ในนาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักกับกระแสความดังของ Clubhouse โซเชียลแอพพลิเคชั่นชื่อดังที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ครับ ทั้งที่ตัวแอพพลิเคชันเพิ่งจะเปิดตัวให้ผู้คนได้ลองใช้เพียงไม่กี่วันแต่กลับกลายเป็นกระแสจากการที่มีผู้มีชื่อเสียงหลาย ๆ คนต่างเข้าไปลองใช้งาน และทำให้ผู้ที่ติดตามคนกลุ่มนั้นได้เข้าไปร่วมใช้งานกันอย่างล้นหลามและที่สำคัญตัวแอพพลิเคชันนี้ยังมีให้ใช้อยู่เพียงระบบปฏิบัติการ IOS เท่านั้น เพราะกระแสและความดังเช่นนี้เองจึงเริ่มมีผู้ที่จับตามองถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้งาน Clubhouse ในเรื่องของธุรกิจเช่นเดียวกันกับโซเชียลแอพพลิเคชั่นรุ่นพี่ทั้งหลาย Clubhouse เป็นอย่างไรและทำไมผู้ประกอบการ SMEs และผู้ที่ทำธุรกิจต้องให้ความสนใจบทความนี้เรามีคำตอบครับ

Clubhouse คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

Clubhouse ถูกก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกในเดือนเมษายน ปี 2020 ที่ผ่านมาโดย Paul Davidson และ Rohan Seth โดยแนวความคิดหลักของแอพพลิเคชั่น Clubhouse คือต้องการให้ผู้ใช้งานติดต่อสื่อสารกันผ่านการแชทด้วยเสียง  โดยผู้ใช้สามารถสร้างห้องเพื่อเป็นพิธีกร (Moderator) หรือจะเข้าไปยังห้องอื่น ๆในฐานะของผู้ฟัง (Audience) ทั้งนี้พิธีกรผู้ทำการเปิดห้องยังสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ผู้ชมคนไหนที่เข้ามาในห้องเข้ามาเป็นผู้พูด (Speaker) ก็ได้ ในส่วนของรูปแบบในการใช้งานคือผู้ใช้สามารถเข้าร่วมฟังการสนทนา สัมภาษณ์หรือร่วมพูดคุยในหัวข้อต่าง ๆที่เราสนใจได้ รวมไปถึงการติดตามบุคคลที่เราทำการ Follow เพื่อเข้าฟังเนื้อหาที่เขากำลังพูดอยู่ได้เช่นกัน

เหตุที่ทำให้ Clubhouse โด่งดังมาก ๆ นั่นก็เพราะรูปแบบการทำงานของ Clubhouse ที่เชื่อว่า “เสียง”คือสิ่งที่สร้างประสบการณ์ทางสังคมและให้ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์มากกว่าเพียงแค่การโพสต์ด้วยข้อความหรือรูปภาพเท่านั้น ทางผู้ก่อตั้งจึงใช้ความแตกต่างในจุดนี้ที่โซเชี่ยลแอพพลิเคชั่นรุ่นพี่ที่ผ่านมาทั้งหมดทำไม่ได้พัฒนาตัว Clubhouse ขึ้นมาจนกระทั่งสามารถกลายเป็น Start up ระดับยูนิคอร์นในระยะเวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น

ความ Exclusive คือสิ่งที่ทำให้ Clubhouse มีความน่าสนใจและกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการทำการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัว Clubhouse ดูน่าสนใจก็คือเสียงทั้งหมดที่ถูกพูดคุยในห้องต่าง ๆ จะไม่ถูกบันทึกเอาไว้หลังจากห้องนั้นปิดตัวลง ซึ่งหมายความว่าเนื้อหาสาระที่ถูกพูดในห้องจะเป็นเนื้อหา Exclusive ทันทีเพราะไม่สามารถหาฟังจากที่ไหนได้อีก ทำให้ Clubhouse กลายเป็นแหล่งรวมตัวของผู้นำทางความคิดต่าง ๆ และผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกันให้เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้และเนื้อหาสำคัญต่าง ๆครับ นอกจากนี้การใช้งานยังค่อนข้างจำกัดเพราะนอกจากที่ตอนนี้จะมีให้ใช้งานแต่เพียงระบบปฏิบัติการ IOS เท่านั้น(อนาคตก็อาจจะขยายไปสู่ทางระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ต่อไป) ทาง clubhouse ยังสร้างเงื่อนไขให้ผู้ที่จะเข้าใช้งานได้ต้องได้รับคำเชิญเท่านั้นและคำเชิญก็ถูกจำกัดจำนวนครั้งให้สามารถเชิญได้เพียงไม่กี่คนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างการใช้งานของตัวผู้ใช้งานเอง

วิธีใช้ Clubhouse มาทำการตลาดได้อย่างไร

ก่อนที่ผู้ประกอบการ SMEs จะคิดหาวิธีการในการทำการตลาดออนไลน์ ผ่านทางตัว Clubhouse เราต้องขอเน้นย้ำหัวใจหลักสำคัญของแอพพลิเคชั่นนี้อีกครั้งครับว่า “เสียง” คือหัวใจสำคัญในการสนทนากันในห้องแชท ดังนั้นเนื้อหาสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการให้ความรู้ในเรื่องที่ผู้คนสนใจผ่านเสียงจึงเป็นหัวใจหลักของการทำการตลาดบน Clubhouse ด้วยเช่นกัน ผู้ประกอบการนอกจากจะเป็นพิธีกรหรือ Moderator ประจำห้องก็จำเป็นที่จะต้องเป็นนักสร้างเนื้อหาหรือ Creator ด้วยเช่นกัน

เพราะเนื้อหาที่น่าสนใจจึงจะดึงดูดผู้คนให้เข้ามาฟังและเพิ่มโอกาสในการให้ผู้ฟังรู้จักกับธุรกิจของคุณหรือช่วยเพิ่มยอดขายครับ หากเนื้อหาไม่น่าสนใจหรือเน้นแต่เพียงการยัดเยียดการขาย ผู้ที่เข้ามาฟังก็มีสิทธิ์ที่จะออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ รวมไปถึงเลิกติดตามคุณได้ในที่สุด แนวทางในการทำการตลาดบน Clubhouse มีดังต่อไปนี้

1.สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ฟังโดยมีตัวธุรกิจเป็นสปอนเซอร์

การสร้างเนื้อหาในลักษณะนี้คุณอาจกำหนดเรื่องราวที่น่าสนใจหรือเป็นกระแส หรือเป็น pain point ของคนกลุ่มหนึ่งขึ้นมาเป็นประเด็นในการสนทนา โดยชื่อห้องอาจนำปัญหาหรือประเด็นเหล่านั้นขึ้นมาตั้งเพื่อดึงดูดึความสนใจและปิดท้ายด้วยคำว่า by….. ซึ่งอาจเป็นชื่อธุรกิจที่คุณอยากให้คนรู้จักก็ได้ครับ แต่เนื้อหาที่คุณพูดคุยกันคุณจำเป็นต้องระวังไม่ให้เน้นไปที่การขายมากเกินไปแต่ควรที่จะเน้นสร้างความรู้ หรือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็น pain point ของผู้ที่เข้ามาฟังเสียก่อน เมื่อคุณให้แนวทางทางเลือกแก่พวกเขาครอบคลุมทั้งหมดแล้วจึงค่อยตลบเข้าสู่การแนะนำสินค้าของธุรกิจของคุณในภายหลังครับ อย่าเริ่มต้นพูดคุยด้วยการนัดเยียดสินค้าของคุณเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผู้ที่เข้ามาฟังไม่สนใจและออกจากห้องของคุณไปได้ง่าย ๆ

2.สร้างเนื้อหาโดยรวบรวมผู้ที่มีประสบการณ์เดียวกันเข้ามาพูดคุย และปิดท้ายด้วยการ lead คนไปสู่แพลตฟอร์มอื่น

สำหรับข้อนี้จะคล้ายกับวิธีการแรกครับคือต้องมีการสร้างเนื้อหา ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่คุณต้องการสื่อออกมาอย่างตรงไปตรงมาเสียก่อน แต่ในข้อนี้คุณอาจกำหนดให้มีผู้คนจำนวนหนึ่งได้มีโอกาสขึ้นมาพูดคุย บอกเล่าหรือแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อถือ หลังจากนั้นในตอนท้ายคุณก็อาจนำเสนอช่องทางติดต่ออื่น ๆ เพื่อดึงคนไปสู่แพลตฟอร์มที่คุณต้องการเพื่อให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักได้ครับ

3.สร้าง partnership กับบุคคลอื่นเพื่อเข้าไปร่วมพูดคุยและโปรมทตัวของคุณเองในห้องของพวกเขา

Clubhouse ยังสามารถช่วยโปรโมทธุรกิจในลักษณะของการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบุคคลอื่นได้เช่นกัน โดยเป็นการรวมกลุ่มของคนที่นิยมชมชอบหรือสนใจในเรื่องที่คล้ายหรือเหมือนกันครับ การมีพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายก็มีโอกาสที่คุณจะได้รับเชิญให้เข้าไปร่วมพูดคุยประเด็นต่าง ๆในห้องของคนอื่นซึ่งจะช่วยโปรโหมทธุรกิจของคุณให้เป็นที่รู้จักได้มากยิ่งขึ้น

4.ระบบสมาชิกเพื่อช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่า

นอกจากการพูดคุยในห้องเปิด ทาง Clubhouse ยังมีระบบที่สร้างความ Exclusive ยิ่งกว่าด้วยการสร้างระบบของสมาชิกด้วยเงื่อนไขบางอย่างก่อนที่จะเข้ารับฟังได้ ระบบสมาชิกนี้สามารถช่วยให้คุณสามารถพูดคุย สื่อสารโดยตรงกับกลุ่มลูกค้าเก่าเพื่อให้ข้อมูลดี ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่พวกเขาเป็นการให้คุณมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้โดยตรงและช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิมของคุณเอาไว้ได้ครับ

วิธีใช้ Clubhouse  จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สำคัญของผู้ประกอบการที่จะใช้ช่องทางโซเชี่ยลมีเดียน้องใหม่นี้ในการทำการตลาดออนไลน์ให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักครับ หากคุณยังจำบทเรียนความโด่งดังของแอพพลิเคชั่นรุ่นพี่อย่าง TikTok ได้ว่าได้สร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ที่เริ่มต้นได้เร็วอย่างไรบ้าง คุณก็ไม่ควรจะรอช้าเลยที่จะเริ่มต้นสร้างตัวตน สร้างโอกาสและศึกษาความเป็นไปได้เสียแต่เนิ่น ๆ เพราะผู้ที่เริ่มต้นก่อนหรือมองเห็นโอกาสแล้วลงมือทำเป็นคนแรก ๆ คือผู้ที่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้มากที่สุดครับ