ความนิยมในธุรกิจออนไลน์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เริ่มต้นง่าย แต่การที่จะอยู่รอดในธุรกิจนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ความยากอยู่ตรงที่จะทำอย่างไรให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ใครๆ ต่างก็หันมาขายของออนไลน์กันแทบทั้งนั้น ซึ่งการแข่งขันบนตลาดออนไลน์ค่อนข้างสูง ต้องมีการวางแผนธุรกิจออนไลน์ ทำโฆษณาอย่างไรให้ได้ผล โดยใช้ต้นทุนต่ำ หากคุณกำลังเข้าสู่เส้นทางนี้ นี่คือ 10 วิธีขายของออนไลน์ให้รวย 2021 ซึ่งได้จากสรุปการสัมภาษณ์กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ ทีม AKA คุณภัทรดร ปวรากรุตม์ (ไก่)  คุณธีร์นรา ชิตรัฐถา (อาร์ต) คุณ ธนัท หมื่นชำนาญ (เอ)

1.โปรโมทสินค้าในพื้นที่ของลูกค้า

หากย้อนกลับไปในช่วงที่กระแสการขายออนไลน์กำลังมาแรง ช่องทางที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือ Facebook  แต่ในปัจจุบันมี platform ที่หลากหลายมากขึ้น ปัญหาที่คนขายออนไลน์เจอก็คือ ลูกค้ากระจายออกจาก Facebookไปยังช่องทางอื่นๆ ในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีกลุ่มผู้ใช้งานหลักที่ต่างกัน หากผลิตสินค้าออกมาหนึ่งอย่าง แล้วต้องการจะมุ่งโปรโมทผ่านทางเฟสบุ๊คเพียงช่องทางเดียว ก็อาจจะเข้าไม่ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตรงนี้ต้องย้อนกลับมาดูว่า จะขายอะไร กลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือใคร นิยมใช้ช่องทางออนไลน์ใดเป็นหลัก เพื่อที่จะโปรโมทสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

2.เรียนรู้การใช้งานหลากหลายแฟลตฟอร์ม

เมื่อรู้แล้วว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราใช้ช่องทางใดเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องละเลยแพลตฟอร์มอื่นๆ หากต้องการให้ยอดขายเติบโต ก็ต้องรู้จักวิธีเข้าหาลูกค้าให้ได้มากที่สุด สำหรับผู้ประกอบการที่ขายออนไลน์อยู่ก่อนแล้ว นี่อาจไม่ใช่เรื่องยากในการทำความเข้าใจการใช้งานในแต่ละแพลตฟอร์ม แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มขายออนไลน์ อาจจะเริ่มขายใน Marketplace ก่อน เพราะเริ่มได้ง่าย จำนวนผู้ใช้งานเยอะ และมีต้นทุนต่ำ พยายามเรียนรู้เกี่ยวกับระบบ และวิธีการขาย สะสมประสบการณ์สักระยะ  แล้วค่อยขยับขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ

3.วิธีขายของออนไลน์ให้รวย ต้องมองหาโอกาสและช่องว่างในตลาด

หนึ่งในข้อดีของการขายออนไลน์บน Facebook  คือ สามารถสร้างเพจและโพสต์ขายของได้เลย หากมองแค่นี้ก็จะดูว่าเป็นเรื่องง่าย แต่การขายออนไลน์ทางเฟสบุ๊คมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ควรศึกษาตลาดและคู่แข่งให้ดี เช่น สินค้าที่ขายนี้มีกี่แบรนด์ ราคาขายเท่าไหร่ ถ้าเราต้องการที่จะชนะคู่แข่ง จะต้องทำอย่างไร ให้เริ่มจากสำรวจมาร์เก็ตเพลสก่อน เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสินค้าหลากหลาย และขายในราคาค่อนข้างถูก ดูว่าสินค้าที่เราจะขาย มีใครขายบ้าง  คู่แข่งเยอะหรือไม่ ถ้ามีไม่เยอะ แสดงว่ายังพอมีโอกาสในการแข่งขันอยู่ จากนั้นให้ค้นหาในเฟสบุ๊ค ถ้าคู่แข่งมีน้อย แสดงว่ายังมีช่องว่างในตลาด

4.นำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม

การสร้างคอนเทนต์ก็เพื่อกระตุ้นความต้องการของลูกค้าให้อยากซื้อสินค้า แต่ละแพลตฟอร์มเหมาะที่จะสร้างคอนเทนต์ที่ต่างกัน  คอนเทนต์สามารถถ่ายทอดได้หลายรูปแบบ เช่น Text,  Photo Album และ Video Content  ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าสินค้าเราคืออะไร เหมาะกับการนำเสนอในรูปแบบไหน ดึงเอาจุดเด่นของสินค้ามาสร้างคอนเทนต์ เมื่อสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว จากนั้นค่อยลงโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้าต่อไป

5.การลงโฆษณาต้องตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

โฆษณามีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีเป้าหมายต่างกัน ก่อนทำโฆษณาต้องรู้ว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดประสงค์การทำโฆษณาอะไรบ้าง และทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อย่างโฆษณาใน Facebook มักจะเป็นเชิงรุก กระตุ้นให้เกิดความสนใจในสินค้าหรือบริการ  ถ้าต้องการลงโฆษณาใน Youtube สินค้าควรเป็นที่รู้จัก หรือกำลังอยู่ในกระแส ส่วนใน TikTok  โฆษณาต้องโดนใจเหล่า Gen Y-Z

6.อย่าโฟกัสไปที่การยิง Ads เพียงอย่างเดียว

การยิง Ads เป็นเครื่องมือในการนำส่งโฆษณาเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการขาย นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของคอนเทนต์ สื่อสารแบบไหนที่ทำให้ลูกค้าเห็นแล้วรู้สึกว่า สินค้าหรือบริการนี้มันใช่ ตรงกับความต้องการพอดี ตลาดออนไลน์มีคู่แข่งเยอะมาก หากคอนเทนต์ที่เรานำเสนอไปไม่โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก็ยากที่จะทำให้คนเหล่านั้นหันมาสนใจสินค้าหรือแม้แต่เก็บไว้พิจารณาในภายหลัง

7.ปิดการขายด้วย Salepage

มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ โดยค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าผ่านทาง Google หากคุณมีเว็บไซต์ของตัวเอง นอกจากข้อมูลแน่น รายละเอียดครบถ้วนแล้ว หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นให้สามารถปิดการขายได้ นั่นคือ Sale Page ซึ่งเป็นหน้าของการขายที่นำเสนอข้อมูลครบจบในที่เดียว ช่วยให้การขายของทางออนไลน์ทำได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ

8.รักษาลูกค้าเก่าให้ดี

ธุรกิจใดที่มีจำนวนลูกค้าเก่าเยอะ โอกาสที่จะเติบโตในธุรกิจย่อมมีสูง เพราะการหาลูกค้าใหม่ต้นทุนแพงขึ้นเรื่อยๆ หลายคนกำลังติดอยู่กับภาพเดิม ว่าการยิง Ads จะช่วยหาลูกค้าใหม่ แน่นอนว่าวิธีนี้เคยใช้ได้ผลในอดีต แต่ปัจจุบันสถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคู่แข่งที่มากขึ้น แพลตฟอร์มออนไลน์ที่หลากหลาย สงครามราคา ต้องดูว่าเราขายในช่องทางขายใด จะจัดการอะไรได้บ้าง เช่น ยิงโฆษณาแบบข้อความ เพื่อแจ้งข่าวสาร บอกโปรโมชั่นไปยังลูกค้าเก่า หรือลูกค้าบางคนที่เคย Inbox มาแล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อในครั้งแรก

9.จัดเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อช่วยในการทำตลาดออนไลน์

ก่อนที่จะวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ บนโลกออนไลน์ได้นั้น ต้องมีข้อมูลลูกค้าอยู่ในมือก่อน จะมาเดาสุ่มคำโฆษณาที่ลูกค้าต้องการ หรือนั่งเทียนคิดแคมเปญก็คงไม่ใช่ การเก็บข้อมูลลูกค้าให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า สามารถเก็บข้อมูลได้ทุกๆ ช่องทางการขาย โจทย์คือ  เก็บข้อมูลอะไรบ้าง นำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร และควรอัพเดตข้อมูลอยู่เสมอ

10.สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้า

จะทำอย่างไรให้เปลี่ยนจากลูกค้าธรรมดามาเป็นลูกค้าประจำ อย่าเน้นขายเพียงอย่างเดียว ควรดูแลลูกค้าตั้งแต่ทักเข้ามาในแชท สำหรับสินค้าบางประเภท เช่น อาหารเสริม สกินแคร์ แชมพูสำหรับผมร่วง ที่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล การที่ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ ก็อาจเป็นไปได้ว่า ลูกค้าซื้อไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้สินค้า สอบถามดูว่าลูกค้าใช้สินค้าแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง มีข้อสงสัยหรืออยากได้คำแนะนำอะไรเพิ่มเติม การสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว เพื่อให้เกิดความประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำ

วิธีขายของออนไลน์ให้รวย 2021  แม้การแข่งขันสูง แต่ก็มีวิธีการที่มากขึ้น ช่องทางการขายเยอะขึ้น ทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย การเริ่มธุรกิจสำหรับมือใหม่ ต้องหาให้เจอว่าลูกค้าเราอยู่ที่ไหน จะเอาสินค้าของเราไปแก้ปัญหาได้อย่างไร การขายสินค้าที่ใช่ ตรงต่อความต้องการของลูกค้า ช่วยให้เริ่มต้นได้ง่ายตั้งแต่แรก ในช่วงแรกของการทำธุรกิจออนไลน์ ควรใช้เงินน้อยที่สุด ให้ใช้ความรู้ ความอดทน และความพยายามมากที่สุด เพราะถ้าไม่เข้าใจกระบวนการขาย การสร้างคอนเทนต์ เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เสียค่าโฆษณาไปแล้ว แต่ทำไมขายไม่ได้ อาจถอดใจตั้งแต่แรก ดังนั้นการเรียนรู้เป็นเรื่องสำคัญ แต่การลงมือทำนั้นสำคัญกว่า