การมีประกันสุขภาพอยู่ในมือจะช่วยลดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และหากคุณมีประกันสุขภาพตัวท๊อปที่ให้ความคุ้มครองสูงแถมยังครอบทุกฟังก์ชั่นแล้วล่ะก็  คุณมั่นใจได้เลยว่า เงินทองที่คุณหาได้มาจากการทำงานมาตอลดทั้งชีวิต จะไม่ถูกเททิ้งไปกับค่ารักษาพยาบาลที่แพงหูดับตับไหม้  

เมื่อพูดถึงการทำประกันสุขภาพ หลายคนบอกว่า “ของมันต้องมี” เพราะมันคือการซื้อสวัสดิการด้านสุขภาพส่วนบุคคล  ยิ่งบรรดาเจ้าของธุรกิจที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่มีเวลาดูแลสุขภาพยิ่งควรต้องมีประกันสุขภาพตัวท๊อปอยู่ในมือสักหนึ่งหรือสองกรมธรรม์ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลเรื่องค่ารักษาให้ไม่ให้มากระทบกับเงินที่หามาทั้งชีวิต

ทำไมเจ้าของกิจการต้องซื้อประกันสุขภาพ

เพราะเวลาเป็นเงินเป็นทอง ทุกวินาทีคือปริมาณเม็ดเงินมหาศาลที่จะหลั่งไหลเข้ากระเป๋า  คติประจำใจของเจ้าของกิจการส่วนใหญ่คือ “หาเงินก่อน พักผ่อนทีหลัง”  ไม่ว่าจะเป็นการพักร่าง หรือการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มันคือ การหยุดทำเงิน!!!!!

ต้องสูญเสียไปอีกเท่าไหร่ กับการรอคอย…รพ.รัฐบาล ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีต่อใจสำหรับเจ้าของกิจการสักเท่าไหร่  แม้จะประหยัดเงินแต่ก็ต้องแลกกับเวลาที่เสียไปมากมายกับการรอคิวที่ยาวเป็นหางว่าว  สู้เอาเวลาครึ่งค่อนวันนั้นมาบริหารธุรกิจของคุณจะไม่ดีกว่าหรือ  รพ.เอกชนเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยเซฟเรื่องเวลา แต่ค่ารักษาพยาบาลบางโรค บางอาการ แค่เห็นตัวเลขก็เล่นเอาหน้ามืดได้เหมือนกัน

การมีประกันสุขภาพอยู่ในมือจะช่วยลดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และหากคุณมีประกันสุขภาพตัวท๊อปที่ให้ความคุ้มครองสูงแถมยังครอบทุกฟังก์ชั่นแล้วล่ะก็  คุณมั่นใจได้เลยว่า เงินทองที่คุณหาได้มาจากการทำงานมาตอลดทั้งชีวิต จะไม่ถูกเททิ้งไปกับค่ารักษาพยาบาลที่แพงหูดับตับไหม้ อย่างแน่นอน

แต่…หลายครั้งเรามีปัญหาเรื่องการเคลมค่ารักษาพยาบาล จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหานี้ขึ้นกับคุณ เพราะนอกจากเบี้ยประกันที่ต้องส่งแล้ว พอถึงเวลาต้องใช่ขึ้นมาจริง ๆ คุณกลับถูกปฏิเสธ ปัญหานี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?…บริษัทประกันงง หรือโรงพยาบาลคิดเงินผิด คิดแล้วปวดสมอง

เงื่อนไขประกันสุขภาพ ที่เจ้าของกิจการต้องรู้

เงื่อนไขมักมาในรูปแบบของเครื่องหมายดอกจัน และมีคำอธิบายตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีความสะดุดตาอะไรเลย  แต่เชื่อเถอะค่ะว่ามันโคตรสำคัญ เพราะมันคือเงื่อนไขที่สามารถทำให้คุณไม่สามารถเคลมประกันได้ หากสิ่งที่คุณเป็นอยู่มันดันไปตรงกับเงื่อนไขดอกจันนั้น  เงื่อนไขหลัก ๆ ที่แทบจะเหมือนกันทุกบริษัท คือ

  1. บางกรณีประกันก็ออกตัวล้อฟรีว่าไม่คุ้มครองตั้งแต่แรก ไม่ว่าตัวแทนจะลืมบอก หรือคุณจะลืมไปแล้ว บริษัทประกันก็ไม่คุ้มครองให้แน่นอนค่ะ ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมี โรคเรื้อรังที่คุณเป็นมาก่อนทำประกัน, โรคที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด, ศัลยกรรมความงาม, ทำแท้ง และ HIV
  2. ระยะเวลารอคอยบางโรค บางอาการก็ไม่เท่ากัน หากเป็นโรคตามฤดูกาลหรือบาดเจ็บทั่ว ๆ ไป ระยะเวลารอคอยจะอยู่ที่ 30 วันหลังจากทำประกัน หากยังไม่ครบ 30 วัน คุณจะยังไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แต่สำหรับโรคบางโรคเช่นมะเร็ง ระยะเวลารอคอยอาจมากกว่านั้น คุณต้องระวังข้อนี้ให้ดีนะคะ
  3. ค่าผ่าตัดหัตถการ ไม่ได้มีวงเงินคุ้มครองเท่ากันทุกกรณีนะคะ อัตราการคุ้มครองขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการผ่าตัดในแต่ละเคส เช่น การผ่าตัดไส้ติ่ง มีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลน้อยกว่าการผ่าตัดหัวใจซึ่งมีความยากมากกว่า
  4. หยุดส่งเบี้ย เท่ากับหยุดความคุ้มครอง อย่าลืมจ่ายเบี้ยประกันเมื่อครบกำหนด ไม่ว่าจะเป็นรายปี รายไตรมาส หรือรายเดือน ล้วนมีผลกับการคุ้มครอง ถ้าโชคดีขาดส่งเบี้ยไม่เกินระยะเวลาที่กำหนดคุณอาจแค่ต้องสำรองจ่ายเองแล้วไปเบิกกับบริษัทภายหลัง ซึ่งมันต้องเสียเวลาไปกับขั้นตอนการตรวจสอบอยู่ดี
  5. ประกันสุขภาพบางแบบ บริษัทประกันก็ไม่ได้จ่ายค่าสินไหมให้ ณ.วันที่เข้ารักษา เช่น ประกันโรคร้ายแรง ที่บริษัทประกันไม่ได้จ่ายค่ารักษาให้ในทันที  คุณจะต้องแจ้งให้ประกันทราบพร้อมแนบเอกสารเพื่อขอเคลมในภายหลัง และต้องรอบริษัทประกันตรวจสอบข้อมูลอีกเป็นเดือน คุณควรสอบถามตัวแทนเรื่องวิธีการจ่ายเงินให้ดีเสียก่อนนะคะ

 เลือกซื้อประกันสุขภาพยังไงให้ไม่ปวดใจในภายหลัง

  1. นอกจากผลประโยชน์ที่คุณจะได้แล้ว ควรถามข้อยกเว้น ข้อจำกัด และเงื่อนไขอื่น ๆ ประกอบด้วยทุกครั้ง เพราะถ้าคุณทราบข้อจำกัดเหล่านี้แล้ว คุณจะได้เตรียมแผนสอง แผนสามไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ต้องรอให้ตกใจตอนได้รับใบแจ้งค่าใช้จ่ายค่ะ
  2. มีกรณีศึกษาอะไรขุดมาถามตัวแทนให้หมด เพราะเหตุการณ์นั้นอาจเกิดขึ้นกับคุณได้ ในอนาคต ถามเป็นเจ้าหนูจำไมไปเลยค่ะ คุณจะได้กระจ่างแจ้งในข้อเท็จจริงที่ว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วฉันจะ…..
  3. ขอแถลงประวัติการรักษาพยาบาลอย่างตรงไปตรงมา แม้จะผ่านมาหลายปีแต่มันอาจมีผลต่อการเคลมค่ารักษาของคุณในอนาคตได้ บอกไปก่อนเถอะค่ะ ปลอดภัยที่สุด
  4. สภาพคล่องทางการเงินของตัวคุณเอง คุณควรจ่ายค่าเบี้ยประกันไม่เกินร้อยละ10 ของรายได้ เพราะคุณจะได้ไม่ปวดใจเมื่อถึงรอบการจ่ายค่าเบี้ย เลือกเอาแบบที่ไหว และไม่กระทบกับชีวิตประจำวันดีกว่านะคะ
  5. เลือกบริษัทประกันชีวิตน่าเชื่อถือ มั่นคงอยู่ทนอยู่นาน นั่นแสดงถึงศักยภาพในการบริหารความเสี่ยงที่ดีเลิศ บริษัทมั่นคง ลูกค้าเองก็มั่นใจค่ะว่าจะอยู่ดูแลเราไปได้ตลอดรอดฝั่งแน่นอน

นอกจากการวางแผนธุรกิจเพื่อทำเงินแล้ว เจ้าของกิจการควรวางแผนด้านสุขภาพด้วยเช่นกัน  แม้การทำประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระในแง่ของการประหยัดเวลา หรือค่ารักษาที่ไม่ต้องแบกรับเองแล้ว

สิ่งที่เจ้าของกิจการควรคำนึงถึงให้มากที่สุดคือ สุขภาพของคุณเอง  การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ การเจียดเวลาเพื่อออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จะช่วยไม่ให้คุณต้องเสียเวลาในการรักษาตัวในโรงพยาบาล และบางทีคุณอาจได้ลูกค้าเพิ่มจากกิจกรรมการออกกำลังกายก็ได้ ใครจะไปรู้

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”

คุณ สุภารัตน์  ศรีลา (แต)ปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต

มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา

ปัจจุบัน พนักงานบริษัท และตัวแทนประกันชีวิต

บทความเกี่ยวกับธุรกิจประกันและความเสี่ยง