกิจกรรมของเราเพิ่มขึ้น ช่วยกระจายแบรนด์สินค้าของเราให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

3.Guru ในกรุ๊ป ปลุกความเชื่อมั่นใน Brand

ในแต่ละกรุ๊ป มักจะมีกูรู ที่ช่วยให้คำแนะนำปรึกษาและให้ความรู้รวมไปถึงวิธีการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่สมาชิกใน Group เข้ามาตั้งคำถาม  เราสามารถเป็นหนึ่งในกูรูใน Facebook Group ได้เช่นกัน  เช่น สินค้าของเราคือสินค้าประเภทเครื่องออกกำลังกาย เราสามารถให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องออกกำลังกายที่ถูกต้อง วิธีการลดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย และการจัดตารางการออกกำลังกายเพื่อกระชับสัดส่วน หรือสร้างมวลกายเพิ่ม ซึ่งการให้คำแนะนำแบบ Professional นอกจากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวตนของเราแล้ว สินค้าของเราที่แนะนำ หรือนำเสนอให้กับสมาชิกใน Group ก็จะมีความน่าเชื่อถือตามไปด้วย

4.จะ  Fanpage หรือ Facebook Group ก็เชื่อมถึงกันได้

หาเรามีฐานะเป็นแอดมิน Facebook Group เราสามารถเชื่อมโยง Fanpage ที่เราใช้ในการขายและโฆษณาสินค้าเข้ากับ Facebook Group และเข้ามาโพสโฆษณาสินค้าของเราในฐานะเจ้าของ Fanpage ได้ เช่นกัน  เท่ากับเราสามารถแสดงตนได้ถึง 2 สถานะ คือ แอดมิน Facebook Group กูรูผู้ให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือ และแอดมิน Fanpage เจ้าของสินค้าและบริการที่พร้อมให้ข้อมูลสินค้าและบริการที่เหล่าสมาชิกอาจมีความสนใจหรือกำลังต้องการสินค้า  ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่ควรโพสขายสินค้าใน Facebook Group ถี่มากจนเกินงาม เพราะเหล่าสมาชิกอาจรู้สึกเหมือนถูกเสนอขายสินค้ามากจนทำให้เสียบรรยากาศ

5.สร้าง  Engagement ไม่เน้น Hard sales

อย่าลืมว่า Facebook group คือชุมชมออนไลน์ของผู้ที่มีความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนกัน  เข้ามาร่วมกันแชร์ประสบการณ์ พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่สนใจเหมือน ๆ กัน ไม่ใช่กลุ่มค้าขาย (หากไม่ได้ตั้งเป็นกลุ่มค้าขายตั้งแต่แรก) การตั้งหน้าตั้งตาโพสขายสินค้าแต่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้ทำให้เกิด Value add ใด ๆ ในขณะที่สมาชิกเห็นโพสโฆษณาขายสินค้าของเราซ้ำ ๆ เขาจะไม่หยุดดูถ้าเขายังไม่มีความต้องการสินค้าของเราในขณะนั้น  สิ่งที่สมาชิกใน Facebook Group ต้องการคือการแชร์ประสบการณ์ใหม่ ๆ  การแนะนำใหม่ ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เขาสนใจ การสร้างคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ น่าสนใจและสดใหม่พร้อมแทรกข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เราอยากนำเสนอจึงมีความน่าสนใจมากกว่าการโพสโฆษณาขายสินค้าตรง ๆ  อีกทั้งการสร้างตัวตนที่น่าเชื่อถือจะช่วยสร้างการปฏิสัมพันธ์ในทางบวกกับตัวเราและยังช่วยทำให้สินค้าและบริการที่เราแนะนำมีความน่าเชื่อถือมากเช่นกัน

6.สิทธิพิเศษ คนพิเศษ ชวนลูกค้าเก่าเข้า Facebook Group

Facebook Group ก็สามารถนำมาใช้ในการทำ CRM หรือการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ได้เช่นกัน หลังจากที่เราขายสินค้าหรือบริการไปแล้ว เชิญชวนให้ลูกค้าของเราเข้าร่วม Group เพื่อพูดคุยและแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ มีการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ ทริคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง  รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น มอบส่วนลดพิเศษให้กับสมาชิกใน Group  เท่านั้น จะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าสิ่งนี้คือสิทธิพิเศษที่มีเพียงสมาชิกเท่านั้นที่จะได้รับ หากเขาไม่เข้าร่วมเท่ากับเขาได้พลาดสิทธิ์นี้ไปอย่างน่าเสียดาย

7.ทำ CRM ด้วย Facebook Group

Facebook Group มีฟีเจอร์ Group Insights  สำหรับเรียกดูข้อมูลการปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน Group ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสมาชิกใน Group  เช่น  เพศ  อายุ  ถิ่นที่อยู่  และยังสามารถเรียกดูอัตราความถี่ในการ Like   Share  Comment ของสมาชิกใน Group ว่ามีใครบ้างที่ขึ้นทำเนียบแฟนพันธุ์แท้ใน Group ของเรา  ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย  นอกจากนี้เรายังสามารถเก็บข้อมูลด้วยการส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ มาวิเคราะห์พฤติกรรมความชอบ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม เพื่อนำไปใช้ในการจัดแคมเปญต่าง ๆ สร้างแรงจูงใจในการซื้อสินค้าและบริการของเราได้

วันนี้ Facebook Group ไม่ได้เป็นเพียงชุมชนออนไลน์ที่มีเพียงการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในสิ่งที่ชื่นชอบเพียงอย่างเดียวแล้ว เจ้าของธุรกิจสามารถนำจุดเด่นของ Facebook Group มาสนับสนุนสินค้าและบริการของตนเองได้ไม่ต่างกับฟีเจอร์อื่น ๆ ของ Facebook  ทั้งยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ได้มากกว่าฟีเจอร์อื่น ๆ ที่อาจเน้นในเรื่องของการขายและโฆษณามากกว่า  โดยอาจเรียกได้ว่า Facebook Group นั้นเป็นทัพเสริมที่ทรงประสิทธิภาพในด้านการสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์สินค้าซึ่งจะส่งผลถึงอัตราความยั่งยืนของกลุ่มลูกค้า และสามารถสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้จากการแนะนำสินค้าผลิตภัณฑ์ของเราให้กับสมาชิกภายใน Group รวมถึงการรับฟังปัญหาต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบริการในอนาคต