ธุรกิจเครื่องสำอางถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวมาก เพราะทุกคนหันมารักษาสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้น ทำให้มีผู้แข่งรายใหม่เริ่มเข้ามาในตลาดนี้เพิ่มขึ้น ขนาด RS บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ยังสนใจกระโดดลงมาขอมีส่วนแบ่งการตลาดนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ธุรกิจนี้มีการแข็งขันอย่างดุเดือด SMEsไหนอยู่ไม่ได้ก็ล้มหายตายจากไป

มีบริษัท SMEs บริษัทหนึ่งได้ก้าวขึ้นมาขอมีส่วนแบ่งการตลาดนี้ได้ บริษัทนี้จากเริ่มเดิมที่เป็นขนาด SMEs  หลังจากนั้นไม่กี่ปีก็พัฒนาตัวเองกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้บริษัทนั้นเป็นนั้นคือบริษัทบริษัท ดูเดย์ ดรีม จำกัด(มหาชน) เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง “Snail white”

จุดกำเนิดของ “Snail white” ครีมหอยทากพันล้าน

กำเนิดของ Snail white แรกเริ่มเดิมที่เป็นธุรกิจเคมีภัณฑ์ แต่เห็นช่องโอกาสในตลาดของเครื่องสำอางที่มีอนาคตไกล ไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี เครื่องสำอางก็ยังคงขายได้แถมยังขายดีด้วย ในขณะนั้นในท้องตลาดยังไม่มีแบรนด์ไทยเป็นที่รู้จัก ทำให้เกิดไอเดียในการเปิดโรงงานผลิตเครื่องสำอางเอง ในปี พ.ศ. 2553 เนื่องจากยังเป็นเจ้าใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำเครื่องสำอางเอง จึงทำธุรกิจแบบ OEM คือรับจ้างผลิตให้กับเครื่องสำอางยี่ห้ออื่นในเวลาเดียวกันก็ได้เก็บประสบการณ์และความรู้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างแบรนด์ของตนเอง

 ปี พ.ศ. 2556 ไม่นานหลังจากที่เข้าสู่ธุรกิจนี้บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ ครีมบำรุงผิวหน้าสารสกัดเมือกหอยทาก ของตัวเองขึ้นมา โดยใช้ช่องทางการตลาดผ่านทางสือสังคมออนไลน์ ผ่านการรีวิวสินค้า โดยใช้หลักการ “ปากต่อปาก” คือการใช้ดีจึงบอกต่อ ทำยอดขายในปีแรก เกือบร้อนล้านบาท

ปี พ.ศ. 2557 ผ่านไปหนึ่งปี ทางบริษัทเพิ่มช่องทางการโฆษณาจากเดิมที่ผ่านทาง ออนไลน์ มาเป็นผ่านทางสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์และสื่อโฆษณาภายนอก โดยเลือกดาราระดับแถวหน้าของวงการ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และยังขยายไปห้างโมเดิร์นเทรด และขยายธุรกิจไปในต่างประเทศและเป็นที่ตอบรับได้ดีคือในประเทศจีน ทำยอดขายได้ถึงประมาณ 400 ร้อยกว่าล้านบาท

ปี พ.ศ. 2558 ได้ก่อตั้งบริษัทย่อย บริษัท นามุ ไลฟ์ พลัส จำกัด เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย และผลิตสินค้าให้มีขนาดเล็กลง ให้ลูกค้าทดลองใช้ในร้านสะดวกซื้อ ทำให้มีรายได้ถึง เกือบ 1000 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัท ดูเดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน)ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดย มีธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม คือ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว “SNAILWHITE” ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ (NAMU LIFE) และธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าภายใต้เครื่องหมายการค้าอื่น ซึ่งเป็นธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดเล็ก

กลยุทธ์การตลาดของ SNAIL WHITE

อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Snail white ปังขึ้นมาได้มาดูกันครับ

1.SNAIL WHITE  ได้หาช่องว่างทางการตลาดเครื่องสำอาง

โดยจัดให้ว่างในรูปแบบใหม่ โดยใช้หลักการของ สินค้าคุณภาพราคาประหยัด ทำให้ได้รับความนิยมมากจนทำให้กลายเป็นกลุ่มการตลาดใหม่ของสินค้าเครื่องสำอาง

2.การใช้สื่อที่พบเห็นได้ง่าย

เช่น โฆษณาบนใบบิลบอร์ดใช้พรีเซนเตอร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย  แต่งหน้าบางๆ อวดผิวที่แลดูเป็นธรรมชาติ โชว์รูปผลิตภัณฑ์ให้เห็นได้ชัดและเจอได้บ่อย

3. การตลาดออนไลน์

Snail white  ทำการทำการตลาดผ่านทาง สื่อออนไลน์โดยใช้ พรีเซ็นเตอร์  ที่เป็นดารา ระดับแถวหน้า  หรือ เน็ตไอดอล ในการรีวิวสินค้า สือออนไลน์ เพื่อเป็นการลดต้นทุน ลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนสูง สำหรับบางแบรนด์ เมื่อคนเริ่มรู้จักสินค้าของเราเพิ่มมากขึ้นแล้ว

4. Snail white ผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานของลูกค้าในทุกขั้นตอน เดิม Snail white ที่มีแต่ครีมบำรุงผิวหน้า จนมาถึง ปัจจุบันมี ผลิตภัณฑ์ประเภทบำรุงผิวกาย ผลิตภัณฑ์ประเภททำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด และ ชุดของขวัญ รวม 20 ผลิตภัณฑ์ แทบจะครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าทั้งหมดเป็นการอุดช่วงว่างทางการตลาดที่ดีและเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าอีกด้วย

5. ที่โดนใจลูกค้าชาวจีนในประเทศจีน

โดยเจาะการตลาดคนจีนโดยใช้ดาราไทยที่เป็นที่รู้จักในประเทศจีน รวมถึงใช้ดาราชื่อดังชาวสิงคโปร์และฮ่องกงที่เป็นที่นิยมของชาวจีนมาทำการรีวิวสินค้า เพราะมากจาที่ชาวจีนชอบการรีวิวสินค้าจริงและใช้สินค้าตามดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์และตั้งป้ายโฆษณาจุดที่นักท่องเที่ยวจีนพบเห็นได้ง่ายตั้งแต่เดินทางเข้าประเทศไปจนถึงริมถนนตลอดการเดินทาง และเสริมการตลาดเพิ่มขึ้นโดยวางขายสินค้าตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวจีนอยู่อย่างหนาแน่นทำให้เกิดการซื้อสินค้ากลับไปฝากญาติมิตรที่ประเทศจีน

บทเรียนที่SMEsควรนำมาประยุกต์ใช้

กรณีศึกษาของ Snail white สะท้อนให้เห็นว่า การทำการตลาดของธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือ  SMEs เพื่อจจะเติบโตแข่งกับบริษัทขนาดใหญ่สามารถเป็นไปได้ เริ่มต้นได้จาก

1.การสร้างจุดขายของสินค้า

ในตลาดเครื่องสำอางในยุคนนี้มีคู่แข่งมากมายทั้งรายเล็กรายน้อยไปจนถึงรายใหญ่ระดับประเทศ ทำอย่างไรที่ SMEs จะสามารถเอาชนะเกมส์การแข่งขันนี้ จากกรณีของ  Snail white ทำให้เราเห็นว่า ถ้าเรามีจุดขายที่ดี ก็เป็นช่องทางที่ไปได้ หรือเรียกง่ายๆว่ามี Story ของผลิตภัณฑ์ กรณีของ Snail white คือการเอาเมือกหอยทากนำเข้าจากเกาหลีมาเป็นส่วนผสมทำครีมในแบบของตนเอง ซึ่งนั้นเป็นการสร้างจุดขายได้อย่างชัดเจน สำหรับ SMEs ถ้าเราต้องการขายสิ้นค้าซักอย่างต้องมีการสร้างจุดขาย  ของสินค้าของเราทำให้เรามีความแตกต่างเพิ่มขึ้นและเป็นที่สนใจของลูกค้า

2.การตลาดออนไลน์

อาวุธหนักของ SMEs จากกรณีของ Snail white นั้นในช่วงแรกมีเงินทุนไม่มาก อย่างไรถึงจะเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย คำตอบคือ ตลาดออนไลน์ ไม่ต้องมีเงินลุงทนมาก ก็สามารถขยายตัวเองไปได้ และไม่จำกัดขอบเขต ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ

การทำการตลาดอออนไลน์อย่างเป็นระบบไม่ใช่แค่โพสขายบนเฟสบุ๊คเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองให้ครบทุกมิติว่า วิเคราะห์ให้ชัดว่าลูกค้าจะต้องเห็นสินค้าของเราในช่องทางออนไลน์รูปแบบใดบ้าง ค้นหาเราเจอใน Google ไหม มีรีวิวไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่า มี Blogger พูดถึงสินค้าเราไว้ว่าอย่างไรบ้าง มีเว็บไซต์เป็นของบริษัทหรือเปล่า

สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้สินค้าเติบโตได้ในโลกของการตลาดออนไลน์

3.เสียงลูกค้าคือเสียงสวรรค์

สิ่งที่ SMEs จะอยู่ได้หรือไม่ ต้องฟังเสียงของลูกค้า  SNAIL WHITE  เจาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนโดยจะรับฟังเสียงของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของชาวจีนมากขึ้นจากรณีนี้ ทำให้เราเห็นได้ว่าเราต้องฟังลูกค้าด้วยเพราะลูกค้าเป็นคนชี้ทิศทางของตลาด ไม่ว่าจะบริษัทใหญ่หรือเล็ก หาไม่ฟังเสียงของลูกค้าก็ต้องแพ้ไป

ให้ความสำคัญกับ Feedback เพราะนี่คือพรที่ได้จากลูกค้า การที่ลูกค้ากล้าพูดกล้าแนะนำเราแสดงว่าเขามีความหวังดีกับธุรกิจของเรา

ไม่ดีแน่หาก Feedback เหล่านี้ไม่ได้บอกเราตรงๆ แต่กลับไปโผล่ตามชุมชนออนไลน์เช่น pantip เพราะเสียงที่ไปโผล่ตามสื่อเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็น “ชื่อเสีย” มากกว่า “ชื่อเสียง”

จงปรับปรุงพัฒนาสินค้าจากความต้องการ และเสียงแนะนำจากผู้ใช้จริง อย่าใช้มโน

4.โฟกัส โฟกัส โฟกัส

เมื่อจับตลาดและทิศทางของธุรกิจได้จงโฟกัสสินค้าเป็นกลุ่ม ๆ แล้วค่อยขยายไลน์ธุรกิจ ออกสินค้าใหม่เพิ่มในกลุ่มเดิม หรือขยายฐานลูกค้าออกไปเพิ่มจากสินค้าเดิมที่มีอยู่

ความสำเร็จของ Snail White ที่ก้าวมาถึงวันนี้เพราะ โฟกัสสินค้าแค่เพียงตัวเดียว จนเป็นที่รู้จัก ขยายตลาดไปต่างประเทศ แล้วค่อย ๆ มีสินค้าใหม่เพิ่ม

SMEs อย่างเราอย่าเพิ่งเร่งรีบออกสินค้าให้มากจนขาดการ โฟกัส เพราะจะทำให้เราทำงานกันแบบสะเปะสะปะ โน่นก็จะเอา นี่ก็จะทำ อย่างนี้โอกาสล้มเหลวทุกอย่างมีสูง

            ดั่งสุภาษิตคำพังเพยที่ว่า “รู้อะไรให้กระจ่างเพียงอย่างเดียว จงให้เชียวชาญเถิดคงเกิดผล”

บทสรุปบทเรียนจากกรณีศึกษา Snail White

กรณีของ Snail white  เป็นกรณีศึกษาที่ดีของ SMEs  ว่าสินค้าที่ดีทำให้ SMEs โตได้ ไม่ยาก เพียงแค่ไม่ถึง 10 ปี จาก SMEs ขนาดกลางโตขึ้นเป็น บริษัทมหาชน มันอาจจะไม่ง่ายมากแต่มันเป็นไปได้ และมันเป็นไปแล้วจริงๆ

ขนาดของบริษัทใหญ่หรือเล็ก ไม่สำคัญหากสินค้าเราดี  มีช่องทางการตลาดที่ดี เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด  ปรับเปลี่ยนตามเวลาและสถานการณ์   เหมือนนิทานอีสป เรื่องแจ็คผู้ฆ่ายักษ์  ถ้าเปรียบว่า แจ็คคือ SMEs  ที่จะล้มยักษ์ที่คือบริษัทใหญ่ แจ็คไม่ได้ใช้แรงแค่ใช้สมองกับสติปัญญาก็เอาชนะยักษ์ได้

ใครจะรู้ต่อคุณอาจเป็น “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์”คนต่อไปก็ได้ใครจะรู้