การจดทะเบียนบริษัทสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์และความรู้ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย
ผู้ประกอบการทุกคนล้วนมีความคาดหวังที่อยากเห็นธุรกิจมีการเติบโตที่มั่นคงและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าต้องอาศัยหลายปัจจัยกว่าจะไปถึงจุดนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่มักจะมองข้ามไปตั้งแต่แรกคือ การจดทะเบียนธุรกิจ เพราะคิดว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ทำให้ล้มเลิกความคิดนี้ไป ถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ดีเท่าไรนัก เพราะนี่ถือเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ เอกสารหลักฐานต่างๆล้วนมีส่วนสำคัญต่อการดำเนินการในธุรกิจ เช่น เรื่องของภาษี การขยายโอกาสทางธุรกิจ การขอสินเชื่อ เป็นต้น ลองทำความเข้าใจแล้วจะรู้ว่าขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทเป็นของตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด
เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัท
การเปิดบริษัทและการจดทะเบียนบริษัทสำหรับผู้ประกอบการSMEs อาจไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่มีเอกสารที่ต้องจัดเตรียมพอสมควร แม้แต่ร้านค้าออนไลน์เองก็ควรที่จดทะเบียนบริษัทเช่นกัน เอกสารที่ใช้มีดังนี้
- แบบแจ้งผลการจองชื่อ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เริ่มก่อการและกรรมการทุกคน
- หลักฐานการชำระค่าหุ้น ที่ออกให้ผู้ถือหุ้นแต่ละคน
- สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่จัดตั้งบริษัท หากไม่ได้เป็นเจ้าบ้านต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม คือ หนังสือให้ความยินยอมใช้สถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ หรือสำเนาสัญญาเช่าสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่
- แผนที่แสดงสถานที่ซึ่งใช้ประกอบพาณิชยกิจ และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป
ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัท
1.ตรวจสอบและจองชื่อบริษัท
ชื่อที่จะใช้ต้องไม่ซ้ำหรือใกล้เคียงกับบริษัทที่เคยจดทะเบียนไปก่อนหน้าแล้ว โดยการจองชื่อบริษัทนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
- จองด้วยตัวเองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเขตหรือสำนักงานพาณิชย์ประจำจังหวัดที่อาศัยอยู่
- จองผ่านอินเตอร์เน็ต โดยจะต้องเข้าไปทำการสมัครสมาชิกที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
สามารถทำการจองชื่อสำหรับใช้จดทะเบียนบริษัทได้ 3 ชื่อ โดยปกติจะรู้ผลภายใน 30 นาที เมื่อจองชื่อได้แล้วจะต้องยื่นจดทะเบียนภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นต้องทำการจองใหม่
2.การเตรียมข้อมูลสำหรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและการจดจัดตั้งบริษัท
หนังสือบริคณห์สนธิ คือ หนังสือที่แสดงความต้องการในการจัดตั้งบริษัท มีไว้เพื่อระบุขอบเขตต่างๆของธุรกิจ ซึ่งสามารถจดทะเบียนบริษัทและจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไปในคราวเดียวกันได้ ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อความถูกต้องและรวดเร็ว สำหรับข้อมูลที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- ชื่อของบริษัท (ตามที่ได้จองชื่อไว้)
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ / สาขา
- วัตถุประสงค์ของบริษัทต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
- ทุนจดทะเบียน ส่วนใหญ่นิยมจดกันที่ 1 ล้านบาท
- ข้อมูลผู้ก่อการ โดยการจดทะเบียนบริษัทนั้นจะต้องมีผู้ก่อการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
- ข้อมูลผู้ถือหุ้น เช่น ชื่อ-สกุล สัญชาติ ที่อยู่ และจำนวนผู้ถือหุ้น โดยผู้ถือหุ้นไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ก่อตั้งเท่านั้น บุคคลอื่นก็สามารถเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทได้
- ข้อมูลพยาน ในการจดทะเบียนบริษัทจะต้องมีพยาน 2 คน
- รายละเอียดการประชุมจัดตั้งจดทะเบียนบริษัท เช่น ข้อบังคับของบริษัท กรรมการบริษัท ผู้สอบบัญชี เป็นต้น
3.รอให้นายทะเบียนตรวจสอบ และเตรียมเอกสารให้พร้อม
สามารถยื่นตรวจเอกสารออนไลน์ได้ที่ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จากนั้นให้รอการตรวจสอบจากนายทะเบียน หากมีส่วนไหนที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมจะได้รับการแจ้งกลับ ถ้าผ่านแล้วให้พิมพ์แบบฟอร์มออกมาให้บุคคลที่ระบุในแต่ละหน้าเซ็น พร้อมกับแนบเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัท และค่าธรรมเนียม
4.ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
สามารถยื่นได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในเขตที่ใกล้บ้าน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนและมอบหนังสือรับรองเป็นที่เรียบร้อย ก็แสดงว่าบริษัทของเราได้จัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว มีสิทธิและหน้าที่ต่างๆ โดยสมบูรณ์ทุกประการ
ค่าบริการในการจดทะเบียนบริษัท
ในกรณีที่ดำเนินการด้วยตัวเอง คิดค่าธรรมเนียมตามที่ระบุไว้ ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ คิดจากเงินทุนแสนละ 50 บาท โดยเกณฑ์การชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 500 บาท และขั้นสูงได้ไม่เกิน 25,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัท ตามทุนจดทะเบียนแสนละ 500 บาท ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 5,000 บาท และขั้นสูงไม่เกิน 250,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมออกหนังสือรับรอง ฉบับละ 200 บาท
- ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 100 บาท
- ค่ารับรองสำเนาเอกสาร หน้าละ 50 บาท
หากมีความต้องการที่จะจ้างบริษัทสำหรับจดทะเบียนบริษัท จะมีค่าดำเนินการในส่วนอื่นเพิ่มเข้ามา แต่ละที่คิดค่าบริการแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้จัดตั้ง ทุนจดทะเบียน การจดภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจดทะเบียนบริษัทร่วมกับชาวต่างชาติ ถ้าจดเต็มรูปแบบค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้น จึงต้องศึกษาก่อนว่าบริษัทที่จะจัดตั้งประกอบไปด้วยอะไรบ้าง จะได้เตรียมค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม
การจดทะเบียนบริษัทสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์และความรู้ใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาสามารถจ้างสำนักงานบัญชีได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจในแต่ละบุคคล ท้ายที่สุดสิ่งที่ผู้ประกอบการควรตระหนักคือความถูกต้องและชัดเจน ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยรักษาผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว แต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่อผู้บริโภคที่ต้องการความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการอีกด้วย เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องของเอกสารแต่เป็นการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME