“รถยนต์” กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนไปแล้วในยุคปัจจุบัน หลายคนพยายามซื้อหารถยนต์มาเป็นของตัวเองเพื่อใช้ในการเดินทาง

โดยทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นจาก นโยบาย โครงการรถอีโก้คาร์ ตั้งแต่ ปี 2560-2561 ทำให้ยอดขายรถยนต์เติบโตขึ้นพร้อยส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับรถยนต์มียอดขายเพิ่มขึ้นตาม อุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้อานิสงค์นี้คือ อุตสาหกรรมยางรถยนต์

บริษัทยางรถยนต์ต่างประเทศหลายบริษัทย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทยเพราะประเทศมีวัตถุดิบที่คุณภาพดีและราคาถูก โดยเฉพาะบริษัทยางของประเทศจีนหลายบริษัทเข้ามาตั้งโรงงานขนาดใหญ่เพื่อตอบสนองตลาดยางรถยนต์ “จงเช่อ รับเบอร์” เจ้าของยางรถยนต์ยี่ห้อ “WESTLAKE” คือหนึ่งในกลุ่มนั้น บริษัทยักษ์อย่าง “จงเช่อ รับเบอร์” เห็นอะไรในประเทศไทยจึงได้มาลงทุน เราลองมาดูกัน

ประวัติความเป็นมา

“จงเช่อ รับเบอร์”เจ้าของแบรนด์ “WESTLAKE”  ได้เข้ามาลงทุนการสร้างโรงงานวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 บนเนื้อที่ทั้งสิ้น 1,000,000 ตารางเมตรโดยใช้เวลาในการสร้างเพียงแค่ 6 เดือนโดยคนงานก่อสร้าง 2,500 คนในวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 โดยยางรถยนต์นั่งเส้นแรกได้ถูกผลิตขึ้นในโรงงานจงเช่อรับเบอร์ (ประเทศไทย) และทางโรงงานได้ตั้งแผนกำลังการผลิตจำนวน 5 ล้านเส้นภายในกลางปี 2558

การสร้างโรงงานจงเช่อรับเบอร์ (ประเทศไทย) ครั้งนี้ยังสร้างสถิติใหม่ให้แก่ จงเช่อรับเบอร์กรุ้ปในการใช้ระยะเวลาในการสร้างอันสั้นและเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุดในขณะนี้ในการผลิตยางรถยนต์และการตรวจสอบยางยนต์ทุกเส้นหลังจากการผลิตโดยอุปกรณ์อันทันสมัยจากประเทศเยอรมนีประเทศญี่ปุ่นและประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลิตยางในชื่อ  “WESTLAKE  (Thailand)” โดยมีผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์อย่างเป็นทางการคือ บริษัทอินนิเชียลไทร์แอนด์แอ็คเซสซอรี่จำกัด

จุดเด่นของยาง WESTLAKE

ถ้าขึ้นชื่อว่ายางรถยนต์ก็มีวันที่จะเสื่อมได้เป็นธรรมดาถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน นั้นเป็นเรื่องของคนที่ใช้รถยนต์ทุกคนคงทราบดี คำถามโลกแตกก็ตามมาว่า เปลี่ยนยางยี่ห้อไหนดี?คำตอบที่ได้ยินคือ “ยางดี” ความหมายของยางดีในที่นี้ไม่ใช่แค่ “คุณภาพดี”เท่านั้น แต่ต้องมีแบรนด์ที่เชื่อถือได้ มีชื่อเสียงระดับโลก

สำหรับคนไทยจะชอบไม่กี่แบรนด์ที่คุ้นหูกันดี ไม่ว่าแบรนด์ฝรั่งหรือญี่ปุ่น ถ้าคุ้นหูก็ต้องบอกว่าราคาแพงน่าดู แต่สำหรับคนที่ไม่ติดแบรนด์แต่ติดตรงราคาก็เป็นยางแบรนด์จีน  แค่ชื่อหลายคนก็คงถอย เพราะยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ของแบรนด์มาใช้

1.ฐานผลิตอยู่ในไทย

การที่ WESTLAKE ใช้ฐานการผลิตโรงงานที่ประเทศไทย ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่การันตียืนยันคุณภาพได้ ซึ่งถ้าเทียบจากอันดับผู้ผลิตยางอันดับ 1-10 ของโลก จะเห็นได้ว่า 7 ใน 10 โรงงาน ได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเช่นกัน เนื่องจากคุณภาพวัตถุดิบ, และความพร้อมในการผลิตด้านต่างๆ จึงส่งผลให้ยางรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นที่ยอมรับเรื่องคุณภาพสินค้าจากผู้ใช้ทั่วโลก เรียกว่า WASTLAKE อาจยังไม่ดังในเมืองไทยเพราะเพิ่งเข้ามาได้เพียง 3 ปี แต่ถ้าในระดับโลก เจ้านี้นี่ก็หนึ่งในตองอูเลยล่ะ เพราะพิสูจน์มาแล้วถึง 60 ปีเลยทีเดียว

2.คุณภาพดี ทนทาน

ยางรถยนต์ WESTLAKE มีจุดแข็งยางคือ “ความทนทาน” และ ดอกยางคุณภาพ โครงสร้างได้รับการออกแบบมาให้ใช้กับงานทุกประเภท

3.ราคาประหยัด เพราะฐานผลิตอยู่ในไทย

สิ่งสำคัญต่อมาคือ “ราคา”  ของยาง WESTLAKE มีราคาขายที่ต่ำกว่ายางรถยนต์แบรนด์ของฝรั่งและแบรนด์ของญี่ปุ่น โดยที่คุณภาพและมาตรฐานที่ไม่แตกต่างกันมาก เพื่อให้กลุ่มคนที่มีงบประมาณจำกัดในการเปลี่ยนยางหันมาสนใจเพิ่มขึ้น

4.เลือกทีมดีลเลอร์คุณภาพทั่วประเทศ

ยาง WestLake หาซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายยางคุณภาพได้ทั่วประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าซื้อรถจากจังหวัดไหน ก็สามารถเปลี่ยนยางได้จากร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ได้อย่างแน่นอน

กลยุทธการขยายธุรกิจ

การขยายธุรกิจของยางรถยนต์ WESTLAKE ในประเทศไทยโดยการแต่งตั้ง บริษัท อินนิเชียล ไทร์ แอนด์ แอ็คเซสซอรี่ (ITAC)  ซึ่งเป็นบริษัทพันธ์มิตรตัวแทนผู้จำหน่ายเจ้าเดียว มีทีมงานขายที่มีความสามารถสามารถในการทำตลาดไปสู่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ จุดที่แตกต่างจากบริษัทยางอื่นคือมีการส่งทีมงานเข้าไปช่วยตรวจสอบสินค้าตลอดอายุสินค้า  มีบริการหลังการขายที่ดี ทำยางรถยนต์ WASTLAKE เป็นที่ตอบรับของลูกค้าเป็นอย่างดี

กลยุทธ์นำเสนอตัวเองผ่านกีฬาแข่งรถ WESTLAKE ได้เสนอตัวเข้าเป็นผู้สนับสนุนทีมแข่งรถ เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทีมแข่งรถ “WESTLAKE TYRES” โดยทีมรถแข่งดังกล่าวได้นำเอายางของ WESTLAKE เข้ามาใช้การแข่งขันในสนาม เพื่อเป็นการพิสูจน์ประสิทธิ์ภาพของสินค้าให้มีความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างมาก ผลงานของทีมแข่งของ “WESTLAKE TYRES” เป็นลำดับต้นๆ ในประเทศไทย และหลายครั้งที่ขึ้นเป็นผู้ชนะการแข่งขัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การกลยุทธ์ขยายธุรกิจแบบกลุ่มตลาดกลางโดย ชูแนวคิดว่ายาง WESTLAKE ที่ผลิตในประเทศไทยมีมาตรฐานอยู่ในระดับสากล ในราคาที่ไม่แพงโดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาไม่แพง และที่สำคัญคือสินค้าหลากหลายชนิดตั้งแต่ยางรถจักรยานยนต์ไปจนถึงยางรถยนต์รถบรรทุก นั้นทำให้การสร้างทางเลือกให้กับลูกค้าได้มีสิทธ์เลือกเพิ่มมากขึ้นได้เป็นอย่างดี

 

สิ่งที่ SMEs ควรนำกรณีศึกษามาปรับปรุงธุรกิจ

1.สินค้าคุณภาพ คือสิ่งสำคัญ

WESTLAKE ได้เข้าสู่สังเวียนของตลาดยางรถยนต์ ที่มีการแข่งขันกันสูง แต่กว่าที่ WESTLAKE สามารถขึ้นมาเป็นกลุ่มผู้นำของตลาดยางของประเทศไทย ได้นั้น WESTLAKE ต้องผ่านคำสบประมาทมากมายว่าเป็นของจีน ไม่มีคุณภาพดีเท่ากับยี่ห้อที่มาจากยุโรป อเมริกา หรือ ญี่ปุ่น  แต่ WESTLAKE ก็มีหลักการที่ว่าผลิตยางที่มีคุณภาพได้มาตรฐานในราคาที่ไม่แพงโดยใช้วัตถุดิบยางภายในประเทศที่มีคุณภาพที่ดีมาผลิตยางรถยนต์ สิ่งที่ SMEs สามารถนำไปใช้ได้คือ การผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานที่ดีถึงแม้ SMEs ที่พึ่งเริ่มอาจจะยังไม่มีชื่อเสียงแต่หากเราได้ผลิตสินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพได้มาตรฐาน

2.มีพันธ์มิตรเก่งไม่เหนื่อย

WESTLAKE ได้ร่วมธุรกิจกับ ITAC ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ผลิตยางรถยนต์เป็นมาเวลานาน โดย WESTLAKE เลือกที่จะร่วมกับ ITAC เพราะ ITAC มีทีมงานที่มีความสามารถ และมีเครือข่ายการตลาดยางอยู่ทั่วประเทศ นั้นคือความได้เปรียบที่ทำให้ WESTLAKE  สามารถเข้ามาตีตลาดได้ สิ่งที่ SMEs สามารถนำไปใช้ได้คือ การหาเลือกพันธ์มิตรที่มีความเก่งนั้นทำให้ SMEs ไม่เหนื่อยมากเกินไป เราสามารถวางใจได้ หรือถ้าตัวแทนสินค้าหรือบริการเราขายของได้เก่ง หรือบริการได้ดี ทำให้สินค้าขายได้ เราก็ประหยัดแรงและเวลา

3.ประสบการณ์จากมืออาชีพ

WESTLAKE ได้เดินแผนการตลาดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การเข้าไปสนับสนุนทีมรถแข่งที่มีความสามารถโดยเอาผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปลงสนามจริง และทำให้ทีมประสบความสำเร็จสามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นทีมยางคู่แข่ง ทำให้ชื่อเสียงของ WESTLAKE เป็นที่รู้จักและมียอดขายเพิ่มขึ้น จากจุดนี้ SMEs นำหลักการ Influencer Marketing โดยใช้ผู้มีความรู้ความชำนาญด้านนั้นๆมานำเสนอสินค้าหรือมาใช้สินค้าของเราจริง และโฆษณาให้ว่าได้ผลดีนั้นทำให้ผู้ติดตามเหล่าหันมาใช้สินค้าของเราได้ไม่ยาก

จากกรณีศึกษาของ WESTLAKE ทำให้เรารู้ได้อย่างหนึ่งว่ายุคหนึ่งสินค้าจากประเทศจีนนั้นเป็นของโหลไม่มีคุณภาพดีพอ ไม่มีใครอยากใช้ ไม่มีคุณภาพ แต่ตอนนี้  WESTLAKE ได้ทลายกำแพงพวกนี้ได้ หัวใจที่สำคัญคือ WESTLAKE ได้ตั้งฐานการผลิตที่ประเทศไทย ที่มีวัตถุดิบยางที่ดีมีคุณภาพ และราคาไม่สูง ทำให้ WESTLAKE เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีงบประมาณจำกัดสามารถใช้ยางที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้

SMEs หลายคนอาจจะเคยถ้อใจว่าทำยังไงก็ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่เป็นเจ้าตลาดเดิมได้ แต่จริงๆถ้าเราเอา หลักการของ WESTLAKE มาใช้ก็สามารถที่จะยื่นอยู่ในธุรกิจได้ไม่ยาก เพียงแต่เราใช้คำว่า “คุณภาพและราคา” มาเป็นจุดแข็งเพื่อเอาชนะสินค้าแบรนด์ดังได้แต่มันอาจต้องใช้เวลาหน่อยกว่าจะมีลูกค้าเริ่มเห็นในคุณภาพและจะหันมาซื้อของเราในไม่ช้านานนัก เหมือนดังคำกล่าวสุภาษิตจีนที่ว่า “หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน“