ผมมีโอกาสได้เห็นน้องบุ๊คโพสในเฟสบุ๊คว่าตัวเองกำลังทำธุรกิจขายขนมอะไรสักอย่างในวัยที่เขากำลังเรียนครับ

ผมไม่รีรอที่จะขอสัมภาษณ์น้องเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง พร้อมทั้งช่วยน้องประชาสัมพันธ์ธุรกิจของน้องเองให้กับสื่อต่าง ๆ ให้ได้รับรู้

            แม้วันนี้ Cripy Cripy จะเพิ่มก่อร่างสร้างตัว อนาคตจะเป็นอย่างไรคงต้องมาช่วยกันลุ้นและสนับสนุนให้กับน้องได้ไปถึงเป้าหมายครับ

            หลายคนอาจจะคิดว่าอายุแค่นี้จะไปทำอะไรได้ แต่สำหรับผมแล้วเห็นว่าอายุไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตอะไรนัก หากหัวใจเราสู้เกินกว่าอายุของเรา

และนี่เป็นเหตุผลที่ผมจะสนับสนุนธุรกิจน้องบุ๊ค และจะช่วยประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อช่องทางนี้ครับ

เอาหละครับ !! ได้เวลาที่เราจะมารู้จักน้องชายคนนี้ (อายุน่าจะเป็นลูกผมได้ 555) กันแล้วครับ

 

น้องบุ๊คแนะนำตัวกับพี่เถ้าแก่ใหม่หน่อยครับ

สวัสดีครับ ผม บุ๊ค วสวัตติ์ เขียวเพชร วัย 16 ปีครับ ปัจจุบันผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ครับ และทำธุรกิจขนมในแบรนด์ Crispy Crispy ครับ

 

เริ่มคิดนอกกรอบจากคำถาม “โตขึ้นอยากเป็นอะไร”

ผมก็เป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งครับ ใช้ชีวิตไปวันๆตามประสาของเด็กทั่วไปนั่นแหละครับ ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย เรียนก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีครับ ตั้งแต่ตอนเด็กๆครูเค้าก็มีคำถามที่ชอบถามเด็กอยู่บ่อยๆว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร? ซึ่งเป็นคำถามที่ได้ยินตั้งแต่เด็กจนโตเลยครับ แต่ตอนเด็กผมก็ตอบไปตามที่โดนผู้ใหญ่หลายๆคนปลูกฝังมานั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ นักข่าว เชฟ นักบิน และอีกต่างๆอีกมากมาย

จนได้เริ่มเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เริ่มมีวิชาแนะแนวเข้ามาเกี่ยวข้อง และแล้วผมก็เจอกับคำถามยอดฮิตอีกตามเคยครับ โตขึ้นอยากเป็นอะไร? ตอนนั้นผมมีความคิดที่อยากเป็นทนายความครับ เพราะผมคิดว่าการเป็นทนายความนั้นจะสามารถทวงความยุติธรรมให้กับผู้คนได้ จนปิดเทอมของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อจะเริ่มศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในช่วงระหว่างปิดเทอมผมก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ อยู่บ้านไปวันๆ จนมีวันนึงผมรู้สึกเบื่อๆ เลยเปิดทีวีดู เลื่อนช่องไปเรื่อยๆ จนไปสะดุดกับรายการๆหนึ่งที่นำเสนอเกี่ยวกับการทำธุรกิจของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ มันชื่อรายการ อายุน้อยร้อยล้าน เทปแรกที่ผมบังเอิญเลื่อนไปเจอนั้น คือเทปที่เสนอความสำเร็จของธุรกิจมะขามจี๊ดจ๊าด นั่นแหละครับคือจุดเปลี่ยนความคิดของผม

หลังที่ผมดูจบมันทำให้ผมรู้เลยครับ ว่าอาชีพการทำธุรกิจคือชีวิตที่ใช่สำหรับผม หลังจากนั้นมาผมก็เริ่มติดตามรายการนั้นมาเรื่อยๆ

จนมาวันหนึ่ง ผมบังเอิญไปได้ยินย่าคุยกับพ่อเรื่องเงินค่าเรียนของผม ผมเลยแอบฟัง จึงทำให้ผมได้รู้ว่าตอนนั้นมีปัญหาเรื่องเงินกัน และนั่นก็คือจุดเปลี่ยนของการเริ่มต้นเช่นกัน ผมจึงเข้าไปค้นหาใน youtube ว่ารายได้เสริม และได้ไปเจอกับงานเครือข่าย ด้วยความที่ผมยังเป็นเด็ก เห็นเขาบอกว่า แค่คลิ๊กโฆษณาครึ่งชั่วโมงแต่รายได้ 1,000 บาทต่อวัน ผมสมัครเลยครับ งานง่ายๆแต่ได้เงินดีใครจะไม่ชอบล่ะครับ ผมทำไป 3 เดือนและเงินถึงเป้าตามที่เขาตั้งไว้ ผมจึงจัดการถอนเลยครับ แต่…ความฝันก็ได้จบลงเพราะโดนหลอกสมัคร และเงินที่ว่าจะจ่ายให้นั้นก็ไม่มีอยู่จริง แต่คนเรานั้นเรียนรู้จากความผิดพลาดครับ

หลังที่เสียเวลาทำงานนั้นไป 3 เดือน คนเรานั้นอย่าพึ่งสั้นหลังจากความผิดพลาดครับ ผมเริ่มศึกษาต่อในธุรกิจ จนไปรู้จักคำว่า Dropship มันคือระบบตัวแทนจำหน่ายแบบไม่ต้องสต๊อกสินค้า ผมจึงเขาไปหางานประเภท Dropship ทำเลยครับ ผมเข้าไปหาใน lineshop และจากการที่เริ่มศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจมาบ้าง ผมเลยนึกถึงบทความหนึ่งเขาบอกว่าเสื้อผ้าแฟชั่นนั้นขายดีที่สุด ผมจึงไปหาร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นของผู้หญิง และแล้วผมก็ไปเจอกับร้านๆนึง ผมอ่านรายละเอียดแล้วก็สมัครเลยครับ ตอนนั้นผมเสียเงินค่าสมัครไป 100 บาท และเริ่มขายลงใน lineshop เลยครับ ผมเริ่มขายไประยะหนึ่ง มันขายไม่ได้เลยตรับ แล้วผมเลยไปขายใน ig แต่ก็เป็นปัญหาเดียวกันครับ และมีวันหนึ่งมีคนเพิ่มผมเข้าในกลุ่มไลน์ของร้านค้า Dropship ผมได้เข้าไปเจอกับร้านค้าขายนาฬิการ้านหนึ่ง รับสมัคร Dropship แบบฟรี ผมเลยเข้าไปสมัครเลยครับ แต่พอทำได้ไปซักพักผมก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยตอบโจทย์ผมเท่าไหร่ผมเลยหยุดทำ

และมันทำให้ผมรู้ว่าการที่เราจะขายสินค้าหรือบริการให้กับใครเราต้องมีความรู้ในสินค้านั้นในระดับหนึ่งเช่นกัน หลังจากนั้นผมจึงเลิกทำไปอีกยาว……..

 

ลองมาหลายอย่างแต่ก็ยังไม่ใช่ตัวตนจนมาเจอแนวทางจากการชอบทานขนม

หลังจากผิดพลาดจากความไม่รู้ และได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากงานที่ทำมาก่อนหน้านี้ ผมเลยหยุดพักยาว จนถึงปิดเทอมของมัธยมศึกษาปีที่ 3 เตรียมศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษษปีที่ 4 ผมก็ยังติดตามรายการของอายุน้อยร้อยล้านมาตลอด และผมรู้สึกเบื่อๆกับการปิดเทอม ซึ่งมีเพื่อนหลายคนที่ไปทำงานนู่นนี่นั่นเพื่อหารายเสริมได้ในช่วงปิดเทอม แต่ผมไม่ได้ไปทำครับ เพราะผมไม่ชอบในการเป็นลูกจ้างของคนอื่น ไม่ชอบการที่มีคนมาสั่งนู่นนี่

ผมคิดว่าตัวผมนั้น “เกิดมาเพื่อเป็นเจ้านาย ไม่ใช่ลูกน้อง”

ผมเลยเริ่มศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจมากขึ้น เริ่มศึกษาการเริ่มต้นในการทำธุรกิจ และผมนั้นเป็นคนที่ชอบกินขนม เลยศึกษาเกี่ยวกับการทำขนมควบคู่ไปด้วย

 

เงินก้อนแรกจากการสนับจากพ่อมาให้ 1,000 ในการเริ่มทำธุรกิจ

ตอนแรกนั้นผมไม่คิดจะทำขนมขายหรอกครับ แต่ผมจะขายวิตามินเสริมให้กับร่างกายแบบ pre-order แต่ด้วยความที่วิตามินเสริมนั้นมันไม่มีขายในไทย ต้องนำเข้า ผมเลยบอกพ่อว่าผมจะขายวิตามินเสริมให้กับร่างกาย พ่อเลยให้เงินมา 1.000 บาท แต่พอผมไปสั่งซื้อเพื่อจะมาขายนั้น มันมีค่าส่งถึง สองร้อยกว่าบาท ซึ่งผมคิดว่ามันไม่คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน แต่ด้วยความที่ผมชอบกินขนมอยู่แล้วและได้ศึกษามาอยู่บ้าง ผมเลยมีแนวคิดจากสิ่งที่ผมไม่ชอบกิน

ผมจึงเริ่มคิดค้นขนมชนิดหนึ่งขึ้นมา  Crispy Crispy นั้นเริ่มมาจากการที่ผมนั้นไม่ชอบกินขอบของขนมปัง เวลาที่ผมกินขนมปังทีไรผมจะเอาขอบของขนมปังทิ้งไป ผมเลยรู้สึกเสียดายมันขึ้นมา เลยไปศึกษาว่าขอบขนมปังนั้นสามารถทำเป็นขนมปังคาราเมลได้ ผมเริ่มต้นศึกษาการทำขนมปังคาราเมล และการทำคาราเมลในอินเตอร์เน็ต และได้นำเงินที่มีอยู่ 1,000บาทนั้นมาลองทำ แล้วผมก็ได้นำคาราเมลมาดัดแปลงให้เป็นสูตรเฉพาะของผม

มันทำให้ผมรู้ว่า “โอกาสเกิดจากปัญหาที่พบเจอ” เพราะปัญหาที่ผมเจอนั้น ผมคิดว่าคงไม่ใช่ผมคนเดียวแน่ๆที่ไม่ชอบกินขอบขนมปัง

 

ปัญหาใหญ่คือการต้องเอาชนะใจตัวเอง

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของผมคือการไม่มีวินัยในตนเอง ผมว่ามันเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดสำหรับผม เวลาจะมานั่งคิดธุรกิจ ใจผมนั้นจะพาหันเหไปทำอย่างอื่นที่ไม่มีประโยชน์แทน ไม่ว่าจะเป็น หันไปเล่นเกมส์ หันไปดูหนัง หันไปฟังเพลงแทน โดยจะบอกตัวเองเสมอว่า แค่แป๊ปเดียวเองเดี่ยวค่อยทำก็ได้ มีเวลาเหลืออีกตั้งมากมาย จนหมดวันและไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเป็นแบบนี้ไปได้สักพัก จนเมื่อเวลาผ่านไปถึงจุดๆหนึ่ง

ในวันนั้นผมก็นั่งเล่นเกมส์ตามปกติ ผมก็เล่นไปเรื่อยๆ สักพักขณะที่ผมนั่งเล่นเกมส์อยู่นั้น คำถามก็เกิดขึ้นมาในหัวผมมากมาย ผมก็ฉุดคิดขึ้นมาว่า ตอนนี้ทำอะไรอยู่ว่ะ ไม่อยากเป็นนักธุรกิจรึไง ไม่อยากมีชีวิตดีๆรึไง ไม่อยากเห็นคนในครอบครัวสบายรึไง มาเล่นเกมส์แบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะสำเร็จ ผมก็นั่งคิดทบทวนตัวเองไปได้สักพักจนผมคิดได้

ผมปิดเกมส์แล้วไปหยิบวัตถุดิบมาตั้งบนโต๊ะ และเริ่มทำในทันที วันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่พอหลังๆก็มีความคิดเดิมขึ้นมาอีกว่า เล่นเกมส์ก่อนดีไหม พักสักแปปก็ได้ จะอะไรนักหนา เมื่อมีความคิดแบบนี้เกิดมาในหัวผม

ผมก็จะนึกถึงภาพที่ตัวเองได้เป็นเจ้าของบริษัท วันที่มีหลายๆรายการเชิญไปสัมภาษณ์ นึกถีงวันที่คนในครอบครัวได้อยู่แบบสุขสบาย และนึกถึงวันที่ตัวเองได้ชื่อว่าเป็นวัยรุ่นไทยสายสร้างตัวเอง มันจะช่วยให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น และมันทำให้ผมคิดว่า ถ้าเราตั้งใจทำในวันนี้ ก็จะมีภาพในวันนั้นแน่นอน 

 

สินค้าดีต้องมีคนทาน เลือกลูกค้าในตรงกลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มลูกค้าของผมนั้นผมจะเน้นไปทางกลุ่มของคนทำงาน เพราะกลุ่มของคนทำงานนั้นมีกำลังซื้อในสินค้าที่มากพอ และในกลุ่มของคนทำงานนั้นส่วนใหญ่จะบริโภคกาแฟอยู่แล้ว ซึ่งสินค้าของผมนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถมานควบคู่ไปกับกาแฟได้อยู่แล้ว ผมจึงเจาะกลุ่มลูกค้าในส่วนของคนในวัยทำงานเป็นหลัก

โดยผมจะทำการสร้างรากฐานของแบรนด์ผ่าน social media เป็นหลักเพื่อที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ได้ง่าย

 

ก้าวแรกขนมปังเคลือบคาราเมล

ในตอนนี้สินค้าของผมในปัจจุบันนั้น มีขนมปังที่เคลือบด้วยคาราเมลเพียงรสชาติเดียวเท่านั้น แต่ในอนาคตผมจะพัฒนารสชาติของตัวขนมให้มีเพิ่มมากขึ้นแน่นอน

 

วัตถุดิบต้องได้คุณภาพ รสชาตต้องอร่อย

ในตัวขนมของผมนั้นจะเป็นขนมที่ให้รสสัมผัสที่กรอบในกำลังที่พอดี หอมกลุ่นไปด้วยกลิ่นของคาราเมลสูตรเฉพาะที่ผมได้คิดค้นมันขึ้นมาเอง ในรสชาติที่หอม หวาน กรอบในกำลังที่พอดี เมื่อทานควบคู่ไปกับเครื่องดื่มที่ชอบ เช่น ชา กาแฟ หรือนมแล้ว จะได้รสสัมผัสที่ดียิ่งขึ้นจากการผมผสานของตัวขนมและเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ เกิดความละมุนอยู่ในช่องปาก ทำให้รู้สึกดีเมื่อได้ทานขนมกับเครื่องดื่มคู่ใจในเวลาพักอย่างแน่นอน

 

ตัวเด็กแต่แนวคิดนักธุรกิจผู้ใหญ่

แนวคิดในการทำธุรกิจก็คือ การใช้ปัญหาที่มีอยู่ทำให้เกิดเป็นโอกาสที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ โดยการรู้จักคิด รู้จักใช้ รู้จักทำ

รู้จักคิด คือ คิดว่าปัญหาที่เราพบนั้นคือโอกาสสูงสุดที่เราได้รับ

รู้จักใช้ คือ ใช้ปัญหาที่เรามีนั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รู้จักทำ คือ ลงมือทำโอกาสที่พบจากปัญหาให้เป็นจริง

หลักการทำธุรกิจของผมก็ไม่อยากครับ เพียงแค่คุณขยัน อดทน มุ่งมั่น และตั้งใจทำสิ่งที่คุณคิดไว้ให้เป็นจริง ใส่ใจกับสิ่งที่ทำ เรียนรู้จากความผิดพลาด โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น และไม่ใส่ใจกับคำพูดของคนอื่นที่ดูถูกเหยียดหยามเรา แค่นี้คุณก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

 

แบ่งเวลาเรียน เวลาเล่น เวลางาน ฝึกให้เราเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น

 

การทำธุรกิจในวัยที่กำลังเรียนอยู่นั้น จะมีปัญหาในการใช้แบ่งเวลาอย่างแน่นอนครับ และผมจะแก้ปัญหาโดยการตั้งค่าตอบกลับอัตโนมัติไว้ แล้วพอกลับจากเรียนผมก็จะรีบทำการบ้านให้เสร็จ แล้วมาตอบลูกค้า และแพ็คของส่งให้กลับลูกค้าในวันถัดไปครับ ส่วนการผลิตผมจะผลิตในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไม่ให้ส่งผมกระทบต่อการเรียนครับ

 

อนาคตของ Crispy Crispy จะโตไปตามความฝันของผม

ในอนาคตผมจะเพิ่มรสชาติของตัวขนมให้มีหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภค จัดใส่ในแพคเกจที่สวยงามสามารถเรียกแรงดึงดูดให้กับตัวของสินค้าได้ และจะขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เด็กนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนทั่วไป ให้ครอบคลุมและเข้าถึงกับทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการส่งออกเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเดียวกันในต่างประเทศให้มีเพิ่มมากขึ้น จะทำให้ธุรกิจมีแนวโน้มในการเจริญเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

อยากบอกอะไรเพื่อนในวัยเดียวกัน

            เวลาเรียนขอให้ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ เวลาเล่นก็เล่นให้สนุก และหาเวลามาสร้างอนาคตตัวเองนอกจากการเรียน ประสบการณ์นอกโรงเรียนมันมีให้เราได้ลองทำ ได้ลองศึกษา หากโอกาสประจวบเหมาะเราก็ได้เงินค่าขนม ค่าเทอม และหากสิ่งที่ทำมันมีอนาคตเราก็จะมีรายได้มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องรอให้เรียนจบแล้วค่อยออกไปหางาน ลองฝึกลองทำแต่ตอนนี้เลยดีกว่าครับ

ใครที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจขอแค่กล้าที่จะลงมือทำ อย่าไปกังวนกับปัญหาที่จะเจอ อย่าไปใส่ใจกับคำพูดของใคร จงเชื่อมั่นในตนเอง ถ้าหากคุณคิดแล้วแต่ไม่ได้ทำไม่คำไม่ต่างกับทำแต่ไม่ได้คิด แล้วมาเสียใจทีหลัง ผมทำได้คุณก็ทำได้เช่นกันครับ

“จงมองโอกาสจากปัญหา และจงเปลี่ยนปัญหาที่เจอเป็นโอกาสที่มี”

สนใจผลิตภัณฑ์ของน้องบุ๊คติดต่อ

หากท่านใดสนใจที่จะสนับสนุนในธุรกิจของผม สามารถติดต่อที่ Line id:0947399320 หรือ เบอร์โทรศัพท์ที่เบอร์ 062-036-0068 บุ๊ค วสวัตติ์ เขียวเพชร

หรือติดต่อมาที่ https://www.facebook.com/Crispy-Crispy-135520910321312/?ref=bookmarks

แล้วผมจะตั้งใจทำฝันให้มันเป็นจริง

โปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับท่านใดที่บอกว่ามาจากเว็บไซต์ taokaemai รับสิทธิ์ ซื้อ 1 แถม 1 ไปทันทีเลยครับ พิเศษสำหรับ 50 ท่านแรกเท่านั้นนะครับ