ผมได้มีโอกาสไปเดินสำรวจตลาดเช้าแถวบ้าน พลางเห็นผู้คนกำลังต่อแถวยาวเหยียดเลยเข้าไปดูใกล้ ๆ ว่าเขาขายอะไรกัน เลยเห็นชัดเจนเลยครับว่าเขากำลังขายปาท่องโก๋เกลียวนั่นเอง หลายคนที่ไม่ค่อยนิยมรับประทานอาหารเช้าคงเป็นเพราะความเร่งรีบของเวลา

อีกทั้ง ต้องไปเผชิญกับรถติดและปัญหาการจราจรมากมาย มนุษย์เงินเดือนส่วนหนึ่งฝากท้องไว้ที่ร้านสะดวกซื้อกันเป็นประจำ บางคนซื้อข้าวมากินตอนเช้าไม่ทัน อย่างน้อยได้ปาท่องโก๋ก็ยังดี เพื่อที่จะได้มากินกับกาแฟตอนเช้าในที่ทำงาน

ซึ่งการกินปาท่องโก๋เนี่ย มันก็เป็นความรู้สึกแบบฟินๆ ย้อนยุคเลยนะ เพราะเชื่อว่าคุณเองก็คงจะมีโอกาสได้กินปาท่องโก๋จิ้มนม หรือกินกับโอวัลตินมาบ้างล่ะ ทำให้ค่านิยมเดิมๆ กลับมาสู่วัยทำงานอีกครั้ง ที่เรามักเรียกมันว่าเป็นความคุ้นเคยที่เราไม่เคยลืมหรือทิ้งมันได้

ทำให้ตอนโตหลายๆ คนก็ยังคงคิดถึงและยึดติดกับภาพเดิมๆ แม้จะมีขนมปัง หรือแซนวิชจากร้านสะดวกซื้อออกมาให้เลือกมากมายก็ตาม แต่ผมว่ายังไงปาท่องโก๋นี่ก็กินขาดอยู่แล้ว

ปาท่องโก๋แฟนซี ทำดีมีรวย

ลองปรับเปลี่ยนอะไรเล่นดูบ้างก็คงจะดี

นอกเหนือจากขนมปังตามร้านสะดวกซื้อแล้ว สิ่งที่เป็นตัวแกล้มกาแฟยามเช้าแบบชาวบ้านๆ ก็เห็นจะหนีไม่พ้นปาท่องโก๋นี่ล่ะที่แม้จะดูคนละแนวกับแซนวิช แต่ผมว่าปาท่องโก๋มันเป็นอะไรที่เข้าถึงทุกกลุ่มทุกวัยได้มากกว่า แต่หากจะมานั่งทำปาท่องโก๋แนวเดิมๆ เป็นคู่ติดกัน ผมว่าอาจจะดูเชยเกินไปแล้ว

เพราะการที่เปลี่ยนรูปร่างของปาท่องโก๋แบบเดิมๆ ที่เราเคยเห็นเป็นคู่ๆ มาเป็น ปาท่องโก๋เกลียวมันดูน่าสนใจกว่าเยอะและไม่ค่อยมีคนขายแบบเกลียวเท่าไรนัก ซึ่งถือว่าเป็นของที่ดูเหมือนจะหากินยากไปเลย ด้วยรูปร่างของปาท่องโก๋เกลียวมีลักษณะเป็นเกลียวยาวพันกันสวยงาม ทำให้ดึงดูดลูกค้าได้ดีกว่าปาท่องโก๋ธรรมดา

แม้ว่าจะต้องเพิ่มราคาขึ้นมา แต่ก็เชื่อว่าผู้บริโภคก็ต้องยอมจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่ออรรถรสในการฟินอย่างแน่นอน

ที่ผมเห็นส่วนใหญ่แล้วปาท่องโก๋แบบธรรมดาจะขายได้ช่วงเวลาเช้า พร้อมกับน้ำเต้าหู้ หรือขายคู่กับซาลาเปาทอดเพราะคนจะซื้อไปรับประทานกับเครื่องดื่มอย่างกาแฟ หรือโอวัลติน หรือน้ำเต้าหู้ หรืออาจขายช่วงเย็นที่มาพร้อมกับน้ำเต้าหู้ น้ำขิง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

ส่วนใครที่ขายปาท่องโก๋เกลียวนั้นสามารถขายได้ตลอดทั้งวัน โดยอาจทำให้เป็นในลักษณะเหมือนของทานเล่น ซึ่งหากต้องการขายปาท่องโก๋เกลียว เพื่อให้ทานได้ตลอดวันนั้นจะต้องมีเครื่องจิ้มก็คือสังขยานั่นเอง

จะลองทำกินเล่นหรือเป็นอาชีพเสริมเริ่มตรงนี้

ส่วนใครที่อยากจะยึดอาชีพขายปาท่องโก๋เกลียวเป็นอาชีพเสริมยามเย็น หรือเช้า หรือวันหยุด ก็ลองหาเตรียมอุปกรณ์และส่วนประกอบทำปาท่องโก๋เกลียวแบบง่ายๆ ที่ผมจะแนะนำกัน โดยจะต้องเตรียม กระทะใบบัวใบใหญ่และเตาสำหรับทอด ที่ช้อนหรือตะแกรงช้อนปาท่องโก๋,ตะแกรงพักของทอด

ส่วนอุปกรณ์ในการทำปาท่องโก๋เกลียว ใช้แป้งสาลี 5 กิโลกรัม , น้ำ ตาลทราย 200 กรัม , น้ำเปล่า 4 ลิตร, เกลือ 15 ช้อนชา,ผงฟู 2 ช้อนชา, และน้ำมันพืช 500 กรัม ซึ่งสูตรนี้สามารถทำปาท่องโก๋เกลียวออกมาได้ประมาณ 70 ชิ้น

วิธีการทำตัวปาท่องโก๋ ที่พอจะทำเองได้

ส่วนวิธีการทำปาท่องโก๋เกลียวคือ ต้องร่อนแป้งสาลีเตรียมไว้ จากนั้นนำผงฟู  น้ำตาลทราย และเกลือละลายในน้ำเปล่าให้เข้ากัน ใส่แป้งและน้ำมันพืชนำมานวดให้เข้ากัน ที่สำคัญคือห้ามนวดนานเกิน 15 นาที เพราะจะทำให้แป้งแข็ง  จากนั้นนำแป้งเป็นก้อน ๆ มาปั้นเป็นแท่งยาวตามความชอบ แล้วทำการทบแป้งเข้าหากันค่อยๆ บิดเป็นเกลียวหลวม ๆ จับแป้งที่ปลายขนมให้ติดกันด้วยเพื่อเกลียวจะได้ไม่หลุดเวลาทอด นำปาท่องโก๋เกลียวลงทอดพอเหลือง  ประมาณ 10 นาที ในน้ำมันพืช พักให้สะเด็ดน้ำมัน อาจใส่งาเพื่อความสวยงามจะทำให้เพิ่มราคาขายขึ้นได้อีก

เปลี่ยนสังขยาธรรมดาเป็นแบบ 7 สีกันไปเลยดีไหม

ส่วนสังขยาพี่ผมแนะนำลองเปลี่ยนมาเป็น สังขยาชานมเย็น ที่ดูสีสวยน่าทานกว่าใบเตย ซึ่งทานคู่กับปาท่องโก๋เกลียว เพื่อสร้างความแปลกใหม่  วิธีทำง่ายๆ คือการนำกะทิสด 5 กิโลกรัม ส่วนไข่ไก่ให้เอาแต่ไข่แดง 30 ฟอง แล้วนำน้ำตาลปี๊บ  800 กรัม ,นมสด 1 กระป๋อง,แป้งข้าวโพด 300 กรัม , เกลือ 20 ช้อนชา,น้ำชานมเย็น 1 ลิตร

วิธีทำคือ ตั้งหม้อบนเตาใส่กะทิลงไปต้มพอเดือดอย่าให้แตกมัน แล้วรีบใส่ส่วนผสมอื่นลงไปยกเว้นน้ำชานมเย็น แต่เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วจึงค่อยๆ เทชา นมเย็นลงไป ค่อยๆ กวนสังขยาให้เหนียวประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยไฟอ่อนๆ แล้วยกลงพักให้เย็นหากระปุกเล็กๆ มาใส่ แค่นี้ลูกค้าก็จะได้ฟินกับปาท่องโก๋เกลียวกับสังขยาชานมแสนอร่อยแล้วครับ