MarTech อาวุธเทคโนโลยีเจาะผู้บริโภคดิจิทัลแม่นยำขึ้น

สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจได้รายงานเรื่องโควิดที่ผ่านมาส่งผลเร่งองค์กรติดอาวุธเทคโนโลยีการตลาดเจาะผู้บริโภคดิจิทัลแม่นยำขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

เทคโนโลยีในด้านการทำการตลาดเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ทว่าธุรกิจไทยกลับใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการทำการตลาดน้อยมากเมื่อเทียบกับต่างประเทศจึงกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ธุรกิจไทยไม่สามารถยกระดับได้อย่างแข็งแกร่ง

คุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ นายกสมาคม MarTech และผู้ก่อตั้งชุมชน Marketing Tech Thailand ที่ใหญ่สุดในไทย ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเอาไว้ว่าเทคโนโลยีด้านการตลาดหรือที่ถูกเรียกว่า Marketing Technology (MarTech) เป็นทั้งเครื่องมือและระบบแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านกิจกรรมการตลาดตั้งแต่ในเรื่องของการพัฒนาการตลาดไปจนถึงการจัดแคมเปญทางการตลาดเพื่อโปรโมตธุรกิจซึ่งช่วยให้การสื่อสารระหว่างแบรนด์และลูกค้ามีความหลากหลายและวัดผลได้อย่างแม่นยำมากขึ้นซึ่งปัจจุบันนี้มีเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถูกพัฒนาขึ้นมาจนได้รับความนิยมดังนี้

  1. เครื่องมือที่ช่วยจัดการข้อมูล เช่นแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการข้อมูลซึ่งสามารถรวบรวมข้อมูลของลูกค้าจากฐานข้อมูลต่าง ๆ มาไว้ที่เดียวกัน หรือจะเป็นเครื่องมือวัดผลทางการตลาดที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดเพื่อการวัดประสิทธิภาพต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมี Social Listening เป็นเครื่องมือที่ช่วยเก็บข้อมูลของผู้บริโภคที่อยู่บนโซเชี่ยลมีเดียาง ๆ และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลต่อยอดไปสู่กิจกรรมทางการตลาดอื่น ๆ
  2. เครื่องมือทางด้านคอนเทนต์ ต้องไม่ลืมว่าคอนเทนท์เป็นสื่อกลางที่แบรนด์ใช้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ในปัจจุบันมีเทคโนโลยี AI ที่ช่วยสร้างคอนเทนท์รวมถึง วางแผนคอนเทนท์ไปจนถึงการทำให้การค้นหาติดลำดับต้น ๆ
  3. การตลาดอัตโนมัติเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าโดยบางเครื่องมือถูกใช้ในการควบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทำให้กระบวนการทำงานการตลาดมีประสิทธิภาพรวดเร็วจึงได้งานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้แม่นยำรวมถึงวัดผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาดได้ลึกยิ่งขึ้น

ในปัจจุบันองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่กว่า 90% มีการนำเทคโนโลยีการตลาดมาใช้อย่างน้อย 2 ประเภทซึ่งน้อยกว่ามากหากเปรียบเทียบกับองค์กรในต่างประเทศที่มีการนำมาใช้ 5-20 ประเภทครอบคลุมในทุกส่วนของการทำการตลาด แต่แม้จะยังสู้ต่างประเทศไม่ได้หากมองตั้งแต่วิกฤตโควิดแล้วพบว่าธุรกิจในไทยมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพิ่มขึ้นก่อนที่จะเกิดโควิดเสียอีกโดยกลุ่มเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเป็นเครื่องมือที่ช่วยดูแลจัดการลูกค้าสัมพันธ์ รองลงมาคือเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า การใช้ AI เพื่อเพิ่มศักยภาพให้การตลาด เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตลาด เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอแผนภาพข้อมูล

คุณธนโชติ วิสุทธิสมานผู้ก่อตั้ง Future Trends สื่อที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการเทคโนโลยีการตลาดรวมถึงนวัตกรรมชั้นนําของประเทศไทย กล่าวว่า Future Trends ได้ผนึกกำลังกับ Marketing Tech Thailand จัดงานมหกรรมด้านการตลาดหรือ Marketing Technology & Innovation Expo 2023 เพื่อยกระดับธุรกิจให้ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีการตลาดที่ทันสมัย และพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้ธุรกิจไทยก้าวหน้ายิ่งขึ้นรวมถึงเป็นพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิด อัพเดตเทรนด์และเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าได้มาเลือกนวัตกรรมและเครื่องมือเพื่อช่วยในการต่อยอดและเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัท

“ไม่เพียงลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดใหญ่เท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากงานนี้ แต่กลุ่มลูกค้าในธุรกิจ SME ลูกค้ากลุ่มบุคคลหรือองค์กรขนาดย่อมก็สามารถมาตามหาเทคโนโลยีทางการตลาดที่ช่วยพัฒนาธุรกิจของพวกเขาได้เช่นกัน”

สำหรับงาน Marketing Technology & Innovation Expo 2023 presented by SC ASSET จะมีการแสดงสินค้าและบริการดิจิทัลจากบริษัทชั้นนำกว่า 50 บูธ มีการบรรยายจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของเมืองไทยและมีกิจกรรมให้ร่วมเวิร์คช็อป เป็นต้น โดยงานจะจัดในวันที่ 1 มี.ค.2566 ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1055442

ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจเกี่ยวกับ MarTech อาวุธเทคโนโลยีเจาะผู้บริโภคดิจิทัลแม่นยำขึ้น

เริ่มมีการพูดถึงกันมากขึ้นเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีทางด้านการตลาดต่าง ๆ มาใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจได้มากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็มีแต่เฉพาะองค์กรขนาดกลางขึ้นไปเท่านั้นที่มีการนำเทคโนโลยีการตลาดมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจ แต่แม้จะเริ่มมีการนำมาใช้อย่างจริงจังก็กลับพบว่าหากเทียบกับต่างประเทศบ้านเรานำมาใช้ในจำนวนที่น้อยกว่ามากและไม่ต้องพูดถึงธุรกิจขนาดเล็กหรือเหล่า SMEs ที่เจ้าของกิจการบางท่านยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามีเครื่องมือดี ๆ ที่สามารถช่วยเพิ่มศักยภาพในด้านการตลาดได้ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายมากเพราะหาก SMEsหรือผู้ประกอบการรายย่อยของไทยเข้าถึงและสามารถใช้เทคโนโลยีทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม มันจะมีส่วนช่วยให้รายย่อยสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการเจ้าใหญ่ ๆ ได้อย่างสูสีทีเดียว

ดังนั้นสิ่งที่ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยควรทำก็คือการศึกษาเทคโนโลยีทางด้านการตลาดอย่างละเอียดและเลือกเครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมมาใช้งานเทคโนโลยีทางการตลาดเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ SMEs ติดอาวุธในการแข่งขันได้และทำให้ธุรกิจยืนหยัดอยู่ได้ในวงการอย่างสมศักดิ์ศรี