เมื่อเร็ว ๆนี้ประเทศสหรัฐอเมริกามีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับธุรกิจที่น่าสนใจออกมาบทหนึ่ง เนื้อหาภายในว่าด้วยเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะต้องเผชิญหน้าในปี 2020 ที่จะถึงนี้ เมื่อสนามการค้าในปัจจุบันพัฒนาไปสู่ระบบการค้าออนไลน์ที่เรียกว่า E-Commerce กันมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้บทวิเคราะห์ดังกล่าวจะกล่าวถึงแต่ผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กระนั้นเราย่อมไม่อาจปฏิเสธไปได้เลยว่าผลกระทบดังกล่าวก็มีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายย่อยของประเทศไทยได้เช่นกัน ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันครับว่า ในปี 2020 ที่จะถึงนี้อะไรคือสิ่งที่เป็นอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อที่ว่าคุณจะได้เตรียมพร้อมรับมือสิ่งเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูไปพร้อม ๆกันครับ
3 สิ่งสำคัญในการ ทําธุรกิจปี 2020 จะต้องเจอ
ตามรายงานดังกล่าวพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจเอาไว้เรื่องหนึ่งคือ ร้านค้าปลีกในประเทศอเมริกาต้องปิดตัวลงถึงกว่า 9,300 แห่งภายในปี 2562 ที่ผ่านมาแม้ว่าหลายร้านจะมีผลกำไรที่ดี แต่ด้วยปัจจัยบางประการก็ทำให้ร้านดังกล่าวตัดสินใจที่จะปิดตัวเองลงครับ 3 ปัจจัยที่ว่ามีดังต่อไปนี้
1. อัตราค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่ออัตรากำไรที่ลดลง
Tim Wu ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยโคลอมเบียผู้เชี่ยวชาญด้านการผูกขาดทางการค้าและการตลาดกล่าวถึงร้านค้าฮาร์ดแวร์เล็ก ๆแห่งหนึ่งในเมืองแมนฮัตตันที่ต้องปิดตัวลงเพราะทนแบกรับค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ไหว ปัญหาค่าเช่าคือสิ่งสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจครับยิ่งหากคุณไม่ได้เป็นเจ้าของพื้นที่การค้าที่เป็นทำเลทอง คุณก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายตายตัวนี้ไปตลอดและแน่นอนว่าค่าเช่าที่คุณต้องจ่ายไม่ใช่ราคาตายตัวเลย เพราะทางผู้ให้เช่าเองก็มักจะมีการระบุถึงการปรับอัตราค่าเช่าลงไปในสัญญาเช่าในกรณีที่คุณทำสัญญาระยะยาว หรือหากคุณทำสัญญาเช่ากันในระยะสั้นแน่นอนว่าทุก ๆ ครั้งที่มีการต่อสัญญาเช่าอัตราราคาค่าเช่าก็มีโอกาสที่จะถูกปรับให้สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นปัญหาราคาค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นจึงเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะต้องพบเจออย่างเลี่ยงไม่ได้ในปี 2020 นี้
2. การมาถึงของการค้าออนไลน์หรือ E-commerce
ในรายงานฉบับเดียวกันของ Tim Wu นั้นนอกเหนือไปจากราคาค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการรายย่อยยังต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งจากคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกันและคู่แข่งที่สำคัญและแข็งแกร่งยิ่งกว่าอย่าง E-commerce อาทิเช่น Amazon อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลกนั่นเอง เหตุผลที่การค้าออนไลน์เข้ามาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของผู้ประกอบการรายย่อยนั่นก็เพราะความสะดวกและรวดเร็วในการสั่งซื้อสินค้าครับ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรายงานที่ระบุว่าในช่วงปีที่ผ่านมานั้น เมื่อเทียบยอดขายทั้งหมดของร้านค้าปลีกขนาดเล็กตลอดทั้งปีรวมกัน ยอดขายนั้นมีมูลค่าเพียงครึ่งหนึ่งของยอดสั่งซื้อของผู้บริโภคที่สั่งซื้อของกับทาง Amazon เท่านั้น นี้จึงเป็นแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องพยายามปรับตัวเพื่อรับมือการเติบโตของการค้าออนไลน์ที่นับวันจะยิ่งขยายตัวและมีโอกาสผลักดันให้ผู้ประกอบการรายเล็กต้องออกจากธุรกิจที่ต้นสร้างมากับมือก็เป็นได้
3. พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
Gregg Bishop ผู้อำนวยการศูนย์วางแผนเพื่อธุรกิจขนาดเล็กในเมือง New York เองได้กล่าวถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างน่าสนใจว่า “แม้การเข้ามาของ E-commerce อย่าง Amazon จะมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยก็ตาม แต่กระนั้นสิ่งที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลรุนแรงยิ่งกว่าก็คือ พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป” ผู้บริโภคในยุคนี้ไม่ได้เกิดความรู้สึกภักดีต่อแบรนด์เหมือนดังเช่นอดีตอีกต่อไป พวกเขาอาจจะรู้สึกใจหายบ้างเมื่อรู้ว่าร้านค้าปลีกที่พวกเขาคุ้นเคยกำลังจะปิดตัวเองลง แต่เมื่อถามพวกเขากลับว่า “ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาซื้อสินค้าจากร้านั้นคือเมื่อไหร่” พวกเขามักจะตอบไม่ได้ การเข้ามาของการค้าออนไลน์มีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเหล่านี้มีพฤติกรรมการซื้อที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะความสะดวกสบายที่ได้รับจากการทำรายการสั่งซื้อสินค้าไปจนถึงการชำระค่าสินค้าที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด คุณก็ทำรายการเหล่านี้ได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังร้านค้าปลีกให้เสียเวลา ปัจจัยในเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อความอยู่รอดของผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยครับ
มองดูอเมริกาแล้วย้อนมองดูตัวเอง: แล้วเราจะเตรียมรับมือความท้าทายนี้ได้อย่างไร
แม้ว่าปัจจัยทั้ง 3 จะเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศอเมริกาและอาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยตามมา แต่กระนั้นวิธีการรับมือกับเรื่องดังกล่าวก็ยังมีหนทางอยู่เช่นกันครับ วิธีการรับมือที่ว่ามีดังนี้
1. เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ก็อย่าไปทวนกระแสความเปลี่ยนแปลงนั้น
เมื่อการค้าปลีกแบบดั้งเดิมกำลังจะถูกแทนที่ด้วยการค้าออนไลน์อันเป็นกระแสหลักของการค้าในยุคปัจจุบัน ผู้ประกอบการรายย่อยก็ไม่ควรที่จะทานกระแสที่เปลี่ยนแปลงนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการรายย่อยควรทำคือการปรับตัวให้ตนเองเข้าไปอยู่ในกระแสของการค้าออนไลน์ให้ได้ ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นช่องทางเว็บไซต์ที่ตนเองสร้างขึ้นเองหรือช่องทางแพลตฟอร์มที่เรียกว่า “market place” ก็ทำได้ง่ายและสะดวกสบายกว่าเดิมมากครับ
2. บอกเล่าเรื่องราว สร้างแบรนด์ของตนให้เป็นที่รู้จัก
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการเล็ก ๆ และมีแบรนด์เป็นของตนเอง อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องมีก็คือ “การสร้างเรื่องราวและสร้างแบรนด์ของคุณเองให้เป็นที่รู้จัก” เพราะวิธีการนี้จะทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น หาแนวทางที่สร้างแบรนด์ของตนให้เป็นที่รู้จักและบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่รอด
3. การตลาดออนไลน์ เครื่องมือสำคัญในการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
เคล็ดลับสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดก็คือการทำการตลาดออนไลน์ครับ คุณจำเป็นต้องเรียนรู้เครื่องมือทรงพลังชิ้นนี้และใช้เครื่องมือชิ้นนี้ในการช่วยโปรโมตธุรกิจค้าปลีกของคุณ จงเรียนรู้ในทุก ๆขั้นตอนในการทำการตลาดออนไลน์และใช้เครื่องมือชิ้นนี้ให้คุ้มค่าที่สุดแล้วคุณจะรู้ถึงพลังอันน่าถึงจากการทำการตลาดออนไลน์นี้
4. CRM อีกหนึ่งเครื่องมือสร้างความผูกพันให้กับลูกค้าของคุณ
นอกเหนือไปจากการปรับตัวเข้าสู่การค้าออนไลน์ การสร้างแบรนด์ การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ด้วยการทำการตลาดออนไลน์ อีกหนึ่งสิ่งที่คุณจำเป็นต้องให้ความสนใจก็คือการทำ CRM หรือการรักษาฐานลูกค้าเดิมของคุณเอาไว้ให้ได้ เพราะถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ความภักดีต่อแบรนด์ก็มีความสำคัญมากต่อความอยู่รอดของธุรกิจครับ หากธุรกิจค้าปลีกของคุณมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น ก็แทบจะปิดโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะล้มเหลวไปได้เลย
ไม่ว่าความท้าทายใดในการ ทําธุรกิจปี 2020 แต่หากคุณเรียนรู้ที่จะปรับตัวเองให้อยู่รอดโดยไม่ทำตัวทวนหรือต้านกระแสความเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามธุรกิจค้าปลีกของคุณก็มีโอกาสอยู่รอดและเติบโตไปได้ในอนาคตครับ อย่ามองว่าสิ่งที่คุณเผชิญเป็นอุปสรรคแต่ให้มองเป็นความท้าทายที่คุณต้องข้ามไปให้ได้ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จไม่ว่าคุณจะต้องเจออะไรก็ตาม
บริการอบรม ให้คำปรึกษา Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัว
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME