ใครจะไปคิดว่าทีมฟุตบอล “เลสเตอร์ ซิตี้” ที่มี “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสโมสรเลสเตอร์ โดยมี “ต็อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ลูกชายเป็นรองประธานสโมสรจะประสบความสำเร็จมาได้จนถึงวันนี้

เรียกว่า ดังคับโลกไปเรียบร้อย กับทีมฟุตบอลเจ้าของฉายา“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อประกาศศักดาที่ได้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015–16 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรีอย่างเหนือความคาดหมายจริง ๆ  ยิ่งในช่วงต้นฤดูกาลของฟุตบอลลีก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

คุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา เคยทำงานด้านธุรกิจต่าง ๆ ทั้งกิจการของตนเองและร่วมบริหารไม่ว่าจะเป็นเช่น บริษัทศรีอักษร (1980) จำกัด, กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรป้าปริ๊นซ์ จำกัด (มหาชน), กรรมการบริษัทไทยนิชิกาวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส.(ไทยแลนด์) จำกัด, กรรมการบริษัท ยูโรป้าปริ๊นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และมีสถานะทางสังคมเป็นนายกสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรฯ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยได้เข้าไปซื้อกิจการในปี พ.ศ. 2553  ซึ่งในช่วงแรกถือหุ้นเพียง 51% ต่อมาได้เข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 100%  โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดอยู่ที่ราว 40 ล้านปอนด์ และในปี พ.ศ. 2554 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสรฯ สเตอร์ ซิตี้อย่างเต็มตัว

วันนี้เราจะมาเจาะลึกแนวคิดการนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จของเจ้าสัววิชัย เพื่อนำมาปรับใช้ในเชิงการทำธุรกิจ จะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับ

14 แนวทางธุรกิจ ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา

กว่าจะเข้าสู่โหมดความสำเร็จของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ยิ่งใหญ่ของ เจ้าสัว “วิชัย ศรีวัฒนประภา”

1.คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ให้แนวคิดเรื่องเป้าหมายของเลสเตอร์ฯ ว่า “ขอแค่อยู่รอดในพรีเมียร์ลีก และหลังจากนั้น ค่อยขยับเป้าหมายให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ  และต้องแอบมั่นใจว่าต้องทำได้ แล้วเมื่อไหร่ที่เลสเตอร์ฯอยู่บนลีกสูงสุดนาน ๆ ขึ้น นักเตะฝีเท้าดีก็อาจตัดสินใจย้ายมาเล่นให้ทีมได้แบบไม่ยาก” แนวคิดนี้น่าสนใจมากทีเดียวครับ

2.สุดยอดแนวความคิดที่ว่า “อย่าประมาททีมเล็ก ๆ อย่าง “เลสเตอร์” มีหลายคนยังตามลุ้นตามเชียร์ให้ประสบ ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสำนวนที่บอกว่า “เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ยิ่งยากกว่า” เช่นเดียวกับการทำธุรกิจเมื่อประสบความสำเร็จแล้วทำอย่างไรจะรักษาความสำเร็จให้ได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองครับ

3.มีความอดทนอย่างสูงและมีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง ที่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะทีมฟุตบอลที่รักนานถึง 6 ปี ซึ่งมีการลองผิดลองถูกอยู่นาน และตัดสินใจนำกุนซือที่มากประสบการณ์อย่าง “เคลาดิโอ รานิเอรี”ชาวอิตาเลียนเข้ามาคุมทัพแทน ที่ “ไนเจล เพียร์สัน” เพื่อนำทีมเลสเตอร์มุ่งสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ซึ่งการลองผิดลองถูกทำให้คุณได้รับประสบการณ์อันประเมินค่าไม่ได้ในการทำธุรกิจ

4.โชคย่อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ แต่การลงทุนที่พึ่งแต่โชคจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว จึงจำเป็นต้องจำแนกให้ได้ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นส่วนใดที่มาจากโชค และส่วนใดที่มาจากฝีมือที่สามารถนำไปทำซ้ำได้ การเอาแต่พึ่งดวงหรือโทษดวง ไม่ได้ทำให้ชีวิตนักลงทุนดีขึ้น ควรเอาเวลามาศึกษาหาความรู้ ทบทวนการลงทุนของตัวเองจะดีกว่า ข้อนี้ผมเห็นด้วยครับ

5.ควรรับฟังความเห็นของคนรอบข้าง เพราะบางคนได้กำไรมากๆ อย่างต่อเนื่อง ก็อาจเข้าใจไปเองว่าเป็นผลแห่งการลงทุนแล้ว ทั้งๆ ที่บางคนเพิ่งเข้าตลาดหุ้นได้ไม่กี่ปี นักลงทุนจึงควรศึกษาหาความรู้ และได้รับความเห็นที่แตกต่าง และเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ สิ่งที่ใดที่ยังไม่รู้ ก็ให้เรียนรู้ไว้เป็นแนวทางในการเอาตัวรอดในกรณีที่จะต้องเผชิญกับสภาวะตลาดที่ไม่เคยเจอมาก่อน

6.คนเราเกิดมามี ลักษณะนิสัย พื้นเพ ความถนัด และความชอบส่วนตัวที่แตกต่างกัน จึงควรมีการลงทุนอย่างที่เป็นตัวของตัวเอง และมีการเรียนรู้ตัวเองว่าอะไรเป็นจุดแข็งอะไรเป็นจุดอ่อน แล้วควรเลือกวิธีการลงทุนที่มีความสอดคล้องกับจุดแข็งของตัวเอง เหมือนกับทีมเลสเตอร์ ที่เลือกเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่ตัวเองถนัด แม้ไม่สวยงาม ไม่ตื่นเต้นเร้าใจแต่หากผลลัพธ์ออกมาดีเดี๋ยวก็ตื่นเต้นกันได้เอง ข้อนี้ชัดเจนมากครับ

PIT_2437

7.จากแนวคิดที่ว่า เลสเตอร์เป็นสโมสรขนาดเล็ก และมีงบประมาณทำทีมในระดับหนึ่ง ทำให้ต้องแสวงของดีราคาถูก เลสเตอร์จึงเลือกซื้อแต่นักเตะที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่ แต่ทว่ามีทักษะที่สอดคล้องกับแผนการเล่นของตนเอง และมีความสามารถที่ โค้ชต้องการคือ เร็ว คล่อง และทำประตูเฉียบคม หรือวางบอลได้แม่นยำ เป็นการจับเอาความสามารถเฉพาะด้านของนักเตะเหล่านี้มาทำการผสานกันเป็นทีมเวิร์ก ซึ่งกุญแจสำคัญของชัยชนะในกีฬาฟุตบอลอยู่ที่การเล่นเป็นทีม

8.เหตุผลหลักสำหรับการเข้ามาลงทุนกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้เพียงเพราะความรักในเกมฟุตบอล แต่ยังปรารถนาที่จะพลิกฟื้นให้ทีมกับพรีเมียร์ลีกให้โด่งดังระดับโลกให้ได้ การทำธุรกิจหากคิดไกล ๆ เป้าหมายใหญ่ระดับโลกก็จะช่วยให้เราขยายความสำเร็จได้กว้างขวางมากขึ้นครับ

9.“การเล่นกีฬาประเภทไหนก็ตาม จะต้องมีความมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมและมีระเบียบวินัยมีความสามัคคี สำคัญที่สุดที่จะช่วยนำพาความสำเร็จมาให้ และถึงแม้จะแพ้ แต่ก็ยังมีความน่าภูมิใจที่ทำให้ “เลสเตอร์” นับเป็นตัวอย่างดีที่สุด” คุณสมบัติที่มาจากพลังภายในย่อมนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ

10.หากทำอะไรแล้วถ้าไม่มีกำไร อย่าทำเลยดีกว่า นี่คือหลักการในการดำเนินธุรกิจของเจ้าสัว วิชัย ยึดมั่นเสมอมาโดยตลอด

11.เคล็ดลับความสำเร็จของเขานั้น ได้คาบเกี่ยวอยู่กับการสร้างคอนเนกชัน สร้างเครือข่ายทั่วทุกสารทิศ ไม่ใช่แค่คอนเนกชันทางการเมือง แต่รวมถึงคอนเนกชันทางธุรกิจและทางสังคมโดยมีแนวคิดว่าการที่ทีมจะประสบความสำเร็จน่าจะอยู่ที่เจ้าของทีมมากกว่า ว่าเข้าใจกีฬาฟุตบอลได้มากแค่ไหน เพราะว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่ไม่ลอจิก วันไหนหากมีการเล่นดีก็อาจแพ้ และบางจังหวะไม่ฟาวล์แต่กรรมการเป่าให้ก็จบ ซึ่งเรียกว่ามันไม่แฟร์ในมุมของนักธุรกิจ แต่ต้องเข้าใจให้ถูกว่ามันเป็นกีฬา ถ้ารับตรงนี้ไม่ได้ก็เหนื่อยและอาจจะแย่ได้ การทำธุรกิจก็เช่นกันควรคำนึงถึงคอนเนกชั่นด้วยครับ

12.มองว่าการสร้างทีมเล็กหรือใหญ่ไม่ใช่ปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการพัฒนาการและวิธีการบริหารจัดการของนักเตะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

13.นักลงทุนที่ดีไม่ควรโอ้อวดความสำเร็จของตน ว่ากำไรเท่านั้นเท่านี้ ยิ่งโอ้อวดมากเท่าไร ยิ่งหลงตัวเอง หรือหลงลืมความผิดพลาดของตัวเองและทำให้ขาดการพัฒนา หากไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตแล้ว ก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะผิดพลาดซ้ำรอยเดิมอีก

14.เมื่อค้นพบแนวทางการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง จำเป็นต้องมั่นคงกับมัน ตลอดชีวิตของนักลงทุนนั้นจะต้องพบบททดสอบแห่งศรัทธาหลายครั้ง แม้บางครั้งตลาดอาจไม่เป็นใจกับแนวทางการลงทุน ก็จำเป็นต้องยอมรับและเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่กับความผิดหวัง ไม่ท้อแท้อะไรง่ายๆ

หลังจากที่ เจ้าสัววิชัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แทน มิลาน แมนดาริช ที่เป็นเจ้าของทีมคนเก่า  ทำให้เลสเตอร์ เป็นสโมสรที่น่าภูมิใจ และเป็นมรดกที่สมบูรณ์

ไม่เพียงแต่การทำงานเป็นทีมเท่านั้น จุดยืนหลักที่สำคัญไม่แพ้กัน คือมีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงาน

เพราะที่ผ่านมา เจ้าสัว วิชัย ได้แสดงให้ชาวเมืองเลสเตอร์เห็นถึงความตั้งใจ ในการที่จะเข้าไปทำทีมอย่างจริงจัง โดยไม่ใช่การเข้าไปลงทุนซื้อเลสเตอร์ เพื่อมุ่งนำทีมไปขายต่อ เหมือนเจ้าของสโมสรฟุตบอลต่างชาติอื่น ๆ ที่ชอบเข้าไปซื้อทีมฟุตบอลระดับโลกนั่นเอง

Screenshot_2016-05-16-14-35-16-1ท้ายสุดนี้ที่ผมอยากจะฝากไว้ว่าการทำธุรกิจในสาขาใด ๆ ก็ตามนั้น ความสำเร็จ ความมีชื่อเสียง การได้รับการยอมรับที่ได้มาย่อมมีองค์ประกอบที่สำคัญอันนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

กว่าทีมเลสเตอร์จะประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้นั่น ต้องผ่านเรื่องราว ผ่านการฝึกฝน การบริหารงาน การทำงานเป็นทีม ความมีใจรักในเรื่องนั้น ๆ และปัจจัยแวดล้อมอีกมากมาย

ซึ่งนักธุรกิจใหม่สามารถนำแนวคิดและการบริหารทีมให้สำเร็จของท่านเจ้าสัววิชัยไปปรับใช้ในการสร้างธุรกิจของตนให้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ต่อไปได้ครับ