สร้างแบรนด์ให้ขายดี ต้องทำแบบนี้จึงจะขายดีมีกำไร

ในภาวะที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของการเติบโตและการสร้างยอดขายได้อย่างที่เจ้าของธุรกิจต้องการ แต่กระนั้นการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SMEs นั้นกลับกลายเป็นจุดอ่อนหนึ่งที่ทำให้ SMEs เติบโตไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ หากคุณคือเจ้าของแบรนด์ธุรกิจ SMEs ที่อยากจะประสบความสำเร็จและอยากสร้างยอดขายให้ขายดิบขายดีบทความนี้เรามีกลยุทธ์เล็กๆน้อยๆโดยกูรูด้านการตลาดที่มีชื่อเสียงอย่างอาจารย์บุ้ง ดีดติ่งหู เจ้าของแนวความคิดการทำการตลาดแบบ underdog มาแนะนำ

SMEs สร้างแบรนด์ให้ขายดี ทำอย่างไรให้ sexy และอยู่รอดเติบโตในยุคปัจจุบัน

สั่งซื้อหนังสือที่นี่

ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องการเติบโต การอยู่รอดของ SMEs เป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยอาจารย์บุ้งได้ให้คำแนะนำที่น่าสนใจที่จะทำให้ SMEs อยู่รอดและเติบโตในยุคปัจจุบันไว้โดยเจ้าของธุรกิจต้องเริ่มจากการทำ Personal Branding เพื่อสร้างตัวตนของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ด้วยความที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจึงมีความคล่องตัวสูงมากกว่าธุรกิจใหญ่ เจ้าของแบรนด์จึงจำเป็นต้องใช้ความยืดหยุ่นนี้ให้เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจโดยสิ่งที่อาจารย์บุ้งแนะนำก็คือเมื่อเจ้าของคิดอะไรแล้วขอให้ลงมือทำทันทีเพราะข้อดีของ SMEs ก็คือสามารถลองผิดลองถูกได้ง่ายกว่าธุรกิจใหญ่

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของแบรนด์จะต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษโดยอาจารย์บุ้งเชื่อว่าสินค้าทุกตัวมีความน่าสนใจอยู่แล้วเพียงแต่ว่าสินค้าชนิดนั้นจะสามารถแมตช์กับคนกลุ่มใหญ่ได้หรือไม่ เจ้าของแบรนด์จำเป็นที่จะต้องดูว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายนั้นมีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้ธุรกิจนั้นไปรอดได้หรือไม่ ในทัศนคติของอาจารย์บุ้งกล่าวเอาไว้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแต่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดกับคนบางกลุ่มและต้องเป็นกลุ่มที่ใหญ่พอที่จะทำให้ธุรกิจไปรอด นั่นคือความหมายของผลิตภัณฑ์ที่ดีที่เหมาะสมสำหรับการนำมาทำธุรกิจ

เราจะสร้างพนักงานขายได้อย่างไรจึงจะช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตและเพิ่มยอดขายได้อย่างที่ต้องการ

สำหรับกลไกของธุรกิจพนักงานขายก็มีความสำคัญสำหรับธุรกิจไม่น้อย เจ้าของแบรนด์ต้องปลูกฝังให้พนักงานขายมีความคิดเสมือนเป็นเจ้าของธุรกิจจึงจะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จด้วยความหมายของการคิดเสมือนเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นพนักงานขายทุกคนต้องคิดถึง

  • ความต้องการสร้างยอดขาย
  • ความต้องการสร้างผลกำไร
  • ต้องเก็บเงินให้ตรง
  • มีความเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยสามารถขยายความได้คือพนักงานขายจะต้องคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขายสินค้าให้ได้มากที่สุดหากแม้นว่าขายสินค้าได้ไม่มากก็ต้องสามารถสร้างผลกำไรตอบแทนให้ได้มากที่สุดหรือหากสร้างผลกำไรได้ไม่มากที่สุดก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะขายสินค้าได้อย่างสม่ำเสมอรวมถึงต้องทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือแนวคิดของความเป็นเจ้าของธุรกิจที่เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องปลูกฝังลงไปในความคิดของพนักงานขายจึงจะช่วยทำให้ธุรกิจมียอดขายและเติบโตได้อย่างที่เจ้าของแบรนด์ต้องการ

ในปัจจุบันการแข่งขันที่สูงมากคือสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ทุกคนต้องเจอแล้วเราจะมีกลยุทธ์อย่างไร

เคล็ดลับสร้างแบรนด์ให้ Sexy

สั่งซื้อหนังสือที่นี่

แม้ว่าปัจจุบัน SMEs จะต้องเผชิญหน้ากับภาวะการแข่งขันที่สูงมาก แต่ด้วยความที่เป็นธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่าบริษัทใหญ่ตัวของเจ้าของแบรนด์จึงสามารถปรับตัวได้ง่ายกว่าองค์กรใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่ SMEs จำเป็นต้องทำก็คือให้ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มากที่สุดรวมถึงการสร้างยอดขายและการเติบโตผ่านระบบออฟไลน์ ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบดั้งเดิม หากเจ้าของแบรนด์สามารถปรับตัวโดยใช้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์มาเป็นประโยชน์สูงสุดก็จะสามารถทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันกับองค์กรใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์แบบ underdog คือกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ SMEs

เพราะตัวของ SMEs เปรียบดุจดั่งหมารองบ่อนที่มีต้นทุนในการทำธุรกิจน้อยจึงไม่สามารถสู้โดยตรงกับธุรกิจใหญ่ ๆ ได้ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อทดแทนความเสียเปรียบนี้ก็คือเจ้าของแบรนด์จะต้องคิดให้เยอะขึ้นและต้องคิดให้เป็น step by step คือคิดทีละขั้นตอนโดยไม่ควรข้ามขั้นตอนเด็ดขาดเพราะแต่ละขั้นตอนของการเติบโตของธุรกิจนั้นจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า learning point เพื่อทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดและขยับขยายไปสู่การเติบโตในขั้นต่อๆไปได้

สิ่งที่เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องทำก็คือการไปสำรวจความต้องการของลูกค้าจริงๆในตลาดว่าลูกค้าต้องการสิ่งใดหรือมีสิ่งใดที่เจ้าของแบรนด์สามารถเข้าไปช่วยลูกค้าได้ อย่าพยายามคิดเอาเองหรือทึกทักไปเองว่าลูกค้าต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงเพราะนั่นเท่ากับว่าคุณจะไม่สามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าได้เลย

ความใจเย็นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ธุรกิจ SMEs จำเป็นต้องทำให้ได้ด้วยเพราะความสำเร็จที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนมีโอกาสทำให้ตัวของ SMEs ย่ามใจและคิดไกลเกินกว่าศักยภาพที่แท้จริงจะทำได้ซึ่งนั่นเท่ากับว่าเจ้าของแบรนด์กำลังเปิดประตูไปสู่หายนะที่คาดไม่ถึง หากแบรนด์สามารถสร้างยอดขายได้ถึงสิบล้านก็ไม่ควรคิดไกลมองเป้าหมายไปถึงยอดขายร้อยล้านแต่ให้ค่อย ๆ ทำไปทีละขั้นตอนดังที่กล่าวมาแล้วจึงจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนมากกว่า

ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงสิ่งที่จะทำให้เจ้าของแบรนด์ SMEs สามารถเติบโตและสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืนก็คือการทำตัวเป็นหมารองบ่อนที่ต้องใช้แนวความคิดในการทำธุรกิจให้มากกว่าความสนใจในเรื่องของเงินทุนเพียงอย่างเดียวหรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือเจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องลงมือทำให้มากขึ้นเพื่อที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเพราะแม้ว่าธุรกิจ SMEs จะเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีเงินทุนน้อยแต่ในเรื่องของความคล่องตัวกลับมีสูงมากกว่าองค์กรใหญ่ สิ่งนี้ก็คือจุดเด่นที่จะทำให้ธุรกิจ SMEs สามารถเอาชนะธุรกิจใหญ่ได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึง