Daisy Clinic อาจเป็นเพียงคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง แต่เบื้องหลังคือความใส่ใจ ความจริงใจ ของคุณหมอหนุ่มคนหนึ่งที่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าควรจะได้รับอย่างแท้จริง และนี่คือสูตรแห่งความสำเร็จของ “หมอเมี่ยง” ที่ทำให้ Daisy Clinic เติบโต และได้รับการแนะนำแบบปากต่อปากจวบจนถึงทุกวันนี้  

คงจะพูดได้ว่าไม่มีใครที่ไม่อยากดูดี เพราะหน้าตาและบุคลิกภาพคือใบเบิกทางใบแรกในการติดต่อพบปะผู้คน ใครที่มีหน้าตาและบุคลิกที่ดีย่อมนำมาซึ่งความมั่นใจ หลายคนจึงพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การแต่งตัว แต่มีหลาย ๆ สิ่งที่แม้เราจะดูแลอย่างดีเพียงใดก็ตาม บางอย่างก็ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลตัวเองเท่านั้น วิทยาการทางการแพทย์บางแขนงจึงได้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเข้ามาช่วยดูแลปัญหาเกี่ยวกับหน้าตา ผิวพรรณและบุคลิกภาพ การเสริมความงามก็เป็นศาสตร์ในแขนงหนึ่งทางการแพทย์ที่ว่านั้น ในปัจจุบันเราพบเห็นคลินิกเสริมความงามเกิดขึ้นมามากมาย ทั้งในตัวกรุงเทพมหานครเอง ตามปริมณฑลหรือหัวเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งคลินิกเหล่านี้เกิดขึ้นก็เพื่อช่วยตอบโจทย์การดูแลความงามให้แก่ลูกค้า อันจะนำมาซึ่งความมั่นใจของลูกค้าในเรื่องหน้าตาและบุคลิกภาพของตนเอง

ในครั้งนี้เถ้าแก่ใหม่จะพาเพื่อนๆ มาพบปะพูดคุยกับพบกับ หมอความงาม Gen Y นายแพทย์ดุลยทรรศน์ อนันตะยา  เจ้าของคลินิกเสริมความงามย่านบางปะกง ซึ่งเป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านความงาม คลินิกที่กำลังพูดถึงมีชื่อว่า “Daisy Clinic”

ที่มาของคุณหมอด้านความงาม

“นายแพทย์ดุลยทรรศน์ อนันตะยา” หรือหมอเมี่ยง คือเจ้าของผู้ก่อตั้ง Daisy Clinic โดยคุณหมอเองจบหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พกพาดีกรีความเก่งด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ภายหลังจากเรียนจบแล้วมาเป็นคุณหมอเต็มตัว หมอเมี่ยงก็มีประสบการณ์โดยตรงในการทำงานด้านความงามมาหลายปีตั้งแต่ที่ยังไม่มีคลินิกเป็นของตนเอง และล่าสุดได้ไปอบรมด้านความงามจาก Aesthetic Dermatology Academy Conference

จากอายุรศาสตร์สู่คุณหมอด้านความงาม

แต่เดิมนั้นคุณหมอเมี่ยงตั้งใจที่จะศึกษาต่อในสาขาอายุรศาสตร์ ตอนจบมาในครั้งแรกนั้นคุณหมอเป็นแพทย์ทั่ว ๆ ไป จึงมีโอกาสได้ลองทำงานในคลินิกหลายที่และโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ยิ่งไปกว่านั้นได้มีโอกาสทำงานในทั้งฟิลด์ของแพทย์ทั่วไปและแพทย์ทางด้านความงามไปพร้อม ๆ กัน

ในฟิลด์ด้านความงามนั้น แรกเริ่มหมอเมี่ยงไม่มีความรู้ในด้านนี้เลย พอได้เข้ามาทำจึงได้มีโอกาสไปอบรมความรู้เพิ่มเติม ได้ฝึกฝนวิธีการทำ และเรียนรู้วิชาการต่าง ๆ เพิ่มเติม เพราะว่าตนเองสามารถทำได้ และเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ

 ฝึกปรือสั่งสมฝีมือจนได้ที่ ถึงเวลามีคลินิกของตนเอง

หลังจากอยู่ในวงการความงามได้ประมาณ 2-3 ปี หมอเมี่ยงเริ่มหันกลับมาคิดเปิดคลินิกของตนเอง ประกอบกับตัวหมอเมี่ยงเองเป็นคนในย่านบางปะกง และในละแวกบ้านไม่เคยมีคลินิกความงามเกิดขึ้นเลย ใครที่อยากจะเสริมความงามก็ต้องไปหาหมอในกรุงเทพ ที่แย่หน่อยก็คือไปหาหมอกระเป๋าซึ่งอาจไม่ได้เจอหมอจริง ๆ หรือไม่ก็ไปทำกันเอง จึงเป็นที่มาของการกลับมาเปิดคลินิกที่บ้านในชื่อ “Daisy Clinic”

Daisy Clinic การันตีด้วยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านความงามได้รับการรับรองจากสถาบันฝึกอบรมด้านความงาม

ปัญหาอย่างหนึ่งของการอยากเสริมความงามคือ การไปใช้บริการกับหมอกระเป๋า ซึ่งผู้ที่ใช้บริการอาจโชคร้ายไม่ได้เจอกับหมอผู้ที่มีใบประกอบโรคศิลป์ คนเหล่านั้นอาจเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ในคลินิกหรือผู้ช่วยพยาบาลที่พอจะมีความรู้ แต่ไม่ได้รู้หลักการอย่างจริงจัง มีแค่เพียงความมั่นใจเพียงอย่างเดียว และโชคร้ายอาจหนักหนาสาหัสหากสิ่งที่เขานำมาใช้เป็นยาปลอม

แต่ที่ Daisy Clinic ผู้ที่มาใช้บริการสามารถวางใจได้ว่าคนที่มาพบเป็นแพทย์จริง ๆ ที่มีแพทยสภารับรอง และตัวยาที่นำมาใช้ก็ผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศไทย นี่คือสิ่งที่การันตีในคุณภาพและความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน

Daisy Clinic  บริการความงามครบวงจรและต้องเกาให้ถูกที่คัน

บริการความงามของ Daisy Clinic เป็นบริการครบวงจรตั้งแต่เรื่องผิวหน้า รักษาสิว ฝ้า กระ ปรับรูปหน้า ยกกระชับใบหน้า รวมถึงร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ และบริการอื่นเช่น เลเซอร์กำจัดขนถาวร

แนวคิดในการเสริมความงาม คุณหมอเมี่ยงไม่ได้มองว่าความสวยงามเป็นโรค แต่เป็นความกังวลและความมั่นใจมากกว่า ซึ่งหมอเมี่ยงจะช่วยดูแลในจุดที่คนไข้มีความกังวลและคิดว่าเป็นปัญหาสำหรับคนไข้จริง ๆ เท่านั้น หมอเมี่ยงจะไม่ทำในสิ่งที่คนไข้ไม่ต้องการเลย เพราะนั่นจะส่งผลให้คนไข้ไม่มีความสุข ฉะนั้นทุกครั้งก่อนจะลงมือทำ หมอเมี่ยงจะสอบถามคนไข้ก่อนเสมอว่าเขากังวลในเรื่องอะไรและอยากให้ช่วยในเรื่องใด ถ้าคนไข้ไม่มีความกังวลหรือแค่อยากขอคำแนะนำ หมอเมี่ยงก็จะแนะนำในเรื่องพื้นฐานที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ต้องการเท่านั้น เช่น เรื่องริ้วรอย เป็นต้น

หมอเมี่ยงแนะนำ  หลักในการเลือกคลินิกเพื่อเสริมความงาม

หลักการเบื้องต้นในการเลือกคลินิกเพื่อใช้บริการในการเสริมความงาม คุณหมอเมี่ยงได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้

  1. คลินิกต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่คลินิกนั้น ๆ ตั้งอยู่

หรือได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าตัวคลินิกมีการตรวจรับรองมาตรฐานไปแล้วในบางเรื่อง เช่น สถานที่ การระบายอากาศ ความสะอาดและยาต่าง ๆ อย่างที่ Daisy Clinic มีเอกสารสำคัญรับรองการเปิดคลินิกติดอยู่ที่หน้าร้านเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ

  1. แพทย์จริงไม่ใช่หมอเก๊

เพราะปัจจุบันคลินิกความงามมีมากมาย การหาหมอที่เก่งในด้านความงามอาจต้องใช้เวลา อาจต้องดูที่ตัวแพทย์ เพราะคลินิกดังที่มีสาขามาก ๆ จะมีการจ้างหมอไปทำ อาจไม่เจอหมอที่ตรงสาขามาทำให้ แต่หากคลินิกแห่งใดที่มีหมอที่เป็นเจ้าของมาทำเองก็มีความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะหมอก็ไม่อยากเสียชื่อหรือเสี่ยงกับใบประกอบโรคศิลป์ของตนเอง จึงต้องใช้เวลาหาสักหน่อยหรืออาจจะมาจากคำแนะนำของคนรอบข้างก็ได้

สารพันความเชื่อในอินเทอร์เน็ต : อยากทราบความจริงต้องถามคุณหมอ

อีกปัญหาสำคัญของบ้านเราคือสารพันความเชื่อในอินเทอร์เน็ต หากไม่มั่นใจว่าข้อมูลที่ตนได้รับถูกต้องหรือไม่ ก็ควรนำเอาสิ่งที่อ่านเจอไปสอบถามคุณหมอที่อยู่ใกล้บ้าน อย่างที่ Daisy Clinic คนไข้สามารถเดินเข้ามาถามหรือปรึกษาคุณหมอได้เลย ซึ่งหมอเมี่ยงพร้อมจะให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

Key Success สู่ความสำเร็จของ Daisy Clinic

หลักการสู่ความสำเร็จของคุณหมอเมี่ยง คุณหมอได้ให้แง่คิดที่น่าสนใจเอาไว้ โดยหมอเมี่ยงมองว่า ไม่ว่าธุรกิจใดก็ตาม การดำเนินการของธุรกิจต้องอาศัยหลักการเดียวกันคือ

  1. Product ต้องดี ซึ่งสำหรับธุรกิจความงามก็คือตัวยา ที่คลินิกคุณหมอจะใช้ยาเฉพาะที่ผ่าน อย. ในประเทศไทยแล้วเท่านั้น แม้การลงทุนอาจจะสูงแต่ในระยะยาวจะสามารถซื้อใจลูกค้าได้ อย่าคิดว่าลูกค้าจะไม่รู้ว่ายาที่ใช้เป็นของแท้หรือของปลอม หรือหมกเม็ดอะไรไว้หรือไม่ ถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้าแล้วลูกค้าอาจจะกลับมาเพียง 1-2 ครั้งแล้วก็ไม่มาอีกเลย
  2. ต้องมีความจริงใจกับลูกค้า คุณหมอเชื่อว่าไม่เฉพาะแต่ธุรกิจความงามเท่านั้น ถ้าเรามีความจริงใจต่อลูกค้าในทุกธุรกิจ และคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสำคัญ แล้วสิ่งอื่น ๆ จะตามมาเอง

เคล็ดลับธุรกิจเงินล้านในสไตล์ Daisy Clinic

“ทำในสิ่งที่เราชอบ” แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ และขอให้ “มีความสุขกับสิ่งที่ทำ” แล้วเราจะทำมันออกมาได้ดี

นี่อาจเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม เรามักจะได้ยินได้ฟังกันเสมอว่า “จงทำในสิ่งที่เรารักเราชอบ แล้วเราจะทำมันอย่างมีความสุข” ผู้ที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจก็ล้วนแล้วแต่ทำในสิ่งที่ตนชอบทั้งสิ้น ไม่มีใครสามารถทนทำในสิ่งที่ไม่รักได้นานหรอก แม้ว่ามันจะได้ผลตอบแทนสูงก็ตาม การอดทนทำในสิ่งที่ไม่ใช่อย่างไร้ความสุข สุดท้ายมันคือบ่อสะสมความเครียด และท้ายที่สุดแล้วเงินทองมากมายที่คุณได้รับ มันก็จะถูกจ่ายคืนไปกับการรักษาสุขภาพที่ย่ำแย่ของคุณ

แม้เราจะได้ทำในสิ่งที่ชอบ แต่มันก็ควรจะอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง สมัยนี้ไม่มีแล้วกับการทำในสิ่งที่รักแล้วต้องควักเนื้อทุกเดือน สายป่านของคุณจะยาวได้สักเพียงใด หากชั่งน้ำหนักและมองดูโอกาสแล้วพบแต่ความมืดมน ก็ควรนำสิ่งนั้นพับเก็บลงในลิ้นชักเสียก่อน เพราะมันอาจยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมของคุณ แล้วกลับไปทำในสิ่งที่ตั้งอยู่บนความเป็นจริงเสียก่อน จากนั้นจึงกลับไปศึกษาสิ่งที่คุณอยากทำให้ดีอีกครั้ง โอกาสครั้งถัดไปอาจเป็นของคุณจริง ๆ

Daisy Clinic อาจเป็นเพียงคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง แต่เบื้องหลังคือความใส่ใจ ความจริงใจ ของคุณหมอหนุ่มคนหนึ่งที่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าควรจะได้รับอย่างแท้จริง และนี่คือสูตรแห่งความสำเร็จของ “หมอเมี่ยง” ที่ทำให้ Daisy Clinic เติบโต และได้รับการแนะนำแบบปากต่อปากจวบจนถึงทุกวันนี้