“ปูไข่ดอง” กระดองปูที่อัดแน่นไปด้วยไข่ ราดด้วยน้ำจิ้มสุดแซ่บ กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในโลกโซเชียล ไม่ว่าใครที่ได้เห็น ต่างก็อยากลิ้มลองรสชาติดูสักครั้ง และดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงเห็นบรรดาแบรนด์น้อยใหญ่เกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “บ้านครูปูไข่ดอง” ที่ว่ากันว่ารสชาติไม่เป็นสองรองใคร กว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง มีที่มาที่ไปอย่างไร และที่สำคัญคือ ขายยังไงถึงได้รวย!

จุดเริ่มต้นธุรกิจบ้านครูปูไข่ดอง

หลายคนอาจจะคุ้นหน้าหรือเคยได้ยินผลงานเพลงของ ป๋อม-เจนนรงค์ นราศรี นักร้องนำวงคาราเมล ที่ตอนนี้ได้ผันตัวมาทำธุรกิจปูไข่ดอง เรียกได้ว่าขายดิบขายดี จุดเริ่มต้นมาจากความชื่นชอบในการทานอาหาร พอมีเวลาว่างก็จะตระเวนชิมตามร้านอาหารขึ้นชื่อต่างๆ จนเกิดเป็นไอเดียที่อยากลองทำธุรกิจเป็นของตัวเองขึ้นมา แต่ในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร เลยเสิร์ชหาจากYouTube จนไปเจอกับคลิปการทำปูไข่ดองจึงเกิดความสนใจ ลองทำตามขั้นตอนของเจ้าต่างๆในคลิป พอได้ลองชิมแล้วไม่อร่อยตามที่จินตนาการไว้ รสชาติไม่ถูกใจ เลยตัดสินใจอยากจะทำปูไข่ดองให้มีรสชาติอร่อย ถือเป็นการท้าทายตัวเองไปในตัว แต่กว่าที่จะได้รสชาติถูกใจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ต้องผ่านการลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง หมดเงินไปเป็นหมื่น จนในที่สุดก็ได้รสชาติที่ลงตัวในแบบฉบับของตนเอง

ในช่วงแรกที่ยังไม่ได้เริ่มต้นขาย มีแค่การโพสต์รูปลงบน Facebook จนมีคนให้ความสนใจเข้ามาติดต่อสั่งซื้อ ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมาก เลยเริ่มทดลองตลาดจากคนใกล้ตัวผ่านการโพสต์ขายในเฟสบุ๊คส่วนตัว ก่อนที่จะเริ่มเปิดเพจอย่างจริงจังนั่นก็คือ “บ้านครูปูไข่ดอง” ปูไข่ดองสูตรน้ำปลา 3 รส ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพริกเกลือ ของดีจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ยังมีกุ้งแช่น้ำปลา หมึกโชยุน้ำมันงาแดดเดียวอีกด้วย จุดเด่นของบ้านปูไข่ดองอยู่ที่ความสด สะอาด ปูไข่จากธรรมชาติที่คัดเฉพาะ ไข่ล้น เนื้อแน่น สูตรเด็ดเคล็ดลับคือการดองที่ใช้น้ำปลาอย่างดีเคี่ยวจนหอมกลมกล่อม จนเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคนั่นเอง

ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจ

ประสบปัญหาความไม่แน่นอนของวัตถุดิบ เนื่องจากวัตถุดิบหลักซึ่งก็คือปู มีตามฤดูกาล ทำให้ในบางช่วงสินค้ามีไม่พอกจำหน่าย แน่นอนว่าส่งผลถึงต่อยอดขาย  ในช่วงที่ปูมีน้อย จึงใช้วิธีหาสินค้าเพิ่มเพื่อทดแทนสินค้าหลัก เน้นเพิ่มเมนูอื่นเป็นทางเลือกเสริมให้ลูกค้า ทางแบรนด์เองก็ไม่ต้องเสียโอกาสในการขายเช่นกัน แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่ในเรื่องของราคาถือว่าสูสีกับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งเจ้าของแบรนด์มองว่าไม่ควรตั้งราคาต่ำเกินไป เพราะผู้บริโภคอาจเข้าใจว่าเป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ แต่ทั้งนี้ราคาต้องสมเหตุสมผล ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของปริมาณและเกรดวัตถุดิบที่ใช้

ข้อคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

1.รักในสิ่งที่ทำ

การเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ควรเริ่มจากสิ่งที่ชอบหรือความถนัด เพราะจะทำด้วยใจรัก รู้สึกสนุก ไม่รู้สึกว่าฝืน ถ้าได้ทำในสิ่งที่ชอบแล้ว เราจะไม่มีข้อแม้ที่จะไม่ทำมันเลย แม้เจอปั

2.หมั่นเรียนรู้อยู่เสมอ

กว่าจะผลิตสินค้าได้ตรงตามที่ต้องการ ระหว่างทางต้องเจออุปสรรคที่อาจทำให้ถอดใจได้ เจอปัญหาที่ต้องคอยแก้ไข การเรียนรู้จากอุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นจะช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นตัวสินค้า หรือการคิดหากลยุทธ์ทางธุรกิจ

3.ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร ขอแค่ตั้งใจทำเต็มที่ก็พอ

คู่แข่งเยอะ เจอแบรนด์ใหญ่ จะเรียกว่าเป็นอุปสรรคเสมอไปก็ไม่เชิง หากมองอีกมุมเหมือนเป็นความท้าทายมากกว่า จากมุมมองเจ้าของแบรนด์บ้านครูปูไข่ดอง ถ้าแบรนด์ใหญ่ขายได้ 100% ขอส่วนแบ่งการตลาดแค่ 10% เท่านี้ก็พอใจแล้ว

ในการทำธุรกิจที่ช่วงเริ่มต้นนั้นดูเหมือนง่าย แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด นอกจากที่จะต้องหาวิธีรับมือสำหรับการแข่งขันในตลาดแล้ว แน่นอนว่าปัญหามีมาให้แก้ไขอยู่เสมอ แต่หากเรารู้จักเรียนรู้ ก็จะเกิดกระบวนการคิดพลิกแพลงหาแนวทางแก้ไขต่างๆนานา บางครั้งการที่ไม่ลงมือทำอะไรเลย ก็จะทำให้เราไม่เจออุปสรรค ไม่เจอหนทางแก้ปัญหา นั่นหมายความว่าโอกาสในการทำธุรกิจอาจไม่ประสบความสำเร็จก็เป็นได้