80.0
Score

ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กในเมืองไทย ไม่ได้เล็กเหมือนชื่อเพราะจากผลการวิจัยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า มีสัดส่วนการตลาดสูงถึง 80% ของร้านอาหารทุกแบบและขยายตัวปีละ 6% ขึ้นไป เรียกว่าเป็น “ธุรกิจรากหญ้า” ของแท้

แต่ความจริงที่น่าตกใจกว่าคือ มีจำนวนไม่ถึง 50% ที่จะอยู่รอดหลังจาก 5 ปีแรก… อ่านบทความนี้แล้วคุณจะพบทางรอดไม่เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

ถ้าจะตีวงให้เห็นกันชัดๆ  ร้านอาหารขนาดเล็กจะไล่ตั้งแต่ร้านแผงลอย, รถเข็น ไปจนถึงร้านห้องแถวเล็กๆ ขนาด 1 ห้อง ส่วนใหญ่ขายอาหารเพียงชนิดเดียวเพราะข้อจำกัดเรื่องเงินทุนและพื้นที่ เช่น ไก่ทอด, หมูทอด, ข้าวมันไก่, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, ข้าวราดแกง, อาหารตามสั่ง ฯลฯ

การลงทุนเปิดร้านอาหารเล็กๆ ก็เริ่มตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่นบาทขึ้นไป หากต้องเซ้งหรือเช่าตึกก็ต้องลงทุนเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จำนวนพนักงานยืนพื้นที่เจ้าของร้านทำเองคนเดียวทุกอย่างจนถึงร้านที่มีลูกจ้างไม่เกินสิบคน

ซึ่งพบได้ทั่วไปทั้งในตรอกซอกซอยหรือริมถนน หาร้บประทานได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่แพ้ 7-11 เจ้าเก่าปิดไปก็มีเจ้าใหม่มาเปิด วนเวียนอยู่แบบนี้ หากเราต้องการเปิดร้านให้“รุ่ง”จะต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกัน!

4 เคล็ดลับ เปิดร้านอาหารขนาดเล็กอย่างไร ไม่ให้เจ๊ง!

ข้อแรก.. ทำเล ทำเล และทำเล

คำแนะนำส่วนใหญ่คือ ให้เลือกตั้งในบริเวณแหล่งชุมชนคนเยอะๆ ไว้ก่อน นั่นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จะเปิดร้านทั้งทีต้องทำแบบมืออาชีพนั่นคือ ไปนั่งเฝ้าดูทำเลที่เราหมายตาไว้ก่อนอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์

ลองดูสิว่า กลุ่มคนแถวนั้นเป็นกลุ่มพนักงานบริษัท กลุ่มคนทำงานโรงงาน กลุ่มนักศึกษา นักเรียน หรือพ่อบ้านแม่บ้าน ชนิดของกลุ่มคนจะสัมพันธ์กับชนิดสินค้าและราคาที่เราจะขาย เช่น

เราคงไม่ขายเสต๊ก, สลัด หรืออาหารสุขภาพในย่านโรงงาน แต่ควรขายของที่กินง่ายๆ อิ่มท้องอย่างข้าวเหนียวหมูทอดไก่ทอดในราคาไม่แพง

นอกจากนั้นต้องรู้ว่าเวลาเข้างาน พักเที่ยง เลิกงานคือช่วงเวลาไหน ไม่ใช่ว่ามาเริ่มขายตอนลูกค้าเข้าทำงานไปแล้วแถมเก็บของกลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานเสียอีก อย่างนี้ก็เจ๊งเพราะไม่มีคนมาซื้อแน่นอน

เรื่องที่จอดรถสำหรับร้านอาหาร ก็อย่าให้ลำบากถึงกับต้องไปจอดไกลเป็นกิโล เพื่อเดินย้อนกลับมาซื้อหากของเราไม่ได้อร่อยระดับแม่ช้อยต้องมารำ

ที่สำคัญพยายามเลือกที่ตั้งร้านให้ดูเด่นเห็นแต่ไกล อยู่ด้านหน้าๆ  ไว้ก่อน ไม่ใช่ไปแอบซุกอยู่แถวหลังๆ ถูกร้านอื่นบังหรือมีเสามีป้ายห้อยบดบังจนลูกค้านึกว่ากำลังถูกชวนเล่นซ่อนหาหรือโป้งแปะ!

ข้อสอง.. อาหารต้องอร่อย. สะอาด. ราคาไม่แพง

สามอย่างนี้ต้องคู่กัน อย่าลืมว่าเราไม่ใช่ร้านหรูหราไฮโซ แต่เป็นร้านเล็กริมถนน แม้จะฟังดูขัดๆ แต่ต้อง “ทำให้ได้” เพราะลูกค้าเราส่วนใหญ่กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง (เกี่ยวไหมเนี่ย!)

อยากทานของดีๆ แต่จ่ายถูกๆ หน้าที่เราคือบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุดเพื่อให้ขายในราคาถูกได้ กำไรน้อยไว้ก่อนไว้ลูกค้าติดค่อยขยับราคาทีหลัง ข้อสำคัญ“ต้องจ่ายตลาดและเก็บเงินเอง”

สองขั้นตอนนี้ อย่าให้ใครทำแทนเพราะโดนโกงกันมาเยอะ ส่วนขั้นตอนการผลิตและการบริการลูกค้ายังพอควบคุมดูแลให้ลูกน้องทำแทนได้

หากทำอาหารไม่เป็นหรือไม่อร่อยก็ต้องไปเรียนหรือซื้อสูตรเขามาทำเป็นทางลัด ให้คนรอบข้างเป็นหนูทดลองชิมจนทุกคนพร้อมใจยกนิ้วให้จึงค่อยทำขาย

อย่าขาย หากฝีมือหรือสูตรยังไม่นิ่งทำไปปรับไปรสชาติเปลี่ยนทุกวัน ลูกค้าจะส่ายหัวคิดว่า เราไม่ใช่มืออาชีพ จะบอกต่อกันไปแบบนี้รับรองเจ๊งเร็วยิ่งกว่าเดิม!

ข้อสาม.. บริหารการเงินแยกให้เป็นสัดส่วน

บางร้านขายดี๊ดี แต่ขายเสร็จนับเงินได้กำไรนิดเดียวเพราะอะไร จะเห็นว่าบริษัทต่างๆ เขาต้องมีฝ่ายการเงินใช่ไหม?

ฝ่ายนี้สำคัญต่อบริษัทมากเพราะถึงขายได้มากเท่าไรแต่เรียกเก็บเงินไม่ได้หรือนำเงินไปใช้ในด้านอื่นๆ ที่ไม่สร้างผลกำไรบริษัทคงอยู่ไม่รอด

สำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก นี่คือปัญหาโลกแตก หากคุณไม่มีระเบียบวินัยการเงิน หัดทำงบดุลบัญชีง่ายๆ แบบที่เราเคยเรียนตอนเด็กๆ มียอดสองฝั่งรายรับและรายจ่าย หักลบกันคือกำไร เราจะรู้เลยว่า เราใช้จ่ายในเรื่องไม่จำเป็นหรือเปล่า

บางคนขายไปซื้อโน่นซื้อนี่มากินตามใจปาก ขายได้ยิ่สิบซื้อร้อย เห็นล็อตเตอรี่มาขายซื้อเลขชุดหวังรวย ซื้อบุหรี่ เบียร์ ขายเสร็จแวะพากันไปกินเอ็มเค ซื้อโน่นซื้อนี่ในห้าง นี่เรียกว่าไม่มีวินัยในการเงิน ขายดีแต่ไม่มีวันรวย!

ข้อสี่.. จัดหน้าร้าน+ตกแต่งร้านให้สะอาด น่าเข้าดูเป็นมืออาชีพ

หลายร้านตกม้าตายตั้งแต่ข้อนี้ คุณคงไม่ต้องไปเข้าคอร์สการจัดวางผังร้านค้าหรอกนะ เพียงแค่หมั่นสังเกตและ “จดจำ”จำไมได้ ให้จด หรือวาดรูปหน้าตาร้านอาหารประเภทเดียวกันที่เขาขายดีเอามาจัดร้านของเราบ้าง

การเลียนแบบไม่ใช่เรื่องเสียหาย จากนั้นค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ  ร้านขายข้าวมันไก่หากมองไปไม่เห็นมีไก่สักตัวแขวนอยู่ในตู้ ร้านก๋วยเตี๋ยวตู้โล่งๆ มีเส้นก๋วยเตี๋ยวสองสามห่อวางแหมะคู่กับลูกชิ้นหรอมแหรม หรือร้านอาหารตามสั่งมีผักเหี่ยวๆ กับไข่สามสี่ฟองวางดูน่าอนาถแท้  ใครจะอยากเข้าไปกิน! ต้องวางของให้ดูแน่นๆ เยอะๆ เอาไว้ก่อน เรื่องอื่นไว้ว่ากันทีหลัง!

การโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก

จะให้กินฟรีวันเปิดร้าน ซื้อ 10 แถม 1 อะไรก็ว่ากันไป อย่าพยายามสร้างศัตรูแม้จะเป็นร้านคู่แข่ง เพราะเรามาขายของไม่ได้มาหา

เรื่องกับใคร ยิ้มแย้มแจ่มใสช่างพูดช่างคุย คติคนจีนเขาว่า “ยิ้มไม่เป็น…อย่าคิดเปิดร้านขายของ” ดังนั้น ยิ้มเข้าไว้เถอะไม่เสียสตางค์มีแต่ได้สตางค์..เชื่อสิ