ผมเชื่อว่ามีมนุษย์เงินเดือนอีกหลาย ๆ คนที่มีความฝันว่า อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และอยากจะเป็นเจ้านายตัวเองอยากใช้ชีวิตได้อิสระตามใจ โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร  ไม่มีใครอยากเป็นลูกน้องคนอื่นไปจนตายหรอกครับ

มีอีกหลายๆ คนที่ตัดสินใจกระโดดออกจากงานแล้วมาทำตามความฝัน กลับพบว่าโลกแห่งความจริงมันแตกต่างกับสิ่งที่ฝันไว้มาก บางคนผิดหวังก็กลับไปทำงานประจำอีกครั้ง บางคนต้องหยุดฝันและไม่ไปต่อ เพราะธุรกิจพังทลายหายไปในพริบตาผมคิดว่า มันเป็นสัจธรรมที่ตอกย้ำว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จได้ตามที่ฝันไว้

อยากมีรายได้เพิ่ม ต้องทำอย่างไร ?

วางแผนให้ชัดเจน

การทำงานประจำในทุกๆวัน คือ การทำงานที่มีคนวางแผนให้เราทำตามแผนงานนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายที่สั่งงานเพื่อ ให้คุณทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แต่การทำธุรกิจส่วนตัวเป็นงานที่คุณจะต้องมีการวางแผนด้วยตัวเองล้วน ๆ

เพราะคุณเองก็ได้เปลี่ยนสถานะจากลูกจ้างมาเป็นเจ้าของ ทำให้ต้องมีการวางแผนทุก ๆ อย่างเกี่ยวกับธุรกิจ สิ่งที่ทำให้เห็นความแตกต่างก็คือความเหนื่อย ความยาก และความท้อ

ผมว่าหากยังทำงานประจำได้ไม่ดี อย่าหวังว่าธุรกิจจะไปรอด ก่อนจะเปิดธุรกิจใด ๆ ก็ตามคุณจะต้องมีความชำนาญหรือมีการศึกษาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับร้านค้าหรือบริการที่จะเปิด

ยิ่งในสมัยนี้มีหลายๆ คนหันมาทำธุรกิจควบคู่กับการทำงานประจำไปด้วยทำให้ต้องยิ่งมีการวางแผนมากขึ้น เพราะการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการทำงานประจำนั้น หากคุณพลาดเรื่องธุรกิจมา อย่างน้อยก็ยังมีงานประจำและรายได้ประจำรองรับ

แต่หากคุณมีการวางแผนตั้งแต่ขั้นตอนแรกๆ จนถึงขั้นตอนการขาย ก็อาจจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

แรงบันดาลใจ

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของการทำธุรกิจก็คือ ต้องมีการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อไปให้ถึงฝันแต่ในความเป็นจริงก็คือ สิ่งที่คุณต้องลงมือทำ มีหลายๆคนที่อยากจะออกจากงานและความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองควรทำธุรกิจอะไร

หลายคนตกม้าตายเพราะดันตัดสินใจเร็วและลาออกจากงานไปตายเอาดาบหน้า แต่พอออกจากงานมาก็เคว้งคว้างและไม่คิดจะทำอะไรต่อ ซึ่งหากต้องการมีรายได้เสริมจริงๆ ก็ควรอยู่นิ่งๆกับตัวเอง เพื่อใช้เวลาในการคิดตัดสินใจให้ดีเสียก่อนอย่าอิงกระแสแฟชั่น ว่าอะไรกำลังดัง เราทำดีกว่า ฯลฯ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด ให้ลองค้นหาตัวเองให้เจอจะได้รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร

เพราะการขายสินค้าหรือบริการหากคุณเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญหรือชำนาญการอยู่แล้ว เชื่อว่าอาจจะไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมมาก ลูกค้าถามอะไรมาตอบได้หมดนั้น เพราะเป็นความถนัดของคุณหรือเพราะคุณทำการบ้านมาดี ทำให้คุณมีความกระตือรือร้นในเรื่องที่ถูกถาม และต้องการอยากจะเฉลยคำตอบเร็วๆและยังเป็นการเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย

การทำอะไรตามกระแสนั้นอาจทำให้การทำธุรกิจหรือบริการนั้นอยู่ได้ไม่นานก็เบื่อ แต่การทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองนั้น ผมบอกได้เลยว่าอยู่รอด เพราะงานที่คุณรักนั้นคืองานที่คุณสามารถอดทนทำมันได้ตลอดชีวิต

ซึ่งหากคุณคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังทำนั้นเป็นแค่เพียงกระแส แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่า มันจะรองรับชีวิตที่เหลืออยู่ในอนาคตได้ครับ  และยิ่งต้องทำงานประจำไปด้วยหารายได้เสริมหรือทำธุรกิจไปด้วยโดยไม่มีความถนัดอาจจะทำให้ปิดตัวได้โดยเร็ว หรือช่วงเวลาทำงานประจำก็ไม่ควรไปให้ความสนใจกับธุรกิจตัวเองมากเกินไป

เพราะอาจทำให้งานประจำเสียควรคิดแค่เรื่องงาน เพราะคุณถูกจ้างมาให้ทำงานเต็มที่ส่วนธุรกิจเสริมนั้น อาจทำเมื่อมีเวลาว่างหรือ ช่วงที่ไม่ได้กำลังทำงานประจำจะดีกว่า

ถึงแม้คุณจะอ้างว่า คุณได้เปิดการขายของสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ตก็ตาม ที่แม้อาจจะเจียดเวลาหรือแวบเข้ามาตอบคำถามลูกค้า หรือรับออเดอร์ แน่นอนว่า อาจใช้เวลาไม่นาน แต่มันก็คือการเบียดเบียนเวลาทำงานประจำ และอาจทำให้คุณทำงานได้ไม่เต็มที่ทั้งสองอย่างก็ได้

แต่สำหรับใครที่มีการเตรียมตัวมาดีเพื่อทำอาชีพเสริมควบคู่ไปกับการทำงานประจำ โดยมีการวางแผนตั้งแต่เริ่มต้น และไม่เป็นการเบียดเบียนงานประจำมากเกินไปก็อาจจะทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงได้ คุณสามารถใช้เวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุด ผมคิดว่าหากต้องการได้ดีกว่าคนอื่นก็ควรที่จะขยันมากกว่าคนอื่น

แม้จะเลิกงานมาเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องอดทนด้วยการอดหลับอดนอนและให้เวลากับธุรกิจด้วย ซึ่งดีกว่าการลาออกมาตายเอาดาบหน้าแต่ไม่ยอมเตรียมอะไรมารองรับเลยผมว่าไม่ช้าก็เร็วอาจจะพังกันไปข้าง

การเตรียมตัวสำหรับธุรกิจควบคู่ไปกับการทำงานประจำ มันอาจจะเป็นการยากสักหน่อย ซึ่งทั้งนี้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับธุรกิจที่คุณทำเสริม หรือรายได้ประจำที่คุณทำอยู่ ซึ่งหากมันไปคนละทิศละทาง ก็อาจจะต้องหาทางเตรียมการนานสักหน่อย

ซึ่งคุณเองก็จะต้องเลือกให้เหมาะสมด้วยว่า คุณจะทำอาชีพเสริมอะไรดี ที่คุณถนัด และอาจไม่ต้องลงทุนมากในช่วงแรกๆ หรือธุรกิจที่จะทำนั้น คือการขายของแบบเปิดท้าย หรือเปิดร้านทั่วไป หรือเป็นการขายสินค้าออนไลน์

เตรียมการ

ต้องคิดและเตรียมการให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจหรือลงมือทำครับ เพราะมันจะทำให้คุณเจ็บตัวน้อยที่สุด เริ่มจากการวางแผนก่อนว่าคุณจะเปิดกิจการอะไร จะขายทางเน็ตหรือเปิดร้าน

ซึ่งหากเป็นการลงทุนไม่มาก และไม่มีเวลามากที่จะต้องไปตั้งร้านแบบเปิดท้าย ก็อาจจะหาสินค้าที่ชอบมาเปิดร้านค้าออนไลน์แทน ซึ่งแม้จะไม่ดูตามกระแสอินเทรนด์ แต่ก็ต้องดูความต้องการของตลาดด้วยว่า ลูกค้าต้องการอะไรซึ่งอาจจะมีการสุ่มหาข้อมูล หรือดูว่าสินค้าชนิดไหนเป็นสินค้าจำเป็น และลูกค้าควรจะใช้ประจำอย่างต่อเนื่อง เมื่อรู้ว่าตัวเองจะขายอะไรแล้วก็มาดูเงินทุนกันครับว่า คุณมีเงินสำหรับลงทุนในการเปิดกิจการของตัวเองเท่าไหร่ และสินค้าที่จะขายนั้นมีราคาแพงหรือไม่ และหากรับมาในราคาเท่านี้ลองคำนวณดูซิว่า จะขายเท่าไหร่และกำไรต่อชิ้นเท่าไหร่

ซึ่งในปัจจุบันมีสินค้าหลายประเภทสำหรับการทำธุรกิจที่แทบจะไม่ต้องใช้เงินลงทุน เพียงแค่คุณมีหน้าร้าน และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ดี ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์จะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด

แม้แต่การส่งของไปให้ลูกค้า คุณแค่เพียงจ่ายเงินในราคาที่ตกลงกับเจ้าของสินค้าและจ่ายตามจริงเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็คือกำไรที่คุณจะได้ และคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาสต๊อกเองให้เปลืองเนื้อที่บ้าน หรือเปลืองงบประมาณอีกด้วย

จากนั้นคุณก็ต้องรู้จัก การวางแผนการคลาดในการขายให้ดีว่าจะโปรโมทสินค้าอย่างไรดีให้น่าสนใจ รวมถึงรูปแบบของการจัดร้านให้สวยงาม ประกอบกับการเขียนบทความเพื่อดันเว็บ ให้ร้านค้าของคุณได้ขึ้นในกูเกิ้ลอันดับต้น ๆ

บริหารเงิน

สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการบริหารการเงินให้ดี ไม่ว่าจะเป็นรายรับหรือรายจ่าย โดยจะต้องมีเงินทุนสำรองไว้ ยิ่งหากคุณต้องซื้อของมาเป็นสต๊อกไว้ ก็ต้องคิดหนักเลยว่าทำอย่างไรจะได้เงินทุนคืนอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเตรียมตัวเปิดกิจการนั้น

หากคุณต้องใช้เงินในการลงทุนจริงๆ ก็ต้องการติดต่อเจ้าหนี้ การขอกู้เงินธนาคาร หรือดูแลลูกน้องในกรณีที่เปิดเป็นร้านค้าขึ้นมาอย่าง ร้านกาแฟหรือร้านอาหาร

การทำงานประจำ ควบคู่ไปด้วยอาจจะลำบากในช่วงแรก ๆ เพราะคุณอาจจะจับต้นชนปลายไม่ถูก ซึ่งหากไม่จำเป็นจริงๆ ควรเริ่มต้นจากการทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำธุรกิจจะดีกว่า เพราะว่ามันอาจจะเป็นหนทางที่ดี และเป็นทางเลือกที่สำคัญจะต้องรู้จักวางแผนทางการเงินให้ดีซึ่งควรจะศึกษาไว้บ้างก็ดีครับ

เพราะการใช้เงินทุนหมุนเวียนในตอนเริ่มต้นในการทำธุรกิจรวมถึงใช้จ่ายส่วนตัวไปพร้อมๆกัน ซึ่งหากเกิดปัญหาด้านการเงินขึ้นมา ผมว่าธุรกิจที่คุณสร้างใหม่นั้นพร้อมจะล่มสลายอย่างรวดเร็ว

ซึ่งคนที่ออกมาทำธุรกิจเต็มตัวอาจจะต้องเผชิญปัญหาเรื่องเงินสดหมุนเวียนแน่ๆ เพราะคุณอาจเอากำไรจากการทำธุรกิจมาใช้จ่ายหมด และเมื่อธุรกิจถูกดึงกำไรไปใช้เงินมันก็จะไม่พอแน่นอนครับแต่หากยังทำงานประจำไปด้วย

การทำงานประจำ จะช่วยให้มีเงินสดหมุนเวียนในยามคับขัน และสามารถที่จะใช้เงินจากรายได้งานประจำมาเลี้ยงดูตัวเองได้ แทนที่จะไปแย่งเงินจากธุรกิจมาใช้จ่าย ซึ่งนี่คือการแยกกันระหว่างเงินรายได้สองทางการทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ

ผมคิดว่ามันจะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนใช้เครดิตได้ด้วย  เพราะหากลาออกไปเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ แล้วไปทำการกู้เงิน คุณรู้ไหมนี่คืออาชีพที่มักจะโดนธนาคารปฏิเสธสินเชื่อมากที่สุด เพราะเงินรายได้ไม่แน่นอน หรือรายได้ไม่ถูกหมุนเวียนในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ

คุณคงจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าทุกสิ่งนั้นมี 2 ด้าน คือมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่นกันครับการทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำอาชีพเสริมก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ลองมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง

ข้อดีของการทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำอาชีพเสริม

1.การมีรายได้ประจำทุกเดือนของการเป็นมนุษย์เงินเดือนจะสามารถกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถง่าย และหากได้ทำงานในบริษัทดีดี โบนัสแต่ละปีอาจได้เป็นแสน เพราะหากทำเป็นส่วนธุรกิจส่วนตัวแบบที่ต้องลาออก อาจทำให้รายได้น้อยลงกว่าเดิม

2.แม้จะทำงานไปด้วย มีงานรองรับไปด้วย หากบริหารงานเป็นก็จะไม่ทำให้ทุกคนในบ้านต้องเดือดร้อน การทำงานในออฟฟิศต้องรู้จักรับผิดชอบในขอบเขตงานที่ได้รับมอบหมาย และมีวันหยุดของตัวเองที่กำหนด หากมีอาชีพเสริมหลังเลิกงานหรือวันหยุดก็อาจจะทำให้มีรายได้เพิ่มเข้ามาเพื่อเป็นเงินเก็บ

3.ข้อดีของการทำธุรกิจส่วนตัวที่ทำควบคู่ไปกับงานประจำคือ สามารถสร้างรายได้เสริมขึ้นมาได้โดยไม่ต้องมานั่งรอเงินเดือนขึ้นเป็นปีๆ และเป็นอาชีพอิสระไม่ต้องเป็นลูกน้องใครในช่วงเวลาวันหยุดคุณก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่

ยิ่งหากจับธุรกิจดีมีโอกาสรวยโดยไม่รู้ตัวทำให้มีแรงขับเคลื่อนทางความคิดของตัวเองตลอด ทั้งนี้เป็นการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดครับ

4.ยิ่งคนที่เป็นลูกน้องระดับล่างด้วยแล้ว กว่าจะโตในหน้าที่จะต้องใช้ระยะเวลาการมีงานเสริมทำควบคู่กันไป ถือเป็นการสร้างรายได้อีกทาง โดยไม่ต้องรอเงินเดือนขึ้น

5.หากคุณจับงานธุรกิจได้ถูก โดยที่ยังคงทำงานบริษัทต่อไป ก็ถือเป็นการสร้างรายได้สองทาง และมีอะไรรองรับยามเศรษฐกิจตกสะเก็ด หรือ หากต้องออกจากบริษัท หรือช่วงเปลี่ยนงานอย่างน้อยคุณก็จะไม่เคว้งและยังมีรายได้พอประทัง ดีกว่าออกมาแบบไร้จุดหมาย

ข้อเสียของการทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำอาชีพเสริม

1.ในกรณีที่ทำงานประจำควบคู่ไปด้วยจะทำให้บางครั้งอาจต้องไปเบียดเบียนเวลาในการทำงานประจำ เพราะหากมัวแต่รอในช่วงพัก หรือหลังเลิกงาน หรือวันหยุด อาจจะทำให้เสียลูกค้าได้

อย่าลืมว่าหากเป็นร้านค้าที่ดี เมื่อมีลูกค้าเข้ามาคุยหรือถามข้อมูล แล้วเจ้าของร้านไม่อยู่ ก็อาจทำให้เป็นการแสดงตัวตนไม่ชัดเจน ประกอบกับธุรกิจเสริมมีเวลาในการลงมือทำน้อยเกินไป ทำได้ไม่เต็มที่เสี่ยงต่อการถูกไล่ออกในกรณีไปเบียดเบียนเวลางานแล้วทำให้งานหลักเสียด

2.ผู้ที่ทำงานประจำด้วย ทำอาชีพเสริมด้วยจะต้องเหนื่อยมากกว่าคนอื่นเป็นสองเท่ามากกว่าคนที่ไม่ได้ทำอาชีพเสริม เพราะนอกจากจะต้องดูแลงานที่รับผิดชอบแบบประจำแล้ว ยังต้องใส่ใจรายละเอียดกับอาชีเสริมให้ดีขึ้นด้วย

3.ยิ่งหากเป็นการขายของออนไลน์ ไม่มีวันหยุดอย่างแน่นอน เพราะลูกค้ามีหลากหลาย ต่างงานต่างอาชีพ ที่มีทั้งแบบทำงานกลางวัน หรือกลางคืน ส่วนคุณที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ยิ่งแทบจะไม่มีโอกาสได้พักได้หยุด เพราะหากร้านคุณขายดี ยิ่งมีลูกค้าทั่วประเทศด้วยแล้ว ไหนจะรับออเดอร์ ไหนจะต้องจัดการส่งของ ฯลฯ

4.หากไม่มีการโปรโมทเพจหรือเว็บ ก็อาจทำให้คุณนั่งตบยุงรอลูกค้าที่กว่าจะเข้ามาดูในเพจคุณได้ แน่นอนว่าการทำอาชีพเสริม ไม่ได้ทำแล้วประสบความสำเร็จทุกคน หรือ บางวันก็ขายดี บางวันก็แย่ บางคนซื้อสินค้ามาเป็นสต๊อกเยอะ หากไม่ถูกกระแสความนิยม หรืออาจมีคู่แข่งเยอะก็อาจทำให้ยอดขายคุณตกได้

5.ที่สำคัญโอกาสเสี่ยงที่จะล้มสูง หากไม่รู้จักวางแผนให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกสินค้าหรือบริการ การจัดวางหน้าเพจ หรือจัดแต่งร้านที่สำคัญเงินลงทุนต้องมีการหมุนเวียนตลอด

ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร จะทำควบคู่กี่อาชีพหากมีการวางแผนในทุก ๆ ด้าน อาจจะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ดีกว่าที่ไม่ยอมวางแผนอะไรเลย ที่สำคัญต้องมีใจรักที่จะทำงานนั้นๆ ด้วยครับจึงจะเรียกได้ว่าคือความสำเร็จอย่างแท้จริง