ต่อประกันรถยนต์ เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ซื้อรถยนต์ควรมี หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลือง เพราะตามกฎหมายได้มีการบังคับทำพรบ.ไว้เป็นขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว แม้เราจะขับขี่ปลอดภัยแต่การที่มีประกันรถยนต์จะช่วยให้รู้สึกอุ่นใจกว่า

เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินจำนวนมากจากอุบัติเหตุ ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความเสียหายได้ แม้มีเหตุผลดีๆที่สนับสนุนการซื้อประกัน แต่ค่าเบี้ยประกันยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกกังวลใจ จะดีกว่ามั๊ยหากมีวิธีที่ทำให้การต่อประกันภัยรถยนต์ในครั้งหน้าช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋ามากขึ้น

1.เลือกต่อประกันภัยรถยนต์ทุนประกันภัยให้เหมาะสมกับการใช้รถ

เรื่องที่เจ้าของรถหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนคือ รถแต่ละคันมีทุนประกันไม่เท่ากัน โดยปกติแล้วทุนประกันรถยนต์จะอยู่ที่ 70-80% ของราคารถยนต์ การคิดทุนประกันจะคำนวณจากราคากลางในตลาด ซึ่งมูลค่าของรถยนต์นั้นจะลดลงตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้นเสมอ หากที่ผ่านมารู้สึกว่าเลือกทุนประกันสูงเกินไปอาจลองขยับทุนประกันลงมา ซึ่งส่งผลให้เบี้ยประกันถูกลงตามไปด้วย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเลือกทุนประกันเท่าไหร่จึงจะเหมาะกับมูลค่ารถยนต์ ตรงนี้ดูได้จากอายุการใช้งาน ความชำนาญของคนขับ และลักษณะการใช้งาน เช่น ความถี่ในการใช้รถเป็นอย่างไร ใช้งานเยอะแค่ไหน ถ้าจอดไว้ในบ้านมากกว่าเอารถออกไปขับทุกวัน อาจเลือกแผนประกันที่ไม่ต้องครอบคลุมมากนัก แต่ถ้ามีไลฟ์สไตล์การทำงานที่ส่วนใหญ่อยู่บนถนนแทบจะตลอดเวลาก็ต้องเลือกความคุ้มครองแบบจัดเต็ม หากศึกษาข้อมูลเพียงพอก็จะพบว่ามีประกันบางเจ้าที่สามารถปรับลดความคุ้มครอง หรือตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของลูกค้าได้

2.ต่อประกันภัยรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทางเลือกที่น่าสนใจ

เพราะเข้าใจถึงปัญหาความยุ่งยากในการ ต่อประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันหลายแห่งจึงมีการจัดเตรียมข้อมูลและให้บริการผ่านทางเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า เป็นอีกช่องทางที่ได้รับความนิยม ช่วยให้การต่อประกันรถยนต์ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ให้ความคุ้มครองทันทีที่ชำระค่าเบี้ยประกัน ซึ่งข้อดีคือเราสามารถเปรียบเทียบข้อมูลกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทประกันได้หลายเจ้า มีเวลาให้ตัดสินใจได้เยอะขึ้นโดยที่ไม่ต้องรีบร้อน เพื่อดูว่าเจ้าไหนให้ราคาดี และมีความคุ้มครองครอบคลุมตามที่ต้องการ เพื่อยกระดับความง่ายเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ยังมีเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ที่รวบรวมข้อมูลของแต่ละเจ้าไว้ที่เดียวกัน สามารถเปรียบเทียบได้แบบช็อตต่อช็อต เช่น ทุนประกันรถยนต์ ค่าเสียหายส่วนแรก ค่าความเสียหายต่อตัวรถ และความคุ้มครองเพิ่มเติม โดยที่ไม่ต้องเปิดหน้าเว็บไซต์กลับไปกลับมา ช่องทางออนไลน์นี้นอกจากจะได้ ประกันรถยนต์ ตามที่ต้องการแล้วยังช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาประกันที่ใช่ได้มากอีกด้วย

3.ต่อประกันภัยรถยนต์โดยระบุชื่อและอายุของผู้ขับขี่

อีกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ที่ต้องจ่ายทุกปีคือ เบี้ยประกันจะถูกลงหากระบุชื่อและอายุของผู้ขับขี่รถยนต์ให้แก่บริษัทประกันภัย วิธีนี้เหมาะกับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่ไม่เกิน 2 คน สามารถลดค่าเบี้ยประกันได้สูงสุดมากถึง 20% ตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ ดังนี้

  • อายุ 18-24 ปี ส่วนลด 5%
  • อายุ 25-35 ปี ส่วนลด 10%
  • อายุ 36-50 ปี ส่วนลด 15%
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%

อายุที่ระบุไว้เป็นส่วนในการพิจารณาลดเบี้ยประกันภัย ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับรายละเอียดอื่นๆของผู้ขับขี่อีกด้วย และมีบริษัทประกันหลายเจ้าที่มอบส่วนลดให้ตามประสบการณ์และอายุผู้ขับขี่ สำหรับการต่อประกันภัยรถยนต์คราวหน้าอย่าลืมที่จะใส่ข้อมูลนี้ลงไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง

4.ต่อประกันภัยรถยนต์เลือกจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก

หากมั่นใจในสกิลการขับรถ และคิดว่ามีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำ การ ต่อประกันภัยรถยนต์ แบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ช่วยลดเบี้ยประกันได้เช่นกัน ถือว่าผู้ขับขี่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นร่วมกับบริษัทประกันภัย หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยที่เราเป็นฝ่ายผิด ในการเรียกเคลมครั้งนั้นก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายตามจำนวนที่ระบุไว้ และประกันจะรับผิดชอบส่วนที่เหลือ แต่ถ้าเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องจ่ายในส่วนนี้ เช่น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 10,000 บาท กำหนดค่าเสียหายส่วนแรกไว้ที่ 2,000 บาท  อาจได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันจากยอดปกติ 2,000 บาท (ขึ้นกับข้อกำหนดแต่ละบริษัท) ในการต่อประกันภัยครั้งถัดไป หากคิดว่าไม่ค่อยได้เจออุบัติเหตุ การกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกให้สูง จะทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยลดลงมากตามไปด้วย

5.ส่วนลดเบี้ยประกันจากประวัติการขับขี่ที่ดี

คนทำดีย่อมสมควรต้องได้รับรางวัล สำหรับผู้ที่ขับขี่อย่างระมัดระวังนี่จึงเป็นอีกส่วนที่สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยได้ หากมีประวัติการขับรถดี ไม่เคยเรียกเคลมประกันตลอดปีที่ผ่านมา หรือมีการเคลมเกิดขึ้นโดยที่เราเป็นฝ่ายถูก และบริษัทประกันสามารถเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีได้ ก็จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันในปีถัดไป 20%  สูงสุดถึง 50%  และจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีการเคลมประกัน แม้ว่าในการต่อประกันภัยรถยนต์ผู้ขับขี่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนบริษัทประกัน ก็สามารถดึงข้อมูลการเคลมประกันมาพิจารณาเพื่อขอส่วนลดเบี้ยประกันภัยกับบริษัทใหม่ได้ ซึ่งส่วนลดดังกล่าวจะคิดจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในปีที่ต่ออายุ

การชำระค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในแต่ละปีถือเป็นรายจ่ายที่ค่อนข้างหนักพอสมควร รถยนต์ราคาไม่น้อยจะให้จ่ายเบี้ยประกันถูก เพื่อแลกกับความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุม และต้องรับผิดชอบในการซ่อมรถเองคงเป็นเรื่องที่ทำใจไม่ได้ แต่จะให้ซื้อประกันชั้นหนึ่งที่แพงเกินตัวก็กลัวจะรับไม่ไหว การหาส่วนลดค่าเบี้ยประกันจึงเป็นทางออกที่เหมาะสม นอกจากประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังช่วยให้การต่อประกันภัยครั้งหน้าได้ในสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

ขอใบเสนอราคา ต่อประกันภัยรถยนต์ ราคาประหยัด

ประกันภัยรถยนต์จากหลากหลายบริษัทผู้ให้ประกันภัยรถยนต์ กรอกข้อมูลส่วนตัวและรถยนต์ของท่านให้ครบถ้วน เพื่อเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ แจ้งราคาประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถยนต์ของท่าน