//เถ้าแก่ใหม่ :แนะนำตัวกันหน่อยครับ

//คุณบอน : ผมเกิดและโตที่จังหวัดสมุทรปราการ ครอบครัวมีฐานะปานกลางถึงล่าง ผมชอบทำงานมาตั้งแต่ตอนเด็กๆครับ ตอนอยู่ประถม ผมไปช่วยญาติเสริฟอาหาร ล้างจาน เดินขายคุ้กกี้ตามบ้าน นั่งรถเมล์ไปซื้อขนมจากคลองเตย แล้วเอามาแบ่งขายเพื่อนๆ พอเริ่มโตหน่อย ก็ไปทำงานพิเศษช่วยขายของที่ห้างครับ

 

ตอนมัธยมปลาย ผมรู้ตัวแน่ชัดแล้วว่า ผมเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง และไม่ค่อยชอบระบบการศึกษาที่เป็นอยู่จึงโดดเรียนอยู่ที่บ้าน ผลการเรียนไม่ต้องบรรยาย เกรด 1.6 ในเทอมสุดท้าย น่าจะบอกได้ครับ สอบเอนท์ไม่ติด (ถ้าติดก็แปลกละครับ) ตอนนั้นผมสับสนกับชีวิตมาก ไม่รู้จะเรียนอะไรที่ไหน ไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่ผมพอมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ทางบ้านเลยกู้เงินมาส่งให้ผมเรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
หลังจากเรียนจบ ป.ตรี ผมได้งานทำที่โรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ญี่ปุ่นแห่งหนึ่งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ ที่ต้องเขียนโปรแกรม ซ่อมคอมพิวเตอร์ และวางระบบเน็ตเวิร์ค ได้เงินเดือน 8,000 บาท ทำได้ไม่กี่เดือน ผมรู้สึกว่างานนี้ไม่ตอบโจทย์ชีวิต ปริมาณงานมากไม่ใช้ปัญหา แต่ขาดความท้าทายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผมผมจึงตัดสินใจลาออก

**ลาออกครั้งแรกกับงานประจำ ผมเกรียนมาก คิดว่ามีความรู้ด้านระบบอินเตอร์เน็ตและการเขียนโปรแกรม ก็น่าจะทำธุรกิจได้ผมจึงทำธุรกิจให้บริการโฮสติ้งและเว็บไซต์ แต่ด้วยความที่มีเงินทุนน้อยมาก แถมยังขาดความรู้และทักษะการจัดการอีกต่างหาก ผมจึงทดแทนด้วยความเป็นวัยรุ่นบ้าพลัง ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยันเที่ยงคืนทุกวัน กินข้าววันละมื้อเฉพาะตอนเที่ยง เป็นข้าวเหนียวและหมูน้ำตก มื้อละ 25 บาท เพื่อประหยัดเงินและให้อยู่ได้ทั้งวัน ผมใช้ความพยายามและอดทนทำธุรกิจนี้ เป็นเวลาหลายเดือน แต่ยิ่งทำ เงินยิ่งหมด ทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง เหมือนเลือดไหลไม่หยุด
ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออก มองไม่เห็นหนทางเลย

***นั่งทบทวนตัวเอง ร้องไห้เกือบทุกคืน ***

ในที่สุดจึงตัดสินใจเลิกล้มธุรกิจนี้ไปเอง ขาดทุนไปมาก

***เหลือเงินติดตัวอยู่ประมาณ 500 บาท ***

ผมต้องรีบหางานทำ โชคดีมากที่ใช้เวลาไม่ถึงเดือน มีบริษัทด้านการเงินติดต่อมาให้ไปสัมภาษณ์งาน และได้ทำงานตำแหน่งโปรแกรมเมอร์

พอกลับมาทำงานประจำ ทิศทางชีวิตของผมก็เหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ทำงานหนักเพื่อความก้าวหน้า หาทางเรียนต่อ ป.โท เพื่อเพิ่มความรู้และใบปริญญา หวังใช้อัพเงินเดือน

ตอนนั้นผมได้รู้จักพี่ท่านหนึ่ง ถือว่าเป็น Role model คนแรกของผม พี่เค้าจบ ป.โท สาขาสารสนเทศเพื่อการจัดการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เค้าจ้ำจี้จำไช ให้ผมไปสอบ แต่ผมไม่กล้า เพราะไม่มั่นใจและไม่มีเงินด้วย ด้วยความที่ฟังพี่แกพูดบ่อยๆ ผมจึงลองไปสอบดู อัศจรรย์มากๆครับ ผมได้เรียนโทที่จุฬา เหลือเชื่อจริงๆกับคนอย่างผม ตอนนั้น คิดอย่างเดียว คือ ต้องหาเงินเรียนครับ

ระหว่างที่เรียนโทใกล้จบ ผมได้โอกาสย้ายไปทำงานในกลุ่มของบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่วนงานพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทาย และช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับตัวผมมากครับ งานที่ผมทำ เป็นโครงการใหม่ๆที่ผมต้องมีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เช่น ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ติดต่อเจรจากับลูกค้าองค์กรรายใหญ่โดยเฉพาะธนาคารและบริษัทด้านการเงิน เขียนเอกสารด้านกฎหมาย ประสานงานกับทุกฝ่ายในบริษัท เพื่อผลักดันให้โครงการต่างๆ บรรลุตามเป้าหมาย ด้วยความที่ผมไม่เกี่ยงงาน หัวหน้าสั่งอะไรก็ทำหมด ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรอลูกค้าทั้งวัน เขียนสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ ประเมินโครงการด้านการเงิน แต่ผมก็ยินดีทำ เพราะสิ่งที่ทำไปนั้นได้ช่วยบริษัทให้ก้าวหน้า และยังช่วยให้ตัวผมเก่งขึ้นอีกด้วย

//เถ้าแก่ใหม่ใจถึง :เริ่มทำธุรกิจได้อย่างไร ทำไมถึงเลือกธุรกิจนี้

//คุณบอน :Choose a job you love, and you will never have to work a day in your life. ขงจื้อได้กล่าวไว้ว่า “เลือกงานที่คุณรัก แล้วชีวิตนี้ คุณจะไม่ต้องทำงานเลยสักวัน”
ผมรักงานที่เกี่ยวกับไอทีและการใช้ความคิดสร้างสรรค์ครับ เวลาทำอะไรที่เกี่ยวกับไอที หรือใช้ความคิดแปลกใหม่ แล้วสร้างผลลัพธ์ให้ออกมาเจ๋งได้ จะทำให้ผมมีความสุขมาก ตอนที่ทำงานประจำ ผมจะใช้เวลาในวันหยุด ไปเป็นที่ปรึกษาด้านไอที ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ พัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ วางระบบไอทีต่างๆ นอกจากได้เงินแล้ว ยังได้พัฒนาทักษะด้านต่างๆด้วยครับ
แต่ “ไม่มีงานเลี้ยงใด ที่ไม่เลิกรา” ผม Say Goodbye ให้กับงานประจำในปี 2010 เพื่อออกมาทำธุรกิจอีกครั้งตามความฝันที่ตั้งใจไว้ครับ แต่เพื่อความมั่นใจในการกลับไปทำธุรกิจด้านไอที ผมจึงใช้เวลาประมาณ 6 เดือนก่อนออกจากงานประจำ ในการวางแผนทั้ง Business Model และ Business Plan พร้อมๆกับหาลูกค้าไปด้วย เพื่อให้มีรายได้ให้กับบริษัทตั้งแต่วันแรกที่ดำเนินการครับ

หลังจากผมออกมาทำธุรกิจไอทีได้ประมาณ 1 ปี ผมได้รับโอกาสดีๆเพิ่มเติม ในการเข้าซื้อหุ้นบางส่วนจากธุรกิจร้านยาเครือข่ายที่มีผลการดำเนินงานที่ไม่ดีนัก ทำให้ผมได้พัฒนาทักษะในการบริหารจัดการร้านค้าปลีกไปพร้อมๆกับพัฒนาซอฟต์แวร์และนำระบบไอทีมาใช้ในธุรกิจ จนทำผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจกลับมามีกำไร ลดต้นทุนในการดำเนินงาน พนักงานมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้นครับ

//เถ้าแก่ใหม่ใจถึง :ปัญหามีอะไรบ้าง ผ่านมาได้อย่างไร

//คุณบอน :ปัญหาหลักในธุรกิจของผม ก็คงเหมือนกับคนทำธุรกิจขนาดเล็กทั่วไป คือ การมีทรัพยากรจำกัด ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินทุน หรือ บุคลากร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายใหญ่ของเรา
สำหรับธุรกิจไอที ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ เราทราบอยู่แล้วว่าจะมีปัญหาที่เราต้องเจอประจำ คือ การติดตามรับชำระหนี้จากลูกค้า หลังจากที่เราส่งมอบระบบงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ลูกค้าโดยทั่วไปมักจะมีความต้องการ ขอแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดของซอฟต์แวร์ จนทำให้เราไม่สามารถปิดโครงการได้ ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ จะทำให้เรามีปัญหาขาดสภาพคล่อง
ดังนั้น เราจึงต้องมีการกำหนดวิธีรับชำระเงิน และใช้เทคนิคในการติดตามหนี้ ตามความเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายครับ ซึ่งผมจะใช้วิธีพิจารณาจากเกณฑ์การชำระเงินของลูกค้า รวมถึงอุปนิสัยใจคอของลูกค้าที่มีอำนาจในการจ่ายเงินด้วยครับ

สำหรับธุรกิจร้านยา ช่วงแรกที่ผมเข้าบริหาร มีปัญหาเรื่องขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง และขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน ผมพิจารณาทรัพยากรที่มีอยู่ จึงแก้ไขปัญหาระยะสั้น โดยเจรจากับเจ้าหนี้ขอขยายเวลาการชำระหนี้ค่าสินค้าออกไป ขอกู้เงินจากผู้ถือหุ้นเพื่อนำเงินมาบริหารสภาพคล่องให้มีเงินจ่ายค่าเช่า ค่าจ้าง และค่าใช้จ่ายต่างๆ

การแก้ไขปัญหาระยะกลาง ผมจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ ปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร เพื่อย้ายกำลังคนจากสาขาที่ถูกปิดไป มาช่วยกันทำงานในสาขาที่มีกำไรสูง
การแก้ไขปัญหาระยะยาว อาจเป็นเพราะผมเคยเป็นลูกจ้างมาก่อน ผมจึงปรับนโยบายการบริหารใหม่ โดยเน้นให้ความเป็นธรรมกับบุคลากรทุกคน ปรับโครงสร้างค่าจ้างและผลตอบแทนใหม่ เพื่อให้พนักงานมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น

ปัญหาของทั้งสองธุรกิจมีความแตกต่างกันครับ วิธีที่ทำให้ผมผ่านพ้นปัญหาต่างๆมาได้ คือ เราต้องเข้าใจแก่นแท้ของปัญหาเสียก่อน ถึงจะหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมได้

ถ้าเราไม่เข้าใจแก่นแท้ของปัญหา ไม่ว่าเราจะใช้วิธีใดมาแก้ไข ก็ยากมากที่จะแก้ไขได้ แต่ถ้าเราเข้าใจแก่นแท้ของปัญหาแล้ว แม้ว่าเราจะใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องในตอนแรก ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามคาด แต่เรายังสามารถหาวิธีอื่นๆมาแก้ไขได้อีก และสุดท้ายเราก็จะแก้ไขปัญหานั้นได้ครับ

//เถ้าแก่ใหม่ใจถึง :ปัจจัยสู่ความสำเร็จคืออะไร

//คุณบอน :ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหรับผมแล้ว ความสำเร็จ คือ ความสุขจากการได้ใช้ชีวิต ผมได้ทำงานที่ผมรัก มีรายได้อย่างที่ต้องการ มีเวลาให้กับครอบครัว มีส่วนร่วมในการแบ่งปันสิ่งดีๆแก่สังคม
ผมเชื่อว่าปัจจัยสู่ความสำเร็จในด้านธุรกิจเพราะเรายึดหลัก “ความร่วมมือเพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดร่วมกัน”

ตัวอย่างเช่น ในธุรกิจไอที เราจะเข้าไปทำงานร่วมกับลูกค้า หรือ คู่ค้า เพื่อให้เราเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริง ซึ่งทำให้เราสามารถส่งมอบงานที่มีคุณค่าให้แก่ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ เมื่อลูกค้าพึงพอใจในงานของเรา ลูกค้าจะใช้บริการงานอย่างอื่นของเราเพิ่มเติม และยังช่วยบอกต่อบริการของเราไปยังลูกค้ารายอื่นๆอีกด้วย ทำให้เรามีงานด้านไอทีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์

//เถ้าแก่ใหม่ใจถึง : ช่องทางการตลาด แผนการตลาดอนาคต เป็นอย่างไร

//คุณบอน :ในอนาคตอันใกล้นี้ ธุรกิจไอทีของเรากำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ในลักษณะ Product/Service ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าธุรกิจในตลาดที่กว้างมากขึ้น ถ้าเป็นไปตามแผนงาน ปี 2015 เราหวังว่าจะนำ Product/Service ของเราออกสู่ตลาดผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต โดยมีเป้าหมายส่งมอบคุณค่าและผลประโยชน์ต่อลูกค้าธุรกิจในระดับสากล
เรามีแผนการตลาดที่มีแนวคิดแบบโกลบอล แต่จะดำเนินการแบบโลคอล โดยเน้นการทำงานร่วมกับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดร่วมกัน ตามแนวคิดหลักของบริษัท คือ Synergy

//เถ้าแก่ใหม่ใจถึง : อยากฝากอะไรกับคนที่เริ่มทำธุรกิจเป็นเถ้าแก่ใหม่

//คุณบอน :สำหรับเถ้าแก่ใหม่ ผมมีคำแนะนำส่วนตัวที่อยากฝากไว้สัก 3ข้อ

1) อย่ากลัวความผิดพลาด หรือ ล้มเหลว
ทุกคนสามารถทำผิดพลาดได้ครับ แต่ถ้าล้มแล้วให้รีบลุกทันที ถ้าคุณต้องการสู้ต่อ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว คุณก็ต้องลุกครับ อย่าปล่อยให้เรามีข้ออ้างว่า ขอทำใจอีกหน่อยแล้วค่อยลุก บางทีทำใจนานเกินไป จะทำให้ลุกยากครับ ลุกขึ้นมาช้าเกินไป เราก็อาจจะสูญเสียโอกาสดีๆไปอีกด้วยครับ

2) มีเป้าหมายและมีวินัยต่อเนื่อง
ความมีวินัยต่อตนเองเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำงานใดๆ ยิ่งถ้าเราเป็นเถ้าแก่ด้วยแล้ว เรายิ่งต้องมีวินัยให้มากครับ ถ้าอยากให้ธุรกิจของเราก้าวหน้า เราต้องเดินทุกวัน และที่สำคัญ อย่าหยุดเดิน
เถ้าแก่หลายคนที่ผมรู้จัก รวมถึงตัวผมเอง ออกกำลังกายทุกวัน เพราะการที่เราออกกำลังกายทุกวัน นอกจากจะทำให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ความคิดปลอดโปร่ง พร้อมที่จะทำงานต่างๆแล้ว ยังเป็นการสร้างวินัยและสร้างความสม่ำเสมอให้กับตัวเราได้ดีมากด้วยครับ

3) ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์
เถ้าแก่ใหม่ ส่วนใหญ่ ไฟแรงมาก ทำแต่งานทั้งวันทั้งคืน จนลืมสนใจด้านอื่นๆที่สำคัญเช่น สุขภาพ อารมณ์ ครอบครัว เป็นต้น ถ้าประสบความสำเร็จจากธุรกิจ แต่สุขภาพแย่ อารมณ์ไม่ดี ไม่ใส่ใจครอบครัว แม้ว่าความสำเร็จนั้น จะทำให้เราได้รับการยกย่องก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทดแทนความสูญเสียจากสิ่งเหล่านั้นได้ครั

การทำธุรกิจนอกจากเราต้องให้ความสำคัญด้านการงานและการเงินแล้ว ผมอยากให้เถ้าแก่ใหม่ ให้ความสำคัญด้าน สุขภาพ อารมณ์ และครอบครัว มากๆด้วย เพราะทั้งหมดนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เถ้าแก่มีพลัง กำลังใจ สุขภาพดีอารมณ์เชิงบวก และได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเป็นอย่างดีสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เถ้าแก่ใหม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆไปได้ รวมถึงจะทำให้พบกับโอกาสใหม่ๆที่ยอดเยี่ยมมากมายด้วยครับ

การเป็นเถ้าแก่ใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำธุรกิจให้ได้ตามเป้าหมายที่ท้าทาย เป็นเรื่องที่ยากกว่า ส่วนตัวผมช่วงที่ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายให้กับธุรกิจ ผมต้องคอยให้กำลังใจตัวเองทุกวัน เมื่อเรามีกำลังใจที่ดี จะทำให้เราการสามารถจัดการอุปสรรคต่างๆได้ พาตัวเราก้าวไปข้างหน้าได้ทุกวัน และเมื่อเรามีกำลังใจดี มีพลัง มีความกระตือรือร้น สิ่งเหล่านี้จะถูกส่งไปยังคนใกล้ตัวทำให้เค้ารู้สึกสดชื่นส่งไปยังลูกน้องทำให้เค้ารู้สึกอยากทำงานส่งไปยังคู่ค้าทำให้เค้ารู้สึกมั่นใจที่จะร่วมงานกับเราด้วย

สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณพี่เกียรติ ที่มอบโอกาสในการเขียนเรื่อง “เถ้าแก่ใหม่ใจถึง” ทำให้ผมได้ทบทวนตัวเองผ่านตัวอักษร ผมขอขอบคุณครอบครัวที่เป็นกำลังใจมาโดยตลอด และขอบคุณบุคคลอื่นๆที่มีส่วนทำให้ผมมาถึงวันนี้ด้วยครับ

สำหรับท่านเถ้าแก่ใหม่ ผมขอให้ท่านได้ทำธุรกิจตามที่ต้องการอย่างมีความสุข มีความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า มั่งคั่ง และยั่งยืน

หากท่านต้องการพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์กับผม สามารถติดต่อด้านล่างนี้ครั

ธนวัต มีเจริญ
Email: [email protected]
Facebook: www.facebook.com/synergyinfopage

ขอบคุณคุณบอนจากใจ

#เถ้าแก่ใหม่ใจถึง

ส่งเรื่องราวชีวิตเถ้าแก่ใหม่มาแบ่งปันเป็นแรงบันดาลใจ กำลังใจ ให้เพื่อน ๆ ด้านล่างเลยครับ

https://www.facebook.com/messages/TaoKaeMaiCom