สินค้าที่ขายไม่ได้ อาจจะไม่ใช่สินค้าไม่ดี แต่อยู่ที่เราทำให้คนเห็นไม่มากพอ อาจเป็นพลังงานบางอย่างที่คนค้นหาไม่เจอก็เป็นได้….

สินค้าดีแต่ขายไม่ได้โดยส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์นั้นเพราะขาดความเข้าใจ และการลงมือทำการตลาดแบบครบวงจร มุ่งเน้นทำตลาดเพียงแค่ช่องทางเดียว ไม่สามารถสร้างประสบการณ์การที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย (Customer Experience)

ปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างประสบการณ์การ “การค้นพบ” หรือการ “มองเห็น” สินค้าบริการของเราบนโลกออนไลน์ได้คือการทำให้สินค้า บริการ หรือ เว็บไซต์ของเราติดอันดับดีๆ บน Google

ทำไม สินค้า บริการ หรือเว็บไซต์ของเราต้องติดอันดับหน้าแรกใน Google

เพราะการตัดสินใจซื้อสินค้า บริการโดยส่วนใหญ่ ไม่ได้เกิดจากการซื้อด้วยการเห็นสินค้าเพียงแว็ปเดียวแล้วสั่งซื้อ โอนเงิน เสียเมื่อไหร่กัน

แต่การซื้อของกลุ่มเป้าหมาย เกิดจาก “กระบวนการ” ตัดสินใจนั้นเกิดจาก

“เห็น สนใจ ค้นหา เปรียบเทียบ ซื้อ”

นั่นคือกระบวนการกว่าคน ๆ หนึ่งจะ “ซื้อ” สินค้าอะไรสักอย่าง

แล้วสินค้า บริการของเรา ทำได้ครบทั้ง 5 ขั้นตอน ในกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าหรือยัง เพื่อให้เห็นภาพผมนำภาพพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายมาให้ท่านดูว่าขั้นตอนประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

  1. See กลุ่มเป้าหมายของเราอาจจะมองเห็นสินค้าของเรา จาก Online Social ไม่ว่าจะเป็น

Facebook,IG,Youtube ,Twitter หรือ อาจจะเห็นบน Offline Social ตามร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ (กรณีที่เรามีสินค้าวางจำหน่ายนะ)

การทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็น อาจจะทำได้ด้วยการโพส หรือ แชร์ แต่เท่านี้มันก็คงยังไม่พอเสียทีเดียวครับ เพราะเขาอาจจะเห็นแค่ครั้งเดียว เห็นแล้วก็ผ่านเลยไป หากต้องการให้เขาเห็นแล้วสนใจ มาเป็นลูกค้า สิ่งที่ต้องทำก็คือการลงโฆษณาสินค้าครับ จะทำให้คนเห็นบ่อยขึ้น กระตุ้นความสนใจเขามากยิ่งขึ้น

  1. Search เมื่อเขาเห็นจนเกิดความ “สนใจ” มากพอ เขาอาจจะทักเราเข้าไปทาง Social ต่างๆ บ้าง แต่ก็มีไม่น้อย

ทีเดียวเขาอาจจะ “สืบค้น” หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า บริการของเรา เขาจะเข้าไปหาข้อมูลที่ “Google” ครับ และโดยส่วนใหญ่ SMEs ก็จะตกม้าตายที่ตรงนี้ครับ เพราะมักจะค้นหาไม่เจอสินค้า บริการของเรา

กลุ่มเป้าหมายเขาค้นหาข้อมูลเพื่อ ดูสิว่า สินค้าของเรามีความน่าเชื่อถือไหม มีเว็บไซต์หรือเปล่า มีที่ตั้งจริงๆ ไหมไม่ใช่ไม่มีหลักแหล่ง เขากลัวโอนเงินไปแล้วไม่ได้ของ

นอกจากนั้นเขายังจะดูสิว่า มีใครรีวิวสินค้าบริการของเราบ้างหรือเปล่า หรือ มีใครเครมสินค้าเราไว้ที่เว็บบอร์ดไหนบ้าง ถ้ามีรีวิวดีๆ ไว้ก็จะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น แต่หากมีคนเครม บ่นว่าสินค้าเราในเว็บบอร์ด ก็จะทำให้สินค้าเราดับทันที

ยิ่งเขาสามารถค้นหาเจอ “สินค้า บริการ” ของเราใน Google มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เขามีความมั่นใจในสินค้าเรามากขึ้นเท่านั้น ถ้าหาไม่เจอเลย โอกาสในการขายได้แทบหมดไปเลยทันที

  1. Shop เปรียบเทียบความคุ้มค่า สั่งซื้อสินค้าตามช่องทางที่เขาสะดวก ไม่ว่าจะเป็น Marketplace ต่าง ๆ หรือ

แม้กระทั่งทางระบบ Messenger เช่น Line,Facebook Messenger ที่เขามักจะทักมาสอบถามราคาหลังจากที่ค้นหาข้อมูลสินค้าเราจนมั่นใจมากพอ

สินค้าเราหากมีช่องทางขายที่หลากหลายก็จะเพิ่มยอดขายให้เราได้มากยิ่งขึ้นนะ !! บางคนไม่ชอบคุยเขาก็ซื้อใน Marketplace ไปเลย (สินค้าเรามีใน Marketplace หรือยัง และค้นหาเจอบน Google ไหม) บางคนต้องสอบถามพูดคุยให้มั่นใจก็ซื้อทาง Line

เมื่อเรารู้แล้วว่าพฤติกรรมของคนบนโลกออนไลน์เป็นแบบนี้ คำถามที่เราควรต้องย้อนกลับมาถามตัวเราเองก็คือ “วันนี้เราได้วางระบบ เพื่อให้ลูกค้าเจอสินค้าเรามากพอหรือยัง” และเราจะ “ยอมทิ้งโอกาสในการขายให้กับคู่แข่ง” ที่เขาทำมาเป็นระบบอย่างนั้นหรือ

คุณเลือกได้ว่าจะ “ทำ” หรือ “ไม่ทำ” ครับ เพราะนี่คือ “ธุรกิจของคุณ”

ทําอย่างไรให้เว็บติดอันดับต้นๆของ google

หากคุณเลือกที่จะ “สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า” บนโลกออนไลน์ คุณก็ควรจะต้องทำความเข้าใจครับว่าแล้วจะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของเราค้นหาเจอบน Google ส่วนรู้แล้วจะทำเอง หรือ จะจ้างให้ Outsource ทำก็เป็นอีกเรื่องนะครับ เพราะบางอย่างผมก็แนะนำว่าให้ทำเอง และอีกหลายอย่างผมแนะนำว่าให้คนที่เชี่ยวชาญทำจะดีกว่ามาก

แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ก่อนว่า “อะไรเราทำได้” และ “อะไรควรจ้าง Outsource” ทำ มีอะไรบ้างมาดูกันดีกว่าครับ

2 ปัจจัยหลักที่จะทำให้เว็บไซต์เราติดหน้าแรกบน Google

1.บ้านของเรา (On page)

2.ป้ายบอกทาง (Off page )

ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เพื่อให้ท่านเห็นภาพ ตามนี้นะครับ

1.บ้านของเรา (On page)

1.1 โครงสร้างร้านของเราเหมาะสมไหม ?

บ้านของเรา หรือ ร้านค้าออนไลน์ของเรา มีโครงสร้าง การจัดร้าน ที่เป็นระเบียบ น่าเข้ามาดูมาชมมากน้อยขนาดไหน เข้ามาในร้านเราแล้วสามารถหยิบจับ เลือกซื้อสินค้าได้ง่ายหรือเปล่า

หากร้านเราวางของระเกะระกะ จะหาอะไรทีต้องเสียเวลากันเป็น สิบ ยี่สิบ นาทีแล้วละก็ โอกาสที่ Google จะจัดอันดับเราให้ได้อันดับดี ๆ นั้นเข้าขั้นยากเลยนะครับ

ต้องเข้าใจว่า Google จะมีหน่วยงานอัตโนมัติที่เขาเรียกว่า “Bot” ซึ่งก็มีอยู่หลายตัว ซึ่งทำหน้าที่ในการเข้ามาดูข้อมูลในร้านเรา และมาดูว่าเราทำกฎตามระเบียบที่ถูกต้องหรือเปล่า หากเข้ามาเห็นด่านแรกร้านไม่น่าเข้าแล้ว มันก็ออกไปไม่จัดอันดับให้เราอย่างแน่นอนครับ

สิ่งสำคัญผมเน้นว่าหากคุณต้องการที่จะทำการค้าขายบนโลกออนไลน์อย่างจริงจัง คือคุณต้อง “มีเว็บ” เป็นของตัวเอง ไม่หวังพึ่งแค่ Facebook,IG หรือ Youtube เพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่ง

1.2 เนื้อหาสาระที่อยู่ในเว็บเรา

Content หรือ เนื้อหาในเว็บเราเป็นประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย หรือ ลูกค้ามากน้อยขนาดไหน ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญ หากเนื้อหาไม่น่าสนใจ ไป Copy หรือลอกคนอื่นเขามา Google ก็ไม่เก็บข้อมูลซ้ำ Google ต้องการความสดใหม่ ไม่ซ้ำใคร และโดนใจคนอ่านจริงๆ

เมื่อโดนใจคนอ่านแล้ว ก็ควรที่จะวางเนื้อหาให้เป็นไปตามเงื่อนไข (ไม่ได้บังคับนะ แต่ถ้าทำได้ก็จะเป็นประโยชน์) ของ Google ด้วย

หลักเกณฑ์เบื้องต้นของ Google ในการพิจารณา On page Content

ดูแล้วมันคืออะไรกันนะ ผมสรุปให้สั้น ๆ คือ “บทความเราต้องมี Keyword หรือ คำค้นหา” ปรากฏอยู่ในหัวข้อ Content และอยู่ในเนื้อหาที่เราเขียนในปริมาณที่เหมาะสม มีการจัดหมวดหมู่เนื้อหาที่ชัดเจน

สำหรับตัวอย่างการสร้าง Content On Page ที่ดี คนอ่านโดนใจ และ ได้มาตรฐาน Bot Google ก็จะได้ผลลัพธ์ดังภาพเช่น  คำค้นหา ขายออนไลน์อะไรดี และ เปิดร้านอาหารขนาดเล็ก เป็นต้น ผลลัพธ์ก็จะได้จัดอันดับดีๆ บน Google

อยากได้บทความ Content ดีๆ ถูกหลัก Google > บริการเขียน Content เน้น SEO

1.3 ป้ายบอกทาง (Off Page SEO)

ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ถ้าวันนี้เราเป็นเราจะเดินทางไปที่ไหนสักแห่งเราจะทำอย่างไร หลายคนบอกว่าจะใช้ Google Map นำ อื่มนั่นแหละ เราเห็นแผนที่ใช่ไหม เห็นเส้นทางใช่ไหม อย่างน้อยมันก็ทำให้เราอุ่นใจใช่ไหมว่าเราน่าจะมาถูกทาง แล้วถ้าไม่มี Google Map หละ หรือ ไม่มีแผนที่หละ ดันหลงเข้าไปในป่าจะทำอย่างไร หรือ เจอป้ายบอกทางที่ผิดหละจะเกิดอะไรขึ้น

หลง !!! ทางเสียเวลา หลง Off page มาอันดับก็ไม่วิ่ง…

หากเราไม่ทำป้ายบอกทาง เจ้าบอท หรือ ระบบ Google กว่าจะหาเราเจอมันก็นาน บางทีอาจจะรอเป็นชาติ หากเราช่วยให้บอกเส้นทางให้ Google รีบเข้ามาเก็บข้อมูล แล้วช่วยไปจัดอันดับดี ๆ มันจะโอเคกว่าไหม

กระบวนการทำ Off page ในความเห็นผมมันก็คือการพยายามหาป้ายบอกทาง เพื่อทำทางเดินหรือสะพานบอท มาให้ถึงเว็บไซต์เราอย่างง่ายและสะดวกที่สุด

แล้วจะนำป้ายบอกทางไปปัก ไปใส่ไว้ที่ไหนบ้าง ทำได้ดังรูปครับ

ทำได้หลายช่องทางครับ แต่ปัญหาก็คือ แล้วที่ว่ามานี่มันหาได้จากที่ไหนบ้างหละ นั่นหละครับคือความยากในการทำ เขาจึงมีอาชีพที่รับทำ SEO และโดยส่วนใหญ่เขาก็จะใช่แหล่ง Backlink ที่เราไม่รู้นี่แหละครับ เป็นแหล่งปักป้ายบอกทางให้กับเว็บของเราครับ

ผมวงกลมสีแดงไว้ให้ท่านเห็นเกี่ยวกับ Directory Submission ไว้ก็เพราะว่า Directory เป็น 1 ในเครื่องมือที่จะแนะนำให้ทุกท่านรู้จักครับ และจะเป็นตัวช่วยให้ท่านได้ ป้ายบอกทางที่มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งท่านเองก็จะได้ Micro Sale Page เพิ่มอีก 1 ลิ้งค์

นานแค่ไหนเว็บไซต์เราจึงจะติดอันดับดีๆ ใน Google

เมื่อเราทำแล้ว SEO ทั้ง ในบ้าน และ ป้ายบอกทางเรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปหาก

เว็บใหม่ ๆ ที่เพิ่งสร้าง ก็อาจจะใช้เวลา 6- 7เดือนในการไต่อันดับขึ้นมา บนเงื่อนไขที่ว่าเรามีการอัพเดตเนื้อหา Content อย่างต่อเนื่องนะครับ

ส่วนเว็บที่มีอยู่นานแล้ว หากไม่มีการอัพเดตเนื้อหาอะไรใหม่ ๆ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่มากนะครับ หากเคยติดอันดับไม่ทำอะไรเพิ่ม อันดับก็ลดลงได้ครับ

ระบบ Automatic SEO ดันเว็บให้ติดหน้าแรก Google ด้วย Micro Sale page คืออะไร

ในเมื่อกว่าเว็บใหม่เราจะติดอันดับก็กว่าครึ่งปี แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรได้ !!! ผมทางลัดให้ครับ เราก็ใช้วิธีการสร้าง Micro Sale Page ไว้ในเว็บ Directory ที่ผมกล่าวถึงมาเบื้องต้น เป็นการยิงนกครั้งเดียวได้นกถึง 2 ตัว

ตัวที่ 1 คือ เราได้หน้า Micro Sale Page บน Directory ที่มีความน่าเชื่อถือ วาง Keyword รายละเอียดดี ๆ โอกาสในการติดอันดับ มันก็เป็นไปได้แบบรวดเร็วขึ้นครับ ไม่ต้องรอไปถึงครึ่งปี เผลอๆ 1-2 สัปดาห์อาจจะเริ่มเห็นผลความเคลื่อนไหวแล้วครับ

ตัวที่ 2 เราได้ “ป้ายบอกทาง” หรือ Backlink ที่มีความน่าเชื่อถือสูง นั่นเท่ากับว่า Google ก็ให้เครดิตเรามากยิ่งขึ้นเช่นกัน เป็นตัวช่วยเร่งให้เว็บเราค่อยขยับอันดับขึ้นมากได้เช่นกันครับ

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ

การนำข้อมูลเราไปลงในเว็บ Directory เราแทบไม่ต้องมีความรู้ในการทำ SEO อะไรมากมายนักครับ แค่รู้หลักการเล็กๆ น้อย ๆ ตามที่ผมกล่าวมาข้างต้นก็เพียงพอแล้วครับ

เหมือนเราเอาตัวเราเองไปฝากเนื้อฝากตัวกับผู้หลักผู้ใหญ่ให้เขาคอยเอ็นดูเราครับ เท่านี้ก็รุ่งครับ

ตัวอย่าง Micro Sale page ที่ติดหน้าแรก Google

เราลองมาดูตัวอย่างการทำ ป้ายบอกทาง แบบ Automatic SEO และการทำ Micros Sale Page กันครับว่าทำแล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไรกับบ้าง

วิธีการสร้างระบบ Automatic SEO ดันเว็บให้ติดหน้าแรก Google ด้วย Micro Sale page

เห็นตัวอย่างแล้วว่า เจ้า Micro Sale Page สามารถที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมเลยใช่ไหมครับ สามารถทำให้สินค้าเราติดอันดับดี ๆ บน Google ไม่ว่าจะเป็นหน้า Micro Sale Page,รูปภาพ หรือ คลิป VDO ชักเริ่มจะสนใจแล้วใช่ไหมหละครับ

สอบถามบริการ สั่งซื้อระบบ แพ็คเก็จ ระบบ Automatic SEO ดันเว็บให้ติดหน้าแรก Google ด้วย Micro Sale page

บริการอบรม ให้คำปรึกษา การทำให้สินค้าค้นหาเจอบน Google การทำ Digital Marketing & Brand Storytelling ทั้งแบบรูปแบบองค์กร กลุ่ม และ ตัวต่อตัววิทยากรการตลาดออนไลน์