ธุรกิจเพ็ทช็อปเป็นจุดที่ใครก็เข้าถึงได้ง่ายละเริ่มทำได้ไม่ยาก  คู่แข่งมีอยู่มากมาย  ดังนั้นหากคิดจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้  อาจจะต้องวางกลยุทธ์ที่พิเศษซักหน่อยเพื่อให้คนรักน้องหมาน้องแมวได้เข้ามาใช้บริการ

สำหรับคนรักสัตว์  ทูนหัวของบ่าวทั้งหลาย ที่ต้องการเป็นเจ้าของร้านเพ็ทชอป  แต่ไม่รู้ว่าจะตั้งต้นจากตรงไหน  อย่างไร ก่อนที่จะไปลงทุนอะไรนั้น  เราควรจะศึกษาธุรกิจนั้นๆให้ดีเสียก่อน  ว่าเปิดไปแล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง  ถ้าอย่างนั้นลองอ่านบทความนี้กันดูก่อนดีมั้ย

1.เลือกสินค้ามาขายในร้านเพ็ทช็อป

น้องหมา น้องแมว มีข้าวของ เครื่องใช้ ของประดับ ของเล่น ของกิน จิปาถะ มีให้เห็นมากมาย จะเลือกเล่นตลาดไหน เจาะกลุ่มไหน มาลองดูแนวทางสินค้าซึ่งเป็นที่นิยม พอแบ่งได้ 2 กลุ่มหลักๆ นะคะ

1. สินค้ากลุ่มอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

เสื้อ กระเป๋า ปลอกคอ สายจูง เบาะนอน  ชามอาหาร ของเล่นต่างๆจะเป็นส่วนที่ให้กำไรสูงสุด  ขึ้นกับรูปแบบว่า ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า รูปลักษณ์สวยงามแปลกตา ยิ่งถ้าร้านอื่นไม่มีขาย มีแต่ร้านเราเท่านั้น  ก็จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น  โดยเฉพาะถ้าเรามีความสามารถในการออกแบบ สามารถผลิตสินค้าเป็นของตัวเองออกมาได้  ก็ยิ่งดี

อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง จัดเป็นกลุ่มสินค้าที่ทำกำไรสูงแต่ขายได้ไม่บ่อย  ขึ้นกับความโดนใจและพึงพอใจของลูกค้า  และหากสินค้าตัวไหนขายดี  ทางร้านสามารถสต้อกไว้ได้มาก เพราะไม่เน่าเสียหรือหมดอายุ แต่ทุกอย่างก็มีขึ้นมีลง  วันนี้ฮิต วันหน้าไม่มีใครอยากได้แล้ว  พอหมดความนิยม เก็บไว้สักพักก็สามารถหมุนกลับมาขายใหม่ได้  แต่หากเลือกแบบที่แย่จริงๆ  ขายไม่ออกก็จะทำให้ต้นทุนจม เพราะไม่เกิดการหมุนเวียน  เจอแบบนั้นก็วางแผนทำโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมไปเถอะ อย่าได้เสียดาย  ขายหมดแล้วอย่าไปเผลอสั่งมาอีกล่ะ

2.สินค้ากลุ่มอาหารสัตว์

เป็นสินค้าทื่ทำกำไรไม่สูงมากนัก  แต่เป็นสิ่งที่เรียกลูกค้าประจำได้เป็นอย่างดี  เรียกได้ว่า  ของมันต้องมี  เนื่องจากปริมาณความต้องการการใช้สินค้ามันมีอยู่แล้ว การขายแบบนี้เรียกว่า กินน้อยๆแต่กินนานๆ  ถ้าเรามีอาหารสัตว์ชนิดที่ลูกค้าต้องกลับมาซื้ออยู่เรื่อยๆ  ก็อาจทำให้ลูกค้าอุดหนุนสินค้าอย่างอื่นเพิ่มเติมได้ด้วย  แต่ข้อควรระวัง คือ สินค้าประเภทนี้ ดูแลยากมาก  และมีวันหมดอายุ หากเราบริหารสต้อกไม่ดี  สั่งของเข้ามาจำนวนมากและระบายออกไม่ทัน ก็จะทำให้สินค้าหมดอายุคาสต้อกได้  บริษัทผู้ผลิตก็ไม่รับคืนอีก แย่เลย

นอกจากนี้  การดูแลสินค้าก็ยาก  บางครั้งต้องถึงกับลงทุนซื้อตู้มาใส่  เนื่องจากหากเราจัดเก็บสินค้าได้ไม่ดี  ร้อนเกินไป  เย็นกินไป  โดนฝนตก น้ำท่วม นกหรือหนู เข้ามากัดกิน แทะถุงพัง ก็จะทำให้ต้องมากุมขมับในภายหลัง

2.การติดต่อโรงงาน หรือ ตัวแทนจำหน่าย นำสินค้ามาขายในร้านเพ็ทช็อป

สินค้าสามารถสั่งได้ไม่ยาก สั่งจากบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ปัจจุบันมีอยู่เยอะทีเดียว หลายบริษัทนำสินค้าเข้ามาขายจากต่างประเทศ  หรือเจ้าของแบรนด์ที่ผลิตในประเทศไทย  โดยสามารถติดต่อได้โดยผ่านทางเวปไซต์ของบริษัท หรือ ติดต่อจากเบอร์โทรศัพท์ที่ติดอยู่ข้างห่อสินค้า  โดยแจ้งเรื่องไปว่าต้องการซื้อสินค้าของบริษัทไปขาย  ให้ที่อยู่ติดต่อกลับไว้  เพื่อให้เซลล์ของทางบริษัทที่ดูแลเขตที่เราอยู่ติดต่อกลับมา

ทางเซลล์จะขอหลักฐานเช่น  บัตรประชาชน  สัญญาเช่าสถานที่  ทะเบียนการค้า  เพื่อทำการเปิดบัญชี  ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลา 1-3 วัน  หลังจากนั้นจึงจะเริ่มสั่งของได้ โดยเซลล์จะส่งใบเสนอราคามาให้  ว่ามีสินค้าอะไรให้สั่งบ้าง  ต้นทุนเท่าไหร่  ราคาขายที่แนะนำเท่าไหร่  การสั่งของต้องสั่งสินค้าจำนวนหนึ่งโดยมียอดขั้นต่ำที่ทางบริษัทจะเป็นผู้กำหนด  โดยส่วนมากต้องสั่งมากกว่า หนึ่งถึงสามพันบาทโดยประมาณ  หลังจากสั่งสินค้าแล้ว  ทางบริษัทจะเข้ามาส่งของ ใช้เวลาประมาณสามวันทำการ  หลังจากได้สินค้า ทางบริษัทอาจจะเก็บเงินในการซื้อสินค้า หนึ่งถึงสามรอบบิลแรกเป็นเงินสด  จากนั้นจึงจะปล่อยเครดิตให้  โดยที่เราสามารถสั่งของ และขายสินค้าไปก่อนได้ 1 เดือน

3.การเลือกทำเลเปิดร้านเพ็ทช็อป ปัจจัยหลักที่ไม่ควรมองข้าม

ทำเลและรูปแบบหน้าตาร้านเพ็ทช็อป  เป็นหัวใจสำคัญของการเปิดร้าน  เป็นสิ่งที่ทำให้แต่ละร้านมีความน่าเข้าแตกต่างกัน และเป็นหนึ่งในตัวตัดสินว่า เปิดร้านมาแล้วประสบความสำเร็จได้เร็วแค่ไหน  ดังนั้นควรใช้เวลาในการเสาะหาทำเล  วางแผนรูปแบบร้านให้ดีก่อนเปิด  คำถามสำคัญ นั่นคือ  เราจะเปิดร้านเพ็ทชอปที่ไหน  หน้าตารูปแบบร้านจะเป็นอย่างไร  สมัยนี้เราสามารถเปิดได้ทั้งแบบมีหน้าร้าน และ ขายสินค้าผ่านทางเวปไซต์ออนไลน์

หากอยากมีหน้าร้าน  การเลือกทำเลควรเป็นแหล่งชุมชนที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสัญจรผ่านไปมาเยอะ ตัวร้านเด่น สินค้าแน่น  เรียงกันเป็นหมวดหมู่  เข้าไปแล้วหอมสะอาด  ไม่มีฝุ่นจับสินค้า พนักงานมีความรู้ที่ดีให้คำแนะนำได้บ้าง  มีที่จอดรถสะดวก  เนื่องจากลูกค้ามักชอบความสะดวกสบาย แต่ก็จะมีค่าเช่าและค่าพนักงานที่เป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูง  หรือ  อาจจะเลือกเปิดร้านค้าออนไลน์  เพื่อลดรายจ่ายหลายๆอย่าง และมีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก  แต่จะเปิดตัวอย่างไรให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ  หากสามารถเปิดควบคู่ไปได้ทั้งสองอย่าง  ก็ยิ่งดี  เป็นช่องทางการระบายสินค้าออกทั้งสองแหล่ง  ขายหน้าร้านไม่ได้  ก็ไปขายในเน๊ต รับรองสต้อคไม่มีทางตัน  มียอดขายเข้าทุกวัน

4.ทำร้านเพ็ทช็อป จะสำเร็จได้ต้องคิดต่าง ทำต่าง

ธุรกิจเพ็ทชอปเป็นจุดที่ใครก็เข้าถึงได่ง่ายและเริ่มทำได้ไม่ยาก  คู่แข่งมีอยู่มากมาย  ดังนั้นหากคิดจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้  อาจจะต้องวางกลยุทธ์ที่พิเศษซักหน่อย  เช่น  เข้าร่วมกับกิจการอื่นที่เอื้อกัน เช่น โรงพยาบาลสัตว์  ร้านอาบน้ำตัดขน  ร้านรับฝากสัตว์เลี้ยง  ร้านขายสัตว์เลี้ยง  สระว่ายน้ำ  ศูนย์ฝึกสุนัข  คาเฟ่สำหรับสัตว์เลี้ยง  เป็นต้น  และหากมีบริการรับส่งพ่วงเข้ามาด้วย  ก็ยิ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความสำเร็จ  สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น  หรือหากใครมีความสามารถในการออกแบบ  สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ได้  ก็สามารถคิดทำสินค้าเป็นของตนเอง  เพื่อเป็นเจ้าของแบรนด์ได้ในอนาคต  ทุกอย่างสามารถต่อยอดไปได้เรื่อยๆ  ขอเพียงแต่อย่าหยุดนิ่งกับที่หรือทำอะไรที่เลียนแบบคนอื่น  ก็สามารถที่จะเป็นเจ้าของร้านเพ็ทชอปที่ประสบความสำเร็จได้

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”

สพ.ญ. ปฐณี วุฒิวงศ์วาทิน (คุณปัท)
ปริญญาตรี สัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ประกาศนียบัตรบัณฑิต ศัลยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยปัจจุบัน เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์มีรัก เมืองทองธานี