วันหนึ่งครับขณะที่ผมกำลังดูอะไรเพลิน ๆ ในหน้า Facebook ก็มี New Feed ของน้องคนหนึ่งขึ้นมาครับน่าสนใจมาก ๆ ผมตามเข้าดูข้อมูลของน้อง อลงกรณ์ สมณะช้างเผือก ผมคิดในใจ เฮ่ย !! เด็กคนนี้แมร่งสุดยอดหวะ !! ผมไม่รู้จักน้องด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของโลกออนไลน์
ด้วยความสนใจในตัวน้องแบงค์ และธุรกิจที่น้องทำ ผมจึงได้เชิญน้องมาแบ่งปัน ประวัติความเป็นมาพร้อมทั้งแนวคิดในการทำธุรกิจของน้องให้พวกเราได้รู้จักกัน
ยอมรับเลยครับผมยิ่งอ่านแล้วยิ่ง “ขนลุก” บอกเลยครับ เองแน่มาก “น้องชาย” ผมหวังว่านี่จะเป็นอีกบุคคลต้นแบบของการที่จะ “ไม่ยอมแพ้” ต่อปัญหา อุปสรรค อะไรง่าย ๆ ใครที่ “ลำบาก” น้อยกว่าน้องแบงค์ดูน้องไว้เป็นตัวอย่างเลยครับ
น้องแบงค์แนะนำตัวให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ เถ้าแก่ใหม่ได้รู้จักหน่อยครับ
ผม แบงค์ (อลงกรณ์ สมณะช้างเผือก) วัย 22 ปี ครับ
ปัจจุบันเปิด บริษัท แสนสุข ออลเวส์ จำกัด ครับ
ธุรกิจแรกที่เริ่มนั้นเป็น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ครับ
ทราบว่าเป็นเด็ก “บ้านแตก” ต้องอยู่กับตายาย ชีวิตตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ
โดยส่วนตัวแล้วบ้านผมมีฐานะที่จน จนมากๆ ครับ มีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ พ่อแม่แยกทาง ครอบครัวแตกแยก
ชีวิตต้องมาอยู่กับตาและยาย ตั้งแต่เด็ก เป็นหลานชาวนา ลูกแม่ค้า ต้องตื่นไปตลาดเช้าตอนตี 1 ทุกวัน
ต้องอดมื้อกินมื้อเมื่อเห็นตากับยายลำบาก มันเป็นอะไรที่ลำบากมากครับ ในช่วงนั้นลำบากยังไง ?
ช่วงวัยเด็ก….!!
คุณเคยต้องตื่นไปตลาดเช้าตอนตี 1
เพื่อไปขายของไหม ..?
คุณเคยทานข้าวบ่ายเกลือ
เวลาที่ไม่มีอะไรกินไหม ..?
คุณเคยต้องย้ายที่นอนบ่อยๆเพื่อหลบฝน
ในเวลาที่ฝนตก รึป่าว ..?
คุณเคยได้แต่มองเพื่อนกินไอศกรีม
กินขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย รึป้าว …?
ทั้งหมดนั้นคือช่วงชีวิตวัยเด็กของผมครับ
ผมจะบอกว่าจริงๆ แล้วผมผูกพัน เกี่ยวกับการขายมาตั้งแต่เกิดเลยล่ะครับ
ตอนอายุ 7 ปี เอาของหวานที่ยายทำไปขายในโรงเรียน
ตอนอายุ 10 ปี ผมขายเรียงเบอร์ เพื่อเก็บเงินนำไปซื้อ เกมส์ตลับ ที่ตัวเองต้องการได้
ตอนอายุ 19 ปี ผมมีเงินเดือนครั้งแรก จากการเป็น sale man ที่ Cp
เดือน ละ 12,000฿ ช่วง Summer 4 เดือน หลังปิดเทอม
ตอนอายุ 21 ปี ผมฝึกงานที่ บริษัท สยามคูโบตา ลีสซิ่ง จำกัด ผมได้เงินเดือน 15,000 บาท จากการไปสหกิจศึกษา ซึ่งเป็นคนเดียวของ สาขาที่ได้เงินเดือน และเป็นวิทยากร พูด ได้ ชม. ละ 500 บาทครับ
ช่วงวัยเรียนปริญญา ผมทำหลายอย่างมากครับ ไม่ว่าจะเป็น ทำขนมครกญี่ปุ่น ขายส่งให้ร้านค้าใน มหาลัย
ทำแฟรนไซส์เครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว ผลิตนมผสมสมุนไพรจำหน่ายเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร เปิดร้านน้ำปั้น ตัวแทนขายครีม ทำธุรกิจเครือข่าย ขายประกัน ผมสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่ทำเหล่านี้ได้เป็นบางส่วนครับ และทั้งหมดนี้คือ ช่วงระยะเวลา 4 ปี ที่ผมเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่เรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว แต่เรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนด้วย มันเป็นประสบการณ์ ที่หาไม่ได้อีกแล้วครับ
ผมคิดเช่นนั้น ผมไม่เคยปิดกั้นตัวเอง เรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่ผมสามารถรับรู้ได้ ที่ผมต้องทำงานนั้นเป็นเพราะผมต้องหาเงินส่งตัวเองเรียน เพื่อที่ไม่ให้รบกวนทางบ้านมากที่สุด เท่าที่ผมนั้นทำได้ครับ
ตอนนี้ผมเพิ่งจบจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติคณะบริหารธุรกิจ เอกวิชาการตลาดครับ
อะไรคือจุด “ตัดสินใจ” ว่าชาตินี้ต้องเอาดีให้ได้ครับ
ผมเป็นคนที่โดนดูถูกบ่อยมากครับ
ครั้งแรกที่ผมโดน คือ อาจารย์ สอนพิเศษ ด่าผมว่าโง่ เรียนไม่เก่ง สมอง ซึ่งมันก็จริง นั้นแหละครับ ไม่ว่าจะเรียนชั้นไหน ห้องไหน ก็ได้ที่ครับ (ที่โหล่ตลอด) เกรดเฉลี่ย นี่ 0 กว่า 1 กว่า สูงสุดไม่เกิน 2.5 เกือบไม่จบมัธยมตอนปลาย เพราะติด 0 (พอดีว่าผมไปแก้ 0 ทันไม่งั้นคงต้องเรียนซ้ำอีกปี) ซึ่งผมมองว่า ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่ผมต้องการค้นหาตัวเอง มากกว่าการเรียนหนังสือ อยากรู้ว่าตัวเองรักที่จะทำอะไร อยากรู้ว่าตัวเองชอบที่จะทำอะไร แต่จะไม่เรียนก็ไม่ได้ เพราะตากับยายท่านหวังไว้สูงมาก
แต่พอเรียนมหาลัย ผมกับเป็นเด็กเกียรตินิยม เกรดเฉลี่ย 3 กว่าตลอด จนเทอมสุดท้ายได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ไม่รู้สิครับ ผมว่าผมเลือกเรียนถูกทาง และมันเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับผม
ครั้งที่สองของการโดนดูถูก ผมโดนนักธุรกิจ เครือข่ายคนหนึ่ง ซึงเขาเห็นว่าผมขยัน และต้องการผมไปทำงานร่วมกับเขาด้วย (จริงๆผมทำธุรกิจเครือข่ายมาหลายบริษัทมาก ที่เข้าไปทำเพราะผมต้องการรู้ระบบ) แต่กับพี่ที่มาชวนครั้งล่าสุด ผมไม่ได้ทำเพราะผมต้องการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองและอยากใช้ความรู้ ที่ได้เรียนรู้มาเพื่อพัฒนาและช่วยเหลือคนอื่น มากว่าไปทำธุรกิจนั้น พี่เขากับ ดูถูกผม ว่า เด็กบ้านนอกจนๆ อย่างน้อง
จะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนทำธุรกิจ และที่น้องบอกว่าจะช่วยคน น้องจะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วย…
ขนาดตัวน้องยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนของผม และต้องผลักดันตัวเองจากคำดูถูกเหล่านี้ ซึ่งผมจะฆ่าเขาด้วยความสำเร็จ และจะฝังเขาด้วยรอยยิ้ม ครับ
น้องแบงค์มีวิธีการเลือกธุรกิจอย่างไร และหาเงินทุนมาจากไหน
เริ่มต้นธุรกิจที่คิดว่ายากแล้ว แต่การลงมือทำสิครับ กลับยากกว่า ผมเริ่มจากการเป็นพ่อค้า ขายเต้าหู้นมสดจากตลาดสดในตัวเมืองน่าน หลังจากเรียนจบ ผมเริ่มลุยแบบจริงจัง เริ่มจากการคิดว่าสินค้าของผม ต้องมี อย. รับรองมาตรฐาน ในเบื้องต้น แต่บอกก่อนเลยในเวลานั้นผมไม่มีเงินทุน มากพอที่จะมาสร้าง โรงผลิต ให้ได้ ตามมาตรฐานการรับรอง ของ อย. สินค้าให้ได้(แล้วเอาเงินมากจากไหน ขอ แม่เหรอ ขอ ยายเหรอ) ป่าวเลยครับ
ผมจึงสร้างโมเดลธุรกิจ ตัวหนึ่งขึ้นมา จากการมองเห็นถึงปัญหาโดยส่วนตัวที่เกิดขึ้นกับตนเอง ซึ่งอย่างแรก คือไม่มีงบประมาณ หรือเงินทุนที่จะมาลงทุนในธุรกิจ ไม่สามารถกู้ยืมเงินได้เพราะไม่มีหลักทรัพย์เพื่อที่จะไปค้ำประกัน (ใช่แล้วแหละครับ) นั้นคือปัญหา ผมจึงนำโมเดลที่ตนได้คิดขึ้น ไปเสนอให้กับ นายทุน ซึ่งคนแรกเลยครับที่ผมได้รับโอกาส เป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนครับ แต่เขาบอกกับผมว่าโมเดล ที่คิดขึ้นมันโอเคร และสามารถเป็นไปได้ สิ่งแรกที่ผมถามเขา เลยครับ ก่อนที่เขาจะนำเงินมาลงทุน ไว้ใจผมได้มากแค่ไหนว่าผมจะสำเร็จ เขาตอบกับผมว่า เพราะเขาเชื่อในตัวผมว่าต้องทำสำเร็จ (ผมคิดในใจ นั่นสินะครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากความเชื่อก่อน เชื่อใจ เชื่อในความคิด เชื่อในความฝัน และเชื่อในสิ่งที่ทำ ) หลังจากนั้นผมก็ไดรับเงินก้อนมาลงทุน โดยที่ นายทุน เข้ามาถือหุ้นร่วมด้วยครับ ผมจึงนำเงินทุนไปก่อสร้างโรงผลิตสินค้า และดำเนินกิจการโดยที่ลงมือทำเองทั้งหมด ไม่ว่าจะติดต่อ หน่วยงานใด สาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อขอ อย.และGMP อย.สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานรหัสสากลแห่งชาติ การขอข้อมูลโภชนาการสินค้า หรือGDA การจัดซื้อจัดจ้าง การติดต่อสื่อสาร การจัดทำบัญชี การตลาดและการขาย คนๆ เดียวแต่เรียนรู้ทุกอย่าง ผมคิดว่ามันเหมือนเป็นการเรียนรู้ที่ไม่รู้จักจบสิ้น ยิ่งเรียนรู้มาก ยิ่งทำได้มาก มันยิ่งเก่งขึ้น ครับ
น้องแบงค์มอง “ปัญหา” อย่างไรครับ
ผมขอพูดในภาพรวมนะครับ สำหรับผม อุปสรรคและปัญหามันเกิดขึ้นมาตลอด และก็ ตลอด ผมคิดว่ามันคงเป็นบทพิสูจน์ ว่าเราจะผ่านมันไปได้ไหม ถ้าผ่านมันไปได้ นั้นล่ะ คือเราเจ๋ง แค่เริ่มต้นก็มีแล้วล่ะครับ ปัญหา ในเรื่องของเงินทุน ผมเป็นคนที่อยากทำธุรกิจมาก อยากทำจนที่ว่า นอนไม่หลับ ต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะทำอะไรดี จะหาเงินทุนมาจากไหนดี จะทำให้สำเร็จได้อย่างไง ดี จนในที่สุด ผมก็รู้ว่า เราควรเริ่มจากอะไร ไม่ได้เริ่มเพียงแค่การคิด แต่ต้องเริ่มลงมือทำเลย ไม่ใช่ทำวันพรุ่งนี้ แต่ต้องทำวันนี้ และทำเดี๋ยวนี้ ปัญหามันเยอะมากครับพี่ ในการทำธุรกิจ ผมแทบไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากอะไรดี แต่รู้ว่า สิ่งที่ผ่านมาได้ ก็เพราะตัวเราเองที่เป็นคนแก้ไขสิ่งเหล่านั้นให้มันดีขึ้น ผมมองว่ามันเหมือน สเต็ป ที่เราได้คิดขึ้น หรือทำอยู่ และเจ้าปัญหามันจะสอดแทรกเข้ามาตามสเต็ปแต่ละขั้นที่เราได้ทำ นั้นเพื่อเป็นบทพิสูจน์ ว่าเรา เก่งพอรึป่าว ที่จะผ่านไปได้ เพื่อทำสเต็ปต่อไปในขั้นอื่นๆ และ ถ้าเราผ่านมันไปได้เราก็จะ แข็งแกร่งขึ้น ครับ
ต่อสู้ชีวิตมาขนาดนี้ อะไรคือปัญหาที่น้องคิดว่าหนักที่สุด
วิกฤตหนักๆ เลย ผมยังไม่เคยเจอครับ หรือเจอแล้วอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ครับ จะว่าไปแล้วผมมองย้อนไปในเรื่องของการพัฒนาสินค้าหรือ R&D Product นั้นแหละครับ มันเป็นช่วงที่ผม เหนื่อย และท้อมากเลยครับ ผมจบทางด้านการตลาดมา แต่เป็นคนที่ชอบ ประดิษฐ์ คิดค้น ต่อยอด ต่างๆ ผลิตภัณฑ์ตัวที่สองที่เพิ่งออกสู้ตลาดล่าสุดเลย เป็น ข้าวตอกคั่วอบกรอบ ด้วยมีกรรมวิธีการผลิตแบบไร้ น้ำมัน ซึ่งผมไม่มีความรู้ทางด้าน Food tech
แต่ก็ต้องลอง ผมต้องลองทำแล้วไม่รู้สักกี่ครั้งผมต้องลองผิดลองถูกไม่รู้สักกี่หนผมต้องลองทำซ้ำแล้ว ซ้ำอีก
ทำของเสียแล้ว ก็ทิ้งแล้วทิ้งอีก ทิ้งจน เหลือวัตถุดิบที่รับซื้อมาล๊อตแรกใกล้หมด โอ้โฮ จะบอกว่าช่วงนั้น ผลิตเป็นอาทิตย์เลยครับ กว่าผมจะวิเคราะห์จนรู้ว่า อ้อ มันต้องมีหลักการ กระบวนการในการผลิต ถึงจะได้ผลลัพธ์ในแบบที่เราต้องการ มันเป็นเพียงจุดเล็กๆที่เรามองข้าม ซึ่งจริงๆแล้วในแต่ละครั้งที่ ผลิตแล้ว สินค้าที่เสีย จึงต้องทิ้งไป แต่ทว่ามันกับให้ บทเรียนแก่ผม ความผิดพลาดในแต่ละครั้งคือประสบการณ์ที่จะทำให้ครั้งต่อไปมันดีขึ้น และผมจะผ่านมันไปไม่ได้เลยถ้าผมล้มเลิก นั้นคือสิ่งเดียวที่ผมมี ผมไม่รู้จักคำว่ายอมแพ้ ยอมเลิก หรือยอมหยุด ครับ
สินค้าตอนนี้มีอะไรบ้าง และช่องทางจำหน่ายมีที่ไหนบ้างครับ
บริษัท ผมเริ่มต้นจาก การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่ง ใน ปัจจุบัน มีสินค้า อยู่ 2ตัว
สินค้าตัวที่ 1 ได้แก่ Tofu Milk (เต้าหู้นมสด) แบรนด์แสนสุข มีจำหน่ายที่
จังหวัดอุดรธานี คุณอ๊อฟ โทร 093-0454461
จังหวัดน่าน คุณแบงค์ โทร 099-2904150
สินค้าตัวที่ 2 ได้แก่ Pop rice (ซีเรียลไทย) แบรนด์คันทรี่ บอย เป็นสินค้าตัวใหม่ ที่เพิ่งออกสู่ตลาด และกำลังขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ไป ผ่านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งตอนนี้ มีที่
จังหวัดอุดรธานี คุณอ๊อฟ โทร 093-0454461
จังหวัดกรุงเทพ คุณชง โทร 061-8726428
จังหวัดกระบี่ คุณเบิ้ล โทร 086-4750856
จังหวัดน่าน คุณแบงค์ โทร 099-2904150 หรือถ้าใครสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ก็สามารถติดต่อมาเบอร์นี้ได้เลยครับ
อะไรคือปัจจัยที่น้องแบงค์คิดว่า นี่แหละ คือจุดที่พาให้เราสำเร็จมาถึงจุดนี้
ผมยังไม่ถึงกับทำสำเร็จหรอกครับ แต่อนาคตมันต้องทำได้แน่ผมคิดแบบนั้นครับ
ผมมองคนที่ประสบผลสำเร็จส่วนใหญ่
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ต้นทุนที่มีมากกว่า
แต่มันอยู่ที่หัวใจเรา ที่ไม่ยอมแพ้ มากกว่า
เขาก็คงจะไม่ใช่ผู้วิเศษอะไร เขาก็เป็นแค่คนธรรมดาอย่างเรานี้แหละครับ มี 1 สมอง 2 มือเหมือนกัน
พวกเขาทำได้ สำเร็จได้ แล้วทำไมล่ะ เราจะทำให้สำเร็จแบบเขาไม่ได้ ผมคิดเสมอครับว่า ผมสำเร็จได้ และผมต้องทำให้ได้แบบเขาเหล่านั้น ที่ประสบผลสำเร็จ ด้วยส่วนตัวแล้ว ผมมีความฝัน ผมที่มีเป้าหมาย ผมมีวิชั่น ผมมีอุดมการณ์ ผมมีความมุ่งมั่น ผมมีความอดทน ผมมีความพยายาม และที่สำคัญคือ ผมไม่เคยหยุดเดิน
เราต้อง Action Plan วางแผน และ ปฏิบัติ คิดและทำ เมื่อเรามี แผนการ เราควรวิเคราะห์ ด้วยว่าสิ่งที่เราทำมันดีที่สุดแล้วรึป่าว การทำอะไรให้สำเร็จ คือการเรียนรู้ให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ พัฒนาจากแย่ เริ่มเป็นโอเค พัฒนาจากโอเค เริ่มเป็นดี พัฒนาจากดี กลายเป็นดีมาก ดีมากกลายเป็นขั้นเทพ ขั้นเทพกลายเป็นขั้นเทพกว่า ขั้นเทพกว่ากลายเป็นขั้นเทพสุด ขั้นเทพสุดก็เป็นขั้นเทพสุดๆ และไม่มีที่สิ้นสุด เพราะว่า วันที่เราหยุดเรียนรู้ เป็นวันที่เราถอยหลัง ผมเป็นคนที่ไม่ชอบแข่งขันกับใคร แต่รู้แค่ว่า ตัวผมเองในวันนี้ ต้องเก่งกว่า ตัวผมเองในวันวาน และสิ่งที่สำคัญ คือ อย่ายอมแพ้ ต้องพยายามและอดทนเท่านั้น
อายุแค่นี้เวลาบริหารงานลูกน้อง พนักงาน เป็นอย่างไรบ้าง มีหลักการใช้คนอย่างไร
ผมคิดอยู่เสมอว่าผมจะต้องเป็นผู้บริหารที่ดี บริษัทผมจึงไม่มีคำว่าลูกจ้าง บริษัทผมไม่มีคำว่าลูกน้อง และบริษัทผมไม่มีคำว่าพนักงาน แต่พวกเราทุกคน คือทีม คือญาติ คือพี่น้อง คือครอบครัว ผมมีอุดมการณ์ ผมแนวคิด ผมมีเป้าหมาย และทีมผมทุกคน คือคนที่เดินรวมทางไปกับ ซึ่ง หน้าที่ผมคือต้องทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้น ผมพูดกับพวกเขาเสมอ ถ้าวันหนึ่งคุณเจอในสิ่งที่ใช่ และรักที่จะทำสิ่งนั้น ขอให้พวกคุณจงรีบไปทำ มันเพราะผมสนับสนุน พวกคุณเสมอ
แนวคิดพื้นฐานหรือ รากหญ้าทางธุรกิจในมุมมองน้องเป็นอย่างไร
ผมเริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์ เริ่มจากที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีแม้กระทั้งคนในครอบครัวก็ไม่สนับสนุน จนผมทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ มันสามารถเลี้ยงดูตัวผมเองได้ เลี้ยงดูครอบครัวได้ เลี้ยงดูทีมงานทุกคนได้ มีอาจารย์คนหนึ่งบอกกับผมว่า
เป็นอิสระบนยอดหญ้า ดีกว่าเป็นขี้ข้าในห้องแอร์
ผมจึงคิดเสมอว่า ต่อให้ต้องอดตายกับสิ่งที่เรารักที่ทำ ผมก็ยอม แต่ผมไม่เชื่อว่าสิ่งที่ผมรักที่จะทำ นั้นมันจะทำให้ผมอดตาย ถ้าสิ่งที่ผมฝันนั้นมันใหญ่มาก และเริ่มยากใหญ่เลยไม่ได้ ก็ต้องเริ่มจากจุดเล็กๆนี้แหละครับ เริ่มจากการเรียนรู้ เริ่มจากการตั้งคำถาม การตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบเป็นการลงทุนแรงและเวลาที่ เราจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน
อนาคตของธุรกิจน้องอยู่ที่ตรงไหนครับ จะทำอะไรต่อไป
ผมจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้ เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีตัวแทนอยู่ ให้มีทุกๆ จังหวัดทั่วประเทศ และผลักดันสินค้าเข้าสู่ Model trade ผมจะพัฒนาสินค้า /ธุรกิจของผม มุ่งสู่ตลาดโลก ผมจะเป็นส่วน 1 ในการสร้างให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ผมไม่ได้มองแค่ คน 60 ล้านกว่าคนในประเทศ
แต่ผมมองถึง7000 กว่าล้านคนทั่วโลก ลองคิดดูสิ ครับถ้า มีการส่งออกสินค้ามากขึ้น เงินไหลเวียนจะเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นเงินหมุนเวียนในประเทศไทยก็จะสูงขึ้นเศรษฐกิจไทยก็จะยกระดับขึ้น
สุดท้ายแล้วครับ ผมชื่นชมน้องแบงค์มาก ๆ สู้ชีวิตจริง ๆ อยากให้น้องฝากข้อคิดกับผู้ที่จะทำธุรกิจหน่อยครับ
ผมคิดว่า ทุกๆคนมีฝัน และอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ในด้านสายงานธุรกิจ มันก็เหมือนกับการที่มีเครื่องบิน เครื่อง 1 จอด อยู่ตรงหน้า เรา เรามีอยู่ 2 ทางเลือก เราจะเลือกแค่จ่องมองมัน และดูคนอื่นขับ หรือเราจะขึ้นเครื่องบินไปทดลองขับมันเอง ลองให้มันสุดๆ ลองให้มันรู้ว่าวิธีการขับเครื่องบินเป็นยังไง และถ้าเราบินได้ ลองดูสิครับว่า เราบินได้ไกลและสูงแค่ไหน ผมเชื่อว่าบนโลกนี้ไม่มีคนที่ยิ่งใหญ่มาก่อน ทุกคนเป็นแค่คนธรรมดาที่ฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และจะไม่ยอมหยุดจนกว่า จะได้สิ่งที่ฝันนั้น ผมฝากถึงคนที่คิดจะทำธุรกิจนะครับ เราต้องเป็นคนที่บ้า ทำอะไรก็ตาม เราต้องทำให้แรง ต้องให้สุด อย่าเพิ่งไปคิดถึงปัญหา และอย่าคิดถึงความกลัวสิ่งที่สำคัญคือเราต้องมีความเชื่อและศรัทธา ถ้าเราศรัทธาในสิ่งที่ทำ ทุกอย่างสำเร็จได้หมดครับ เพราะความสำเร็จในชีวิตมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่อยู่ที่ใจเราจะเลือก ว่าจะทำหรือไม่ เพราะชีวิตเป็นของเราครับ
Cr แบงค์คันทรี บอย
(เด็กบ้านนอกโครตจน สู่วัยรุ่นปั้นล้าน)
เราจะเปลี่ยนชีวิตติดลบ ให้กลายเป็นชีวิตติดล้านกัน
ช่องทางติดต่อธุรกิจ
บริษัทแสนสุข ออลเวส์ จำกัด เลขที่ 195 หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน 55000
Tel/Fax : 05-4793-800
Phone : 099-2904150 , 061-2782763
Email :[email protected]
www.facebook.com/sansookalways
IDLine :sansookalways , banksansook
เถ้าแก่ใหม่รีวิว
ใครที่บอกว่า “ไม่มีเงิน”
ใครที่บอกว่า “ยากจน”
ใครที่บอกว่า “ไม่มีเวลา”
ใครที่บอว่า “ไม่มีโอกาส”
108 1009 ข้ออ้างต่าง ๆ นานา ที่ผมสุดแสนจะบรรยาย วันนี้ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้ ข้ออ้างของคุณมัน เด็กๆ มาก อ่อนแอมาก ไร้เดียงสามาก กระจอกมาก
น้องแบงค์ เด็กหนุ่มที่ไม่ “ยอมจำนน” ต่อ “ความยากจน” คนที่ไม่ “ยอมแพ้” กับ โชคชะตา ทำงานตั้งแต่เด็ก ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเอง “โผล่พ้นจากหลุมดำ” ของความจน
วันนี้น้อง “เดินมาไกล” แต่นี่ก็ไม่ยังไม่ใช่คำตอบของเขา น้อง “ไปไกล” ได้กว่านี้อีกมากครับ
อายุเท่านี้ คิดได้ขนาดนี้ ทำได้ขนาดนี้
แล้วเราหละครับ !! อายุเท่าไหร่ ทำได้เท่าไหร่
เลิก…อ้าง
เลิก…อ่อนแอ
เลิก…ไร้เดียงสา
ได้เวลาลงมือทำกันแล้วครับ
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME