เมื่อครั้งที่ผมได้มีโอกาสนัดนั่งคุยกับคุณเวล ขายไม้กวาด 360 องศา ที่เคยนำเรื่องราวมาแบ่งปันแล้ว วันนั้นคุณเวลได้แนะนำให้ผมกับเพื่อนชื่อ น้องคิม เราทั้ง 3 คุยกันถูกคอเลยทีเดียวครับ ยังกับรู้จักกันมาเป็นสิบปี ฮ่า ๆๆๆ เพิ่งเจอกันครั้งแรกครั้งนั้นแหละ และคิดว่าจะไม่เจออีกแล้ว ผ่าง !!

เบื้องหลังคลิปฮาน้ำตาแตกของคุณเวล ก็ได้คุณคิม นี่แหละเป็น ผู้กำกับ และคอยจัดแจงทุกสิ่งอย่างให้เป็นระบบคิดธีม รวมถึงขุดความเป็นตัวตนของคุณเวลขึ้นมา

ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม !!! เพื่อน ๆ เริ่มสนใจอยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีดีอะไรแล้วใช่ไหมครับ จัดเลยครับ จากเบื้องหลังสู่เบื้องหน้า และเบื้องหน้าที่ไม่ธรรมดาครับ

ยินดีต้อนรับสู่สังคมเถ้าแก่ใหม่ แนะนำตัวกันหน่อยครับ

สวัสดีครับ ผม คิม ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ เป็นนักลงทุน และ เจ้าของบริษัทนายหน้าอสังหาครับ

Kim_ZetEstate3

ทำธุรกิจมาตั้งแต่สมัยเรียนเลย

ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็เริ่มจากทำเว็บไซต์ และ  ธุรกิจทางอินเตอร์เน็ต ตอนเริ่มต้น ผมเป็นเด็กอายุ 18 เงินค่าเซิพเวอร์อะไรก็ไม่มี ต้องใช้เงินเก็บ จากค่าขนมในการทำธุรกิจ ธุรกิจไปได้ดีเลยครับ ต้องขยับขยาย ต้องใช้เครื่องเซิพเวอร์เพิ่มขึ้น เงินก็ไม่มี จำได้เลยว่าตอนนั้น เอาเงินที่ญาติพี่น้องให้ตอนบวช มาซื้อเครื่องเซิพเวอร์ใหม่เพิ่ม

ผมสามารถสร้างรายได้ตอนเรียนปี 3  มีเงินใช้เดือนละ 10,000 – 20,000 บาท จากการทำธุรกิจออนไลน์ เว็บไซต์ นั่นมันเท่ากับเงินเดือนพี่ ๆ หลายคนที่ทำงานประจำเลยนะครับ

ได้ดีไม่นานก็ต้องโดนเรื่องลิขสิทธิ์

ธุรกิจทางอินเตอร์เน็ตที่ทำ ซึ่งผมก็ทำเเบบใส่เขาลุย อย่างงครับ ใส่เขาลุย ก็ไอ้ทุยดี ๆ นี่แหละครับ  ไม่ได้คิดรอบคอบอะไร ซึ่งบางส่วนของธุรกิจมันผิดกฎหมาย ทรัพย์สินทางปัญญา ในตอนนั้นมีหลายบริษัทถูกจับเยอะมาก จนพ่อผมให้เลิก เพราะกลัวลูกไปอยู่ในคุก เเทนที่จะอยู่มหาลัย

เมื่อไม่ได้ทำคอมฯ ก็มองหาธุรกิจทำเพิ่ม ประเภทเด็กที่อยู่เฉยไม่ได้ อยากสร้างธุรกิจของตัวอง ผมได้มีโอกาสเข้าเรียนสัมมนา เกี่ยวกับการลงทุนอสังหา นั่นเป็นครั้งเเรกที่เปิดโลกการลงทุนของผม จากนั้นก็เริ่มลงทุนเรื่อยมา สะสมความรู้ ประสบการณ์ เครือข่าย จนกระทั่งเปิดบริษัทนายหน้าอสังหาในเวลาต่อมาครับ

เริ่มทำอสังหาฯ แบบไม่ต้องใช้เงินตัวเอง

Kim_ZetEstate2

โชคดีที่ “การลงทุนอสังหาไม่ใช่เงินสักบาท” เป็นอะไรที่เหมาะกับเด็กจบใหม่ ไม่มีทุนแบบผมมาก ผมเริ่มลงทุนโดยใช้แนวคิดอันนี้

เมื่อทุนเงินน้อย ใช้ลงทุนแรงให้มาก ใช้ทุนความคิดให้เยอะ ทำทุกสิ่งอย่างที่ควรทำ และต้องทำให้นานพอ ทำให้มากพอ เริ่มเก็บเล็กผสมน้อย จนกระทั่ง ผม เเละ เพื่อนๆได้ลงทุนจนถึงจุดหนึ่ง จนเรารู้สึกว่า ทรัพย์ในมือพวกเรามันเยอะเกินที่จะดูแล รวมกับมีปัญหาด้านการจัดการต่างๆ พวกเราเลยตัดสินใจเปิดบริษัท

โดยเบื้องต้นจะเอามาดูเเลทรัพย์ของเพื่อนๆเท่านั้น เเต่ไหนๆก็เปิดเเล้ว ก็ทำของลูกค้าไปด้วยเลย

ดูเหมือนไม่เจอปัญหาอะไรเลย แต่อย่าเพิ่งดีใจไปครับ

ตอนลงทุนใหม่ๆ ประมาท ผมมั่นใจเกินไป หารู้ไม่ว่าในชีวิตจริงมันไม่เหมือนกับตำรา บวกกับประสบการณ์น้อย กู้เงินเกินตัว และ การหาผู้เช่าต้องใช้เวลา ผมต้องควักเนื้อจ่ายไปทุกเดือน เงินที่มีก็เริ่มร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ เราเห็นว่าถ้ามีลูกค้าเช่าห้องก็คงไม่เป็นเเบบนี้

พวกเราจึงเปิดบริษัทนายหน้าขึ้นมาเพื่อหาลูกค้าด้วยตัวเอง แทนที่จะฝากความหวังไว้กับนายหน้ารายอื่นๆ ผมกั๊กเงินไว้จ่ายค่าผ่อนธนาคารจำนวนนึง ที่เหลือลงหุ้นบริษัททั้งหมด ผมกับเพื่อนๆรวมเงินกันได้ ล้านกว่าๆ เช่าอาคารพาณิชย์ทำออฟฟิตกัน

ผมไม่รู้ว่าทุกคนเชื่อมั่นบริษัทนี้รึป่าวนะ เเต่เพื่อนผมคนนึง เธอลาออกจากงาน และ น้องชายของผมก็มาช่วยกันด้วย เราทุกคนร่วมสร้างบริษัทนี้มาโดยเเบบทุ่มทั้งชีวิตก็ว่าได้ บริษัทนี้คือไพ่ตายของเรา

บริษัทเปิดใหม่ไม่มีลูกค้า

Kim_ZetEstate5

ตอนเริ่มบริษัทแรกๆ มันก็ยังไม่มีลูกค้า เเต่พวกเราก็เดินหน้าโปรโมท เเละ พยายามเข้าหาลูกค้าอย่างเต็มที่ จนกระทั่งวันหนึ่งโชคก็เข้าข้างเรา มีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาหาห้องพักจำนวนมาก เพื่อให้พนักงาน ทางบริษัทของผมก็ได้ดูเเลจัดหาให้ ทำให้คนเข้าพักห้องของพวกเราเกือบเต็ม พวกเราเริ่มมี Partner ธุรกิจ เป็นบริษัทซักรีด เเละ เคเบิ้ลทีวีญี่ปุ่น ทำให้ได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น และ มีกำไรเข้าบริษัท ตอนนี้เราสมารถดูเเลจัดการอะไรได้มากขึ้น ทำให้สามารถปล่อยห้องเเบบระยะสั้นขึ้นได้ ทำให้ได้ค่าเช่าสูงขึ้นอีก ตอนนี้กระเเสเงินสดดีขึ้น จนสามารถทำกำไรได้

วิธีการหาลูกค้าที่เราทำ

ลูกค้า ซื้อ-ขาย ส่วนใหญ่จะมาจากการบอกต่อ เพราะทางเราจะเน้นให้ข้อมูลอย่างเป็นกลาง เเละ บทวิเคราะห์ของเราค่อนข้างตรง เนื่องจากพวกเราเป็นนักลงทุนเองด้วย มันคุยกันเข้าใจลึกซึ้งมากกว่า ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น

ส่วนลูกค้าเช่า ก็จะมาทาง อินเตอร์เน็ต จาก Website หรือ google

กุญแจสำคัญในการทำธุรกิจอสังหาให้สำเร็จ

Kim_ZetEstate8

เราเป็นนักลงทุนที่ยอดเยี่ยม เพราะเราเป็นนายหน้า

เเละ เราเป็นนายหน้าที่ยอดเยี่ยม เพราะ เราเป็นนักลงทุน

เราเคยโดนนายหน้าโน้มน้าวขายของ ให้ข้อมูลไม่ตรง จะเอาเเต่ขาย โดนไม่สนใจว่านักลงทุนจะลำบากภายหลัง

เราจะไม่ทำเเบบนั้น จุดยืนของเราคือ

“เราคือเพื่อนนักลงทุน ให้ข้อมูลที่เป็นจริง” ให้นักลงทุนได้ทรัพย์ที่ดีจริงๆ เเละ สามารถทำกำไรได้

การทำงานเป็นทีม

ทีมงานของเราล้วนมีเเต่คนอายุน้อย พวกเราอยู่เหมือนเพื่อน สนุก เเละ สำเร็จไปด้วยกัน

นิยามคำว่า “รากหญ้า” ในการทำธุรกิจ

ผมตีความว่า รากหญ้า = คนธรรมดาทั่วไป

การลงทุนในอสังหามีข้อดีมากมาย ข้อดีที่เด่นชัดคือมันสามารถกู้ธนาคารได้ จึงทำให้คนธรรมดา มีเงินเดือนหลักหมื่นก็สามารถลงทุนได้ ซึ่งตรงนี้คนไม่เข้าใจ ดังนั้นเเนวทางของบริษัทก็คือให้ความรู้ ผู้คน ลูกค้า ให้เค้าได้มีความรู้ด้านการเงิน การลงทุน

เมื่อเค้ามีความรู้ความเข้าใจเเล้ว เราเป็นเหมือน Partner หรือ พี่เลี้ยง ของเค้าในการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าได้อิสรภาพทางการเงินที่เค้าต้องการ

มองอนาคตธุรกิจไว้อย่างไร

Kim_ZetEstate7

Zet Estate เป็นการรวมตัวของกลุ่มนักลงทุน ดังนั้นพวกเรามีโปรเจคมากมายที่จะสานต่อ เช่น โรงเเรม และ  บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ข้อคิดให้เพื่อน ๆ

เราต้องเชื่อก่อนว่าทุกปัญหามีทางออก ผมเป็นหนี้ หลายสิบล้านจากอสังหา ตอนอายุ 25 คนเช่าก็ไม่มี เงินก็จะไม่เหลือ ทรัพย์จะโดนยึด มันง่ายมากที่จะคิดยอมเเพ้

เเต่ผมเลือกทำสิ่งที่ยาก เลือกที่จะเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้ พอเราเชื่อเเบบนั้นมันก็จะเกิดช่องทางต่างๆให้เราเเก้ไขมากมาย

โปรโมชั่น เพื่อน ๆ  Taokaemai

ฮ่าๆ ผมขายอสังหา มันคงไม่มีส่วนลดอะไรหรอกนะครับ เเต่ผมมีโปรโมทชั่นส่วนตัวให้เเล้วกัน ถ้าซื้ออสังหาผ่านบริษัทผม เเถม Iphone 6S เครื่องนึงไปเลย

ช่องทางติดต่อธุรกิจ

Kim_ZetEstate4

Website บริษัท สามารถไปดูสินค้ากันได้ www.zetestate.com

Blog ของผม ให้ความรู้ด้านการเงินเเละการลงทุนอสังหา อ่านได้ฟรีครับ

www.properth.com

FB fanpage : Kim Zetestate มาติดตามกันเยอะๆ

เถ้าแก่ใหม่วิเคราะห์ธุรกิจ

ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องอสังหาฯ เท่าใดนักมีโอกาสคงต้องไปฝากเนื้อฝากตัวกับคุณคิมครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือ “การลงทุนต่ำ” ลักษณะของธุรกิจประเภท “นายหน้า” ใช้เงินทุนไม่มากนัก ถ้าได้ก็ได้เลย ถ้าไม่ได้ก็ต้องบริหารเงินที่เคยได้มานั้นให้พอในแต่ละปี

ดังนั้นจุดสำคัญของธุรกิจนี้คะ การบริหารรอบของการจำหน่ายออกของสินทรัพย์ที่มือต้องทำให้เร็ว และนำเงินนั้นไปต่อยอดทำให้เกิดทรัพย์สินที่สร้าง Cash Flow กับเราให้ได้

อนาคตตลาดนี้ขึ้นอยู่กับภาพเศรษฐกิจระดับมหาภาค การลงทุนจากทางภาครัฐเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโครงการต่าง ๆ มันจึงมีความเสี่ยงและความผันผวนของธุรกิจตามปัจจัยทางด้านการเมืองอยู่ด้วย การเฝ้าระวังและมองอนาคตขาด จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดจริงๆ