ทำอย่างไรจึงจะขายดีบนโลกออนไลน์ เชื่อว่าเป็นคำถามที่คนขายออนไลน์จำนวนไม่น้อยรวมถึงมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มกำลังมองหาคำตอบนี้อยู่ แน่นอนว่ามีเทคนิคดีๆ มากมาย แต่จะนำมาปรับใช้อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจของเรา ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีของการขายออนไลน์ของแขกรับเชิญท่านนี้ อะไรคือหัวใจสำคัญสำหรับก้าวแรกสู่ก้าวที่มั่นคง นี่คือเคล็ด(ไม่)ลับในการขายดีบนโลกออนไลน์จากประสบการณ์ของ คุณ อรรถวิทย์ จูกระจ่าง นักธุรกิจออนไลน์ จ.ลพบุรี

จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจออนไลน์

คุณอรรถวิทย์ อดีตพนักงานบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจออนไลน์กว่า 10 ปี เริ่มต้นจากธุรกิจแฟชั่นที่ทำร่วมกับรุ่นน้องที่รู้จักกัน เป็นแบรนด์แรกๆ ที่ทำการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ Influencer Marketing  คุณอรรถวิทย์เล่าว่า ยอดขายในตอนนั้นดีมาก แค่โพสต์ขายบนเฟสบุ๊คโดยที่ไม่ต้องลงโฆษณาก็สามารถขายได้

ก่อนหน้าที่จะขายออนไลน์ เคยเช่าพื้นที่ขายหน้าร้านมาก่อนแต่ผลตอบรับไม่ดี จนมีรายการหนึ่งติดต่อมาขอเสื้อผ้าเพื่อให้นางแบบใส่ในการถ่ายทำ เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นเสื้อผ้าของทางร้านจึงเกิดความชื่นชอบและเข้ามากดไลค์เพจ ภายในหนึ่งสัปดาห์มีคนกดถูกใจเพจถึง 8,000 คน ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นด้วย

จากนั้นคุณอรรถวิทย์เริ่มเป็นตัวแทนขายสินค้าอีกหลายชนิด จนถึงวันที่ต้องเดินทางกลับจังหวัดลพบุรี จึงต้องลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ แล้วไปสมัครเป็นครูอัตราจ้างควบคู่กับการเป็นตัวแทนขายออนไลน์ จนมีรายได้จากการขายออนไลน์ในระดับนึงที่คิดว่าเพียงพอต่อการใช้ชีวิตและอยากลาออกมาทำออนไลน์อย่างเต็มที่

คุณอรรถวิทย์ให้ความเห็นว่า สำหรับคนที่ทำงานประจำควบคู่กับการขายออนไลน์ ควรให้ความสำคัญกับงานประจำ เพราะความรับผิดชอบต้องมาก่อน  คุณอรรถวิทย์ใช้วิธีหาคนมาช่วยตอบแชทแทนตัวเองในช่วงกลางวัน ส่วนตัวเองนั้นศึกษาเรื่องการทำโฆษณาและระบบ คอยดูภาพรวมต่างๆ ในช่วงกลางคืนและก่อนเวลาเข้างาน หลังจากที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ในตอนนั้นได้จ้างทีมงานมาช่วยงานในส่วนต่างๆ เพื่อให้มียอดขายเพิ่มขึ้น ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ทำธุรกิจออนไลน์ ในส่วนของรายได้นั้นดีกว่าที่ผ่านมา ส่วนตัวไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย วิถีความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก บริษัทก็เติบโตเช่นกัน มียอดขายเพิ่มขึ้น จำนวนออเดอร์จากหลักสิบเป็นหลักร้อยปลายๆ ต่อวัน

เคล็ดลับทำเงินล้าน ขายออนไลน์จาก 1-100+ บ้าน

คุณอรรถวิทย์ให้ความเห็นว่า หากพูดในเชิงเทคนิคนั้นค่อนข้างยาก สิ่งหนึ่งที่คุณอรรถวิทย์เห็นจากคนทำธุรกิจออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จนั่นคือ เราโฟกัสแค่ไหน ทั้งในเรื่องของทิศทางและสินค้า เมื่อพูดถึงการขายของออนไลน์ คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่รายได้เป็นอย่างแรก คิดว่าทำออนไลน์แล้วรวย เห็นคนอื่นขายดี ก็อยากจะทำบ้าง โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงหัวใจของการทำธุรกิจ ตรงนี้ถือเป็นจุดเสียของการขายออนไลน์ที่คนขายมักจะเปลี่ยนสินค้าไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดความไม่ยั่งยืน ช่วงไหนที่สินค้าใดขายดีก็หันไปขายสินค้านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีสินค้ากระแสเกิดขึ้น อาจจะไม่ได้เกิดจากคนซื้อ แต่เป็นจากฝั่งคนขายที่สร้างกระแสนั้นขึ้นมา คุณอรรถวิทย์แนะนำว่า เราจะขายอะไรให้โฟกัสไปที่สินค้านั้น จะทำการตลาดอย่างไร คิดโปรโมชั่นแบบไหน ติดตามลูกค้าเก่า เพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า

ช่วงแรกที่ขายออนไลน์คุณอรรถวิทย์ไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง ก็เคยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นกัน ใครขายอะไรดีก็อยากจะขายด้วย จนทำให้รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนสินค้าอยู่ตลอด จึงอยากจะฝากถึงผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจ อยากให้มั่นใจในสินค้าของตัวเอง หากคนขายไม่อินกับสินค้าของตัวเอง แล้วจะทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกอยากซื้อสินค้าได้อย่างไร เมื่อเราโฟกัสไปที่สินค้าของตัวเอง จะทำให้เห็นช่องทางการตลาด และค่อยๆ ศึกษาเจาะลึกลงไปเรื่อยๆ

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะขายอะไร ลองทำเช็คลิสต์ว่ามีใครบ้างที่ขายสินค้าแบบเดียวกับเรา มีช่องทางใดบ้างในการติดต่อกับลูกค้า เช่น เว็บไซต์  Facebook Page  จะทำอย่างไรให้มูลค่าสินค้าสูงขึ้น คุณอรรถวิทย์ เล่าว่า การขายออนไลน์ในยุคนี้มีหลายคนที่ขายตัดราคา เพื่อต้องการให้ได้จำนวนลูกค้ามากขึ้น หากเราสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ กำไรก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำลังใจในการขาย และคิดหาวิธีในการสร้างมูลค่าสินค้าให้กับลูกค้ามากขึ้น ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้มากกว่าการลดราคา ในเบื้องต้นการซื้อสินค้าลูกค้ามักจะพิจารณาจากราคา แต่สุดท้ายแล้วเราอาจไม่ได้ซื้อสินค้าที่ราคาถูกที่สุด เพราะมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย

สร้างคอนเทนต์อย่างไรเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

คอนเทนต์เกี่ยวกับการให้ความรู้นั้นทำได้ง่าย ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตาม เราต้องรู้จริงในเรื่องนั้น ต้องทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น การนำเสนอผ่านรูปภาพช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับมือใหม่ควรนำเสนอในหลายรูปแบบ ถ้าลงโฆษณาควรทำรูปภาพให้ออกมาดูดี เห็นแล้วต้องเข้าใจทันทีว่าขายอะไร ส่วนการทำคลิปวิดีโอ ประเด็นอยู่ที่คนต้องกดเข้าไปดูก่อนแล้วถึงจะเข้าใจ หากทำคลิปออกมาดีและน่าสนใจ ก็มีแนวโน้มที่คนอยากจะเข้าไปดู สามารถใช้ตัวเองพรีเซนต์สินค้า ช่วงแรกอาจจะติดขัดนิดหน่อย แต่พอทำบ่อยๆ จะดีขึ้นตามลำดับ

ซึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในการนำเสนอสินค้าคือ การไลฟ์ขายของ เป็นวิธีที่นิยมอย่างมากในการขายออนไลน์ สามารถเพิ่มยอดได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเพจทำการไลฟ์ก็จะมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ติดตาม ต่างจากการโพสต์ที่ถูกปิดกั้นการมองเห็น ในช่วงแรกจำนวนผู้เข้าชมอาจจะน้อย สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การมีส่วนร่วมกับเพจมากขึ้น ซึ่งเฟสบุ๊คมองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ดี ค่าโฆษณาจึงถูกลงไปด้วย

สำหรับมือใหม่หัดขายออนไลน์ ในส่วนของการลงโฆษณาอย่าเพิ่งคิดเองก่อน ให้ลองดูว่าโฆษณาที่คนสนใจ และส่งผลให้สินค้าขายดี แบรนด์เหล่านั้นมีรูปแบบหรือวิธีการอย่างไร จะนำมาเป็นแนวทางหรือปรับใช้กับสินค้าของเราได้อย่างไร ทำยังไงให้กลุ่มเป้าหมายสนใจสินค้ามากขึ้น เมื่อทำโฆษณาชิ้นแรกแล้ว ควรจะทำชิ้นต่อไป เพื่อทดสอบว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นดีแล้วหรือยัง ในทุกครั้งต้องทำให้ดีกว่าเดิม เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำโฆษณานั่นเอง เพราะก้าวแรกของการทำการตลาด

งบประมาณเป็นเรื่องที่ต้องคำนึง การเปิดร้านใหม่ในช่วงแรกมักจะไม่มีลูกค้า อย่างไรก็ตามร้านของเราต้องดูดีไว้ก่อน มีการเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ เอาใจใส่ทุกคนที่เข้ามาสอบถาม ค่อยๆ สะสมลูกค้าไปเรื่อยๆ สร้างคอนเทนต์แปลกใหม่เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามา อาจไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเยอะ แต่เน้นคุณภาพ ขยันสร้างคอนเทนต์ดีๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความ รูปภาพหรือคลิปวิดีโอ ไลฟ์บ่อยขึ้น เพื่อให้เพจหรือธุรกิจโตเร็วขึ้น

ขายดีขึ้นทันที

การขายออนไลน์มีรายละเอียดที่ต้องศึกษาค่อนข้างเยอะ และมีโอกาสเกิดปัญหาขึ้นได้เสมอ อยู่ที่ว่าจะแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร สำหรับมือใหม่หรือคนที่ขายออนไลน์มาสักพักแต่ยอดขายยังไม่เยอะ อย่าเพิ่งถอดใจไปก่อน ลองปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอคอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจ ส่วนการไลฟ์ขายของช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ไม่แน่ว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจให้ผลลัพธ์เกินกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้