ปัจจัยต่างๆจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจใช้บริการขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ e-commerce เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า และพร้อมกันนี้ยังเป็นแนวทางให้บริษัทขนส่งสามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในงานด้านการขนส่ง

จากกระแสการขายของออนไลน์ หรือ E-commerce ได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการค้าแบบเดิม ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีหน้าร้าน แต่อย่างไรก็ตามการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคยังจำเป็นต้องมีคนกลางในการส่งต่อ จึงส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่งในรูปแบบไปรณีย์ภัณฑ์และรับส่งสินค้า  จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของ E-Commerce เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยสามารถดังนี้

E-Commerceปี 2558ปี 2559ปี 2560ปี 2561
มูลค่าตลาด (ล้านบาท)2,245,1472,560,1032,812,5923,058,987
%การเติบโต 134.2%9.8%8.7%

ที่มา : ETDA,กรกฎาคม 2561 (ไม่รวมe-biding ของภาครัฐ)

และจากการเติบโตของ e-commerce นี้ได้กระตุ้นภาคการขนส่งให้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบการใช้บริการดังกล่าว เข้าถึงได้อย่างง่ายดายด้วยสัมผัสเพียงปลายนิ้วสามารถตอบสนองทุกความต้องการ ผ่านแอพพิเคชั่นบน Mobile Phone มีปัจจัยใดบ้างที่สนับสนุนให้การทำธุรกิจขนส่งประสบความสำเร็จ ในภาวะที่การแข่งขันสูง

1.ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง  ตอบสนองความต้องการได้ตรงใจ

ด้วยชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ ไม่เว้นแม้แต่การใช้บริการจากร้านค้าที่เปลี่ยนไป ด้วยผู้บริโภคสามารถใช้บริการหรือสั่งซื้อสินค้าโดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนต หรือการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คนรุ่นใหม่ชอบความสะดวกสบายจนเกิดเป็นธุรกิจ e-Commerce จึงหนีไม่พ้นการขนส่งสินค้าซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจ e-Commerce  ส่งผลกระทบของผู้ประกอบการด้านการขนส่งต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริการให้สนองต่อความต้องการของผู้บริโภค จัดเป็นกลยุทธ์ที่สามารถสร้างความพึงพอใจได้เป็นอย่างดี ด้วยการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)

2.จุดบริการครอบคลุมทุกพื้นที่ ลูกค้าเดินทางสะดวก พร้อมให้บริการ

มีจำนวนสาขาที่มากพอในการให้บริการเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้บริการได้ง่าย ตลอดจนการให้บริการได้ตลอด 24 ชม.ใช้บริการเวลาใดก็ได้ ซึ่งผู้ให้บริการด้านขนส่งหลายเจ้าได้เริ่มปรับตัวกันแล้ว อย่างเช่น  SCG Express  ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนมีจุดบริการกว่า  500 จุดและยังตั้งเป้าจะขยายเพิ่มชึ้นถึง 1,000 สาขาภายในในปี 2018 หรือ Lalamove สามารถเรียกใช้บริการเวลาใดก็ได้และยังเป็นเป็นผู้นำการขนส่งแบบ On Demand หรือบริการตามสั่งแบบสำเร็จรูปส่งถึงมือลูกค้า แบบ Door to Door

3.มีบริการหลากหลายรูปแบบ

จากแพลทฟอร์มเดิม บริษัทขนส่งมักจะให้บริการเพียงด้านเดียว แต่ในปัจจุบันการแข่งขันสูงผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวด้วยการมีบริการเสริมและครบวงจรมากขึ้น จากเดิมที่เคยให้บริการเพียงแค่รับส่งพัสดุ อาจต้องมีการเพิ่มบริการรับส่งเอกสาร ตลอดจนบริการรับส่งอาหาร หากใครเป็นพนักงานออฟฟิตน่าจะได้มีโอกาสใช้บริการ สำหรับผู้ทำธุรกิจออนไลน์สามารถใช้บริการดังกล่าวได้เช่นกัน ซึ่งมีการรับส่งสินค้าแทบจะทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น เบเกอรี่ อาหารคาว หวาน เสือ้ผ้า ราคาค่าส่งขึ้นอยู่กับระยะทางนอกจากบริการต่างๆที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นยังมีบริการเก็บเงินปลายทางที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าอีกทาง

4.ส่งเร็ว ส่งด่วน ตรงเวลา

ลูกค้าที่ซื้อสินค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ต้องการสินค้าเร็วที่สุด นั่นก็เพราะพวกเขาไม่ได้สัมผัสกับสินค้าก่อนซื้อ การจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และตรงเวลา ตลอดจนสินค้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการขนส่งควรคำนึงถึง รวมถึงต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนของการขนส่ง ทำให้เป็นที่ไว้วางใจทั้งของลูกค้าและร้านค้าออนไลน์ที่ใช้บริการ นอกจากนี้เทรนการจัดส่งสินค้าและได้รับภายในวันที่สั่งซื้อมีโอกาสที่จะเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคต

5.มีโปรโมชั่น ล่วนลด กระตุ้นจูงใจ

การมีโปรโมชั่นเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญและยังเป็นช่องทางในการขยายตลาดได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มการใช้บริการซ้ำ และยังเป็นการได้ลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น  ดังนั้นในการจัดทำโปรโมชั่นควรมีทั้งของลูกค้าเก่าและลูกใหม่ นับว่าเป็นจุดขายของธุรกิจอีกด้วย

6.ใช้เทคโลยีให้เป็นประโยชน์ อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค เติบโตอย่างยั่งยืน

เพื่อให้ทันต่อการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ผู้ประกอบการต้องพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับกระแส e-Commerce ที่เติบโตขึ้นหลายเท่าตัวในอนาคต ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดเก็บข้อมูล อย่างเช่นว่า ข้อมูลลูกค้า การติดตามพัสดุและบริหารจัดการระบบต่างๆ นั่นเป็นเพราะว่าเทคโนโลยีเป็นตัวแปรสำคัญในการได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

7.ควบคุม จัดการค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ

เป็นอีกปัจจัยหลักที่อยู่ในการพิจารณาใช้บริการไม่ว่าจะเป็นของผู้ประกอบและลูกค้าเอง การบริการที่ดีย่อมนำมาสู่ค่าใช่จ่ายที่แพงขึ้น แต่บริษัทขนส่งจึงต้องมีกลยุทธ์ในการลดต้นทุนเพื่อให้ได้ราคาค่าส่งที่ถูกลงเป็นที่ต้องการของลูกค้าและธุรกิจ e-commerce เพราะปัจจัยด้านราคาเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันในธุรกิจเช่นเดียวกันจึงไม่ควรมองข้าม ดังนั้นบริษัทขนส่งต้องวางแผนการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ โดยการบริหารต้นทุนที่สามารถควบคุมและลดค่าใช้จ่ายได้ ได้แก่ ปัจจัยด้านเทคนิค ปัจจจัยด้านการบำรุงรักษา ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อมภายนอก เช่น การจราจรติดขัด และสุดท้ายปัจจัยด้านการขับขี่ โดยที่บริษัทมีการอบรมพนักงานขับรถให้ใช้น้ำมันอย่างประหยัด ซึ่งจะช่วยลดค่าบริการการขนส่งที่ลูกค้าจ่ายให้แก่บริษัทขนส่งได้ เป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

จากปัจจัยต่างๆที่ได้กล่าวไว้แล้วจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจใช้บริการขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ e-commerce เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า และพร้อมกันนี้ยังเป็นแนวทางให้บริษัทขนส่งสามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในงานด้านการขนส่ง ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และประสบความสำเร็จ สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้ทันเวลา จนเกิดเป็นความภักดีของลูกค้า การใช้บริการบริการซ้ำและบอกต่อ พร้อมกันนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่กำลังเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยี

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”

คุณ กาญจนาภรณ์ บุญเกิด (คุณ นก)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ
ปัจจุบันเป็นพนักงานบริษัท

บทความเกี่ยวกับธุรกิจขนส่ง