คุณแพะเป็นแฟนคลับ ที่ติดตามเพจ Taokaemai มาพอสมควร วันหนึ่งได้ทักมาพูดคุยกับผมใน Inbox ครับ

เรื่องราวของท่านรองสารวัตร…น่าสนใจมากครับ

ผมจึงอยากยกตัวอย่างการ “แบ่งเวลา” และ “สร้างอาชีพ” ของ คุณแพะ มาเป็นแบบอย่างให้กับ คนที่ยังรับราชการ หรือ ทำงานประจำอยู่ ซึ่งหลายต่อหลายคนมักจะบ่นว่าไม่มีเวลาบ้างหละ ไม่มีเงินทุนบ้างหละ

เรื่องราวของคุณแพะ…จะมาช่วยตอบ “ข้ออ้าง” ของทุกคนครับ

ทั้งหมดจัดแถว….เตรียมทำความเคารพท่านรองฯ (ผมล้อเล่นนะ อิอิ)

แนะนำตัวได้เลยครับ

สวัสดีครับ ผม ร.ต.อ.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ เรียกว่า แพะ ก็ได้ ผมรับราชการตำรวจ ตอนนี้อายุ 30 ปีครับ

ธุรกิจ “นอกเวลาราชการ” พี่คืออะไรครับ

อธิบายนิดครับปัจจุบัน รับราชการในตำแหน่ง รองสารวัตร ที่กองบังคับการปราบปราม ส่วนเวลานอกราชการผมทำธุรกิจ E-commerce  นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขายในเมืองไทย

เป็นตำรวจเป็นมาอย่างไร มาขายออนไลน์ครับ

เรื่องมันเกิดขี้นอย่างนี้ครับประมาณต้นเดือน มี.ค.57 หลังจากเสร็จจากการเรียนปริญญาโท ศุกร์-เสาร์ ก็ได้ไปเดินเที่ยวห้างเซ็นทรัลสกลนคร

ก่อนกลับบ้านพัก ก็ได้เดินเข้าไปร้านหนังสือ กำลังจะเดินออก เพราะจริงๆแล้วเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ดั้นไปเจอหนังสือเล่มนึง …..

มีชื่อตรงกับชื่อเล่นตนเอง “แพะ” จึงได้หยิบขึ้นมาอ่าน เปิดไปหน้ากลางๆ

เอ๊ะ อัลลัย  นำเข้าสินค้าจาก alibaba ,taobao มาขายได้กำไรหลักแสนบาทต่อเดือน …

เคยได้ยินแต่ รวยด้วยหุ้น รวยด้วยอสังหาริมทรัพย์ amazon , ebay หรืออื่นๆ บลาๆ โกหกป่าวเนี่ย (ขออนุญาติไม่ลงหน้าหนังสือ) จึงได้ซื้อกลับติดมือมาเล่มหนึ่ง จริงๆแล้วมันก็บางๆ ด้วยแหละ

ได้หนังสือมาแล้วนำเข้าได้เลยหรือครับ เริ่มยังไง

ผมลุยเลยครับ !!! ไม่มีอะไรต้องเสีย ลูกก็เล็กไม่กี่เดือน ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นทุกที

ลำพังเงินเดือนตำรวจผมประเมินดูแล้วผมต้องเหนื่อยแน่นอนหากไม่หาธุรกิจนอกเวลาทำพิ่ม

จากจุดที่ได้หนังสือวันนั้นเลย ที่อยากจะได้ธุรกิจสักอย่าง เพื่อดูแลครอบครัว

ส่วนเงินทุน ก็กู้ฉุกเฉินราชการตำรวจประมาณ 20,000 บาท เพื่อหาทดลองสินค้า หวังว่าจะเจอสินค้าทำเงิน

 

พี่เป็นเถ้าแก่ใหม่ใจถึงจริง ๆ ครับ เริ่มแล้วเป็นไงบ้าง ปัญหา อุปสรรค อย่างไร

โดนรับน้องเลยครับ ตำรวจไม่เคยทำธุรกิจ เรื่องความโร้งความรู้ก็ไม่มี รู้แบบงูๆปลาๆ แต่

สิ่งที่ให้สำเร็จได้คือ การเพียรพยามยาม และทำอย่างหนักทุกวัน

 

สินค้า 1 แบบแรกที่นำมาทำตลาดก็ไม่ work ครับ ไม่ถึงกับขาดทุน

แต่ก็ไม่ได้มีกำไร ทว่าสิ่งที่คุ้มค่ากว่าคือ “ความรู้ที่ผมมีเพิ่มขึ้น”

เอาใหม่ !!

คราวนี้ทำการบ้านมากขึ้น จาก products ที่เราไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

ไม่ได้ลงแรงลงเวลามากมาย แต่จากการที่เราเริ่มรู้เริ่มศึกษาเป็นอย่างมาก

ทำให้รู้จักเลือกสินค้าและทำการตลาด อย่างชาญฉลาด(นิดหน่อย)

จึงเริ่มนำสินค้า ตัวที่ 2 นี้มาขายจริงๆ ในเดือนกันยายน 2557 และขายหมดภายใน 1 เดือน แต่ของก็พังเสียหายเกือบครึ่ง สินค้าก็หมด (เพราะเอาเข้ามาน้อย 555)

จึงเริ่มสั่งสินค้าล็อตใหม่ มากกว่าเดิม 2 เท่า(มีกำไรแล้วนิ) แต่……การขายของนี่มันไม่ง่ายเลย (ทั้งๆที่จริงมันง่ายแสนง่าย) อุปสรรคต้องมีตลอด สินค้าของผม ติดอยู่ท่าเรือ ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2557 – ก.พ. 2558 รวม แล้ว 3 เดือนกว่า จนเงินที่เก็บมาหลายแสนบาท นำมาใช้จนหมดเกลี้ยงพร้อมหนี้สิน ….แต่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แต่รอๆๆ

จนเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 58 สินค้าเข้ามาทั้งหมด ทั้งทางรถและทางเรือ

เชื่อไหมว่า “ผมเกือบร้องไห้” เพราะผมใช้ทุกสิ่งทุกอย่างของผมลงไปกับมัน

>>ทั้งเงิน ทั้งเวลา ทั้งครอบครัว งานก็เยอะ<<

ผมต้องจัดสรรเวลามาทำธุรกิจของผมตอนกลางคืน ..จนตาบวม..

หลังจากนั้น ผมทำการตลาดทุกช่องทางที่ได้ศึกษามา

ผมใช้เวลาเพียง 1 เดือน อีกแล้ว ขายของเกือบหมด มียอดเงินในบัญชี(ภรรยา)ไม่ต่ำกว่า xxx,xxx บาท แน่นอนมันยังไม่ถึงคำว่า “ประสบความสำเร็จ”

จากนี้ไปมันก็คือ …..จุดเริ่มต้นจริงๆแล้ว…..  “ธุรกิจของเป็ดน้อย” มาดูกันว่าเป็ดน้อยตัวนี้มันจะกลายเป็น >>หงส์<< ได้มั้ย

สุดยอดครับ !! แล้วยังไงต่อครับ มีสินค้าเพิ่มเลยไหม

ผ่านไปประมาณ 1 เดือน  มาคราวนี้ผมรู้มากขึ้นแล้ว ..พวกคุณรู้สึกไหมว่าผมใช้เวลาไม่นาน จนผมเริ่มขายของจนได้ (บอกแล้วไง ผมถึก..ทำทุกวัน)

วันนี้ผมเริ่มรู้มากขึ้น เดินอย่างมีสเตป และแล้วผมก็ไปเจอสินค้าตัวนึงในเว็ป alibaba เจ้าเก่า (ตอนนี้มุ่งกลับมาทางนี้แล้ว เพราะมันคือของจริง) สินค้าตัวนี้คือ nich product ในช่วงเมษาหน้าร้อน ฮั่นแน่…รู้มากละ ใช้ google keyword planner วิเคราะห์สินค้าของผม จดโดเมน สร้างเว็ปทิ้งไว้ และเริ่มต้น search หาโรงงาน ติดต่อเมลล์คุยกับโรงงาน เลือกโรงงาน เลือกสินค้า  ติดต่อชิปปิ้ง จ่ายเงิน เอามาเทสว่าดีหรือไม่ดี

แบ่งเวลางานราชการกับงานส่วนตัวอย่างไรครับ 

 

ผมเดินทางจากบ้านที่ จ.ปทุมธานี มาทำงาน ที่กองบังคับการปราบปราม ในทุกๆวัน

ตั้งแต่ 09.00 น.- 18.00 น. ทำงานอย่างหนักเนื่องจาก เป็นตำรวจกองปราบ

มีงานที่ต้องทำตลอดทุกๆวัน

จะแบ่งเวลาการทำงานในช่วง เวลาก่อนนอน 20.00-22.00 น. ประมาณ 2 ชม.

เนื่องจากเป็นธุรกิจ ออนไลน์ จึงสามารถทำ  checklist ก่อนที่เราจะเริ่มทำงานเกี่ยวกับธุรกิจได้ ผมจะมีสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆ จดไว้ หรือหากนึกอะไรออกก็จะจดในโน๊ตของไอแพด ว่า คืนนี้ ในเวลา 2 ชม.จะทำอะไร

พอเปิดโน๊ตบุ๊กปุ้ป สามารถทำตาม checklist ได้ทันที ส่วนการแพคของ หรือการทำใบเสร็จรับเงิน ก็ใช้เวลา 2 ชม.นี้แหละที่บริหารจัดการ ส่วนการขนส่ง การทำโฆษณา การบำรุงรักษา การคิด content หรืออื่นๆ ที่หนักเกินไป จะ outsource เกือบทั้งหมด ที่เก็บไว้ทำเอง คือ การคิด ไอเดีย กับการตอบลูกค้า

สาเหตุต้องใช้วิธีนี้เนื่องจาก เป็นข้าราชการ ต้องทำงานประจำ เราจึงเลือกธุรกิจ ที่เราพอจะทำได้ โดยไม่เบียดเบียนเวลาทำงาน โดยการ outsource ถึงแม้จะได้กำไรน้อย แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้ทำ

คราวนี้หาลูกค้าและเข้าถึงอย่างไร

สินค้าของผมคือเครื่องทำน้ำแข็งขนาดเล็ก สำหรับร้านอาหาร ร้านกาแฟ สำนักงาน ออฟฟิศ และใช้ในบ้าน ซึ่งใช้ง่าย “ไม่ต้องติดตั้ง ไม่ต้องเรียกช่าง” คือหัวใจหลักของเรา ใช้ช่องทางออนไลน์เกือบทุกช่องทางครับ ผมทำเยอะมาก

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คุณแพะ ทำธุรกิจมาถึงวันนี้ครับ

ผมใช้หลัก “ทำ” 3 ข้อ ครับ

1.ทำหนัก

2.ทำทุกวัน

3.ทำจริงๆ

เพราะเราเชื่อว่าต้นทุนทางด้านการเงินเรามีน้อยต้องทำงานให้หนัก(Marketing) แม้กระทั่ง ต้นทุน ที่ใช้ก็น้อยมาก เริ่มต้น ไม่เกิน 30,000 บาท

“ถึงผมจะเป็นตำรวจ ก็ไม่เคยทำให้เสียเงินภาษีของประชาชน และผมก็หาเวลามาทำธุรกิจ (ที่เหมาะสม) เพื่อดูแลครอบครัวและคนที่รัก

สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงแม้นผมจะทำธุรกิจมั่วๆ แบบเป็ด ผิดบ้าง อะไรบ้าง ก็ขอโปรดจงให้อภัยผม และเพิ่งรู้ว่า Ecommerce ที่จริงแล้วมันง่ายกว่าที่คุณคิด”

บริหารงานธุรกิจ ลูกน้อง อย่างไรครับ

ธุรกิจของผมเป็นออนไลน์ เพราะฉะนั้น การขนส่ง การบริการ การบำรุงรักษา การบัญชี จะเป็นการจ้าง Outsource เกือบทั้งหมด ยกเว้นรับโทรศัพท์ลูกค้า กับการตอบปัญหาทางไลน์ให้ลูกค้า ผมกับภรรยาทำเอง

แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้  เราทั้ง 2 คน ทั้งแบก ทั้งยก ไปส่งลูกค้าทั้งหมด เพื่อเรียนรู้ให้มากที่สุด

แนวทางการทำธุรกิจแบบ “รากหญ้า Marketing” ในความเห็นคุณแพะเป็นอย่างไร

ธุรกิจ ต้องมีจุดเริ่มต้น และจุดเริ่มต้นของผมนั้น มาจากการที่เราทำเองทั้งหมด การทำ Marketing การขนส่ง การตอบคำถามลูกค้า ทำเองทั้งหมด ทำให้เรารู้ว่า สินค้าของเรามีข้อดีข้อเสียอย่างไร จึงสามารถ สั่งผลิต สินค้าและสร้างแบรนด์จดลิขสิทธิ์ SNG ICE MAKER จนได้

 แผนการตลาดในอนาคตวางไว้อย่างไรครับ

แผนการตลาดในอนาคตคือ การสร้างตัวแทนจำหน่าย ตามสาขาในต่างจังหวัด และการนำเครื่องทำน้ำแข็งขนาดเล็กของเราในบางรุ่น ขึ้นห้าง และส่งออกในอาเซียนตามลำดับ

ฝากข้อคิดเธอเพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่หน่อยครับ

ขอให้ทำจริง ไม่มโน ไม่คุย และจะรู้ว่า ในทุกๆวันที่เราทำ เราจะเก่งขึ้นทุกวัน

 14.ช่องทางติดต่อธุรกิจ

Anser: http://www.thaihomeicemaker.com/

https://www.facebook.com/sngicemaker/

line : sinnongroup

pantip : http://pantip.com/topic/33464308

เถ้าแก่ใหม่วิเคราะห์ธุรกิจ

เครื่องทำน้ำแข็งเอง ? บอได้เลยนี่มันเป็นตลาดที่ Nich มากๆ ครับ แม้จะเป็นตลาดที่จำเพาะแต่ตลาดไม่ได้ “นิด” เหมือนชื่อนะครับ ตลาดใหญ่มาก

ร้านค้า ร้านของชำ ร้านกาแฟ ร้านอาหารฯ โอ้ นี่ลูกค้าทั้งนั้น

โรงงานน้ำแข็งมีหนาวกันบ้างหละครับงานนี้

ผมชื่นชมคุณแพะด้วยใจจริงครับ เป็นตัวอย่างที่ดีในการแบ่งเวลา และที่น่าปลื้มใจไปกว่านั้นคือ “แบ่งปัน” ความรู้ ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ และ คนที่กำลังมองหาธุรกิจทำแต่ยังทำงานประจำอยู่

เส้นทางแม้ไม่ได้….สบายกาย

แต่เท่าที่ผมสัมผัสได้ นี่เป็นเส้นทางที่คุณแพะ…สบายใจ

แม้จะอดตาหลับ ขับตานอน เพื่อทำธุรกิจ

ก็ยอมที่จะเหนื่อย ยอมที่จะแลก

ขอบคุณตัวอย่างตำรวจไทยดี ๆ อีกคนครับ

เถ้าแก่ใหม่ร่วมเชียร์ตำรวจไทย เป็นแบบอย่างที่ดี สร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับสังคมไทย “ตำรวจไทย หัวใจเถ้าแก่ใหม่”