*เถ้าแก่ใหม่ :เล่าประวัติตัวเองให้ฟังหน่อยครับ
**คุณเอ :
ผมบัณฑิตย์ ปัญจาระ จากเด็กบ้านนอกคนนึงใน จ.สงขลา เกิดมาในครอบครับของข้าราชการก็ ไม่ได้จัดว่าฐานะลำบากมากในสมัยนั้นแต่ก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยด้วยว่าข้าราชการสมัยเงินเดือนน้อยประกอบกับลูก 3 คนเรียกว่าเดือนไม่ชนเดือนก็ว่าได้

แต่พ่อกับแม่ก็จะหาทำโน่นทำนี่เพื่อหารายได้เสริมตลอดเวลาเลยทำให้เราซึมซับตรงจุดนี้มา ส่วนเรื่องการศึกษาเรียนจบปริญญาตรีทางด้านวิศวกรรมและเริ่มงานบริษัท สนุกกับงานประจำยังไม่คิดจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทำงานได้ 3 ปีก็เริ่มเรียนปริญญาโทไปด้วย ก็ยังไม่มีความคิดที่จะทำธุรกิจในตอนนั้น ยังสนุกกับการทำงานประจำกับการพัฒนาองค์กร และก็เรียนต่อสาขาพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์กรด้วย

**** จุดพลิกผันที่หันมาจับธุรกิจคือเมื่อตอนมีลูก 2 คนรายจ่ายมีมากขึ้น ประกอบกับภรรยาลาออกจากงานที่หนึ่งมาทำอีกที่หนึ่งที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อจะมีเวลาให้ลูกมากขึ้น แต่รายได้ก็ลดลงมาก ทำไงละทีนี้รายจ่ายเพิ่ม รายรับลด ต้องหาอะไรมาเสริม !!!

*เถ้าแก่ใหม่ :เป็นมาอย่างไรมาทำธุรกิจ น้ำสมุนไพร
**คุณเอ :
โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว
และเนื่องด้วยความคิดที่จะทำธุรกิจของผมคือ อยากมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นของตัวเองแบรนด์ของตัวเองเพราะเหตุผลที่คิดเล่นๆ ว่าถ้าวันนึง supplier ของเราไม่ส่งสินค้าให้เราเราจะทำอย่างไร ผลิตเองมันซะเลยดีกว่าถ้ามันไม่ไหวอย่างน้อยก็ยังมี Knowhow ที่จะไปต่อยอดอย่างอื่นได้ เพราะประสบการณที่ได้มัน end to end ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปยันถึงมือลูกค้าที่บริโภคเลย อีกทั้งเทรนเรื่องสุขภาพเป็นที่ยอมรับของสังคมยุคนี้ และคาดว่าจะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเลยตอบโจทย์นี้ด้วยเครื่องดื่มสมุนไพร
ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นแนวคิดและถ้าจะถามว่ามันเริ่มได้อย่างไร ก็ไม่มีอะไรมากครับ

====== ลงมือทำครับ =======

หาแหล่งวัตถุดิบ คัดสรรค์แต่วัตถุดิบอย่างดีคิดอย่างหนึ่งว่าถ้าเราเป็นลูกค้าเราอยากได้คุณภาพอย่างไรเราก็ให้ลูกค้าอย่างนั้น
ผลกำไรไม่ได้เป็นประเด็นหลักในการพิจารณาเลือกวัตถุดิบ ขอแค่คัดสรรค์สิ่งที่มีคุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล

>> คนทำอยู่ได้ ลูกค้าอยู่ได้ WIN – WIN ทั้งคู่ <<

*เถ้าแก่ใหม่ :ปัญหามีอะไรบ้าง ผ่านมาได้อย่างไร
**คุณเอ :
ปัญหาที่ผ่านมา เริ่มจากวัตถุดิบ เนื่องจากวัตถุดิบเป็นผักผลไม้ตามฤดูกาลอาจจะมีขาดตลาดบ้าง ราคาสูงบ้างแต่เราต้องมีผลิตภัณฑ์เพราะเราผลิตไว้เยอะไม่ได้ ไม่ใช้วัตถุกันเสียและที่สำคัญต้องสดเราก็ต้องพยายามหาช่องทางการจัดหามาเพื่อให้ลูกค้าให้ได้ ราคาสูงก็ยอมบางทีไม่มีกำไรก็ต้องมีผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าให้ได้ อีกประการคือความต้องการหลายหลายของลูกค้าทำให้ต้องทำผลิตภัณฑ์รสชาดที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของความหวาน เราจะตระหนักในเรื่องสุขภาพซึ่งปกติเราก็ทำหวานน้อยอยู่แล้วและใช้น้ำตาลธรรมชาติอย่างดี แต่ลูกค้าบางส่วนต้องการหวานน้อยกว่าปกติ หรือไม่มีน้ำตาลเลยเราจึงต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีความหวานหลากหลาย และยังมีปัญหาอย่างอื่นเช่น การจัดเก็บ การจัดส่งของ และอีกหลายๆแต่ว่าแต่ละอย่างก็มีทางออกของมันเสมอๆ

*เถ้าแก่ใหม่ :ช่องทางการตลาด แผนการตลาดอนาคต เป็นอย่างไร
**คุณเอ :
สำหรับช่องทางการตลาด ณ.ตอนนี้เนื่องจากเราทำงานประจำไปด้วยและกำลังการผลิตเราค่อนข้างจำกัดเลยเริ่มจากขายที่ office , ส่งร้านอาหารที่ใกล้ office หรือใกล้บ้าน , หรือเพื่อนๆที่สั่งไปงานสัมนา , เอาไปแจกลูกค้า เป็นต้น ส่วนแผนการตลาดในอนาคตจะเพิ่มกำลังการผลิตและคาดว่าจะเจาะตลาดร้านอาหาร และลูกค้างาน event ต่างๆ

*เถ้าแก่ใหม่ :บริหารเวลาอย่างไร ทำงานประจำด้วย ทำธุรกิจด้วย
**คุณเอ :
ใช้เวลาหลังเลิกงานและวันหยุดในการผลิตสินค้าวางแผนการผลิตถ้าวันหยุดก็ทำเยอะหน่อย ช่วงระหว่างสัปดาห์ก็จะได้ทำน้อยๆ หรือทำน้ำที่กระบวนการไม่ยุ่งยาก

*เถ้าแก่ใหม่ :มั่นใจในเรื่อง คุณภาพของสินค้าได้อย่างไร
**คุณเอ :
มั่นใจมากในคุณภาพสินค้า เพราะว่าเราทำด้วยใจ และการที่จะได้มาซึ่งสินค้าแต่ละผลิตภัณฑ์ เกิดจากการหาข้อมูลอย่างดีการทดลองผลิต และให้ลูกค้าหลายๆกลุ่มทดลองรสชาด วัตถุดิบไหนที่มีคุณภาพ เราจะคัดสรรค์มันลงไปในผลิตภัณฑ์ของเรา โดยคำนึงว่าสุขภาพของลูกค้าสำคัญที่สุดและเราจะพยายามหาผลิตภัณท์ใหม่ๆตลอด สิ่งที่ผมกลัวที่สุดไม่ใช่เรื่องขาดทุนหรือเจ๊ งแต่กลัวการที่เราไม่สามารถส่งคุณภาพให้กับลูกค้าได้มากกว่า

*เถ้าแก่ใหม่ :ข้อคิดในการดำเนินชีวิต และฝากอะไรกับคนที่ทำงานประจำแล้วต้องการมีธุรกิจส่วนตัว
**คุณเอ :
สนับสนุนความคิด “กูทำได้ “ นะครับแต่เสริมนิดนึงไม่ใช่ว่าทำโดยยังไม่ได้วางแผน ถ้ามีช่องทาง และคิดโดยรอบคอบแล้ว ก็ลุยได้เลยคับ ปัญหาทุกอย่างอาจเกิดขึ้นได้แม้ว่าวางแผนไว้ดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าไม่ทำก็จะไม่รู้แม้กระทั่งว่าปัญหานั้นคืออะไรอีกอย่างที่ผมยึดถือคือความซื่อสัตย์ครับ ผมว่ามันเป็นสิ่งสำคัญทีเดียวเลยต้องซื่อสัตย์กับทุกๆสิ่งไม่เช่นนั้น คุณภาพและความไว้วางใจของลูกค้าต่อผลิตภัณท์เราจะไม่มีเลย ผมจะนึกถึงประโยคนี้เสมอๆ

”ต้องมีความละอายต่อการทำชั่ว ไม่ว่าจะในที่ลับหรือที่แจ้ง”

มันจะทำให้เราตระหนักถึงความซื่อสัตย์ได้ดี ถ้าอยากทำธุรกิจสำหรับคนที่ทำงานประจำไปด้วย สำหรับผมคิดว่าเริ่มจากเล็กๆที่ตัวเองถนัดและตัวเองชอบ อาจจะเป็นแรงผลักดันที่ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการทำอะไรที่เราไม่ถนัดแล้วจะไม่ได้ดีนะครับถ้าบวกความตั้งใจเข้าไปผมว่า “กูทำได้” ครับ

ขอบคุณเถ้าแก่ “เอ” พนักงานประจำแต่หัวใจเถ้าแก่