เทรนด์สำหรับการตลาดเป็นเทรนด์ที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอไม่เคยหยุดนิ่ง เหตุผลหลักเดียวที่ทำให้การตลาดมีวิวัฒนาการอยู่เสมอนั่นก็คือเพื่อที่ธุรกิจจะมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่ง และต่อไปนี้คือ 16 เทรนด์การตลาด 2023 ที่เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดควรให้ความสำคัญเพื่อให้ตัวเองอยู่เหนือกว่าคู่แข่งและเพื่อยอดขายสำหรับธุรกิจ

16 เทรนด์การตลาด 2023 ที่เจ้าของธุรกิจต้องรับมือ

1. ความสัมพันธ์อันดีระหว่าง Influencer กับแบรนด์

กลยุทธ์ Influencer ถูกพัฒนามาจากกลยุทธ์การแนะนำแบบปากต่อปากในอดีต ซึ่งผู้คนมักจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตามที่ได้รับการแนะนำให้ลองใช้จากผู้ที่พวกเขาไว้วางใจ กลยุทธ์ Influencer จึงอาศัยจุดเด่นในข้อนี้โดยอาศัยการทำงานร่วมระหว่างแบรนด์และตัวของ Influencer เองในการนำเสนอสินค้าของแบรนด์สู่ผู้ติดตามผ่านตัวของ Influencer ในช่องทางออนไลน์โดยมีการปรับปรุงให้ทันสมัยสำหรับยุคปัจจุบันนี้

93% ของนักการตลาดให้เหตุผลที่เลือกใช้ Influencer มาทำการตลาดเช่น ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ ช่วยสร้างความไว้วางใจ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง การสร้างลีด กำหนดเทรนด์ใหม่ และเชื่อมต่อกับตลาดให้กว้างขึ้น

แม้ว่าการใช้ Influencer มาทำการตลาดจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในปี 2023 ที่จะถึงนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ก็ยกระดับการเขื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงผ่านการแต่งตั้ง “แบรนด์แอมบาสเดอร์” ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์กับ Influencer และตัวของ Influencer เองก็สามารถโปรโมทแบรนด์และรักษาความไว้วางใจกับผู้ติดตามได้ด้วย

2. การสตรีมมิ่ง การไลฟ์สดและเนื้อหาแบบวิดีโอ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิดีโอมีความสามารถในการดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้มากกว่าคอนเทนต์แนวอื่น นักการตลาดในปัจจุบันจึงเริ่มนำวิดีโอมาใช้เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและเพิ่มการรับรู้แบรนด์มากขึ้น

ในขณะเดียวกันการสตรีมมิ่งและการไลฟ์สดก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเทรนด์การตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงมากเพราะมีรายงานว่าผู้บริโภคใช้เวลาบนหน้าจอมือถือในการดูสตรีมมิ่งกว่า 5.4 แสนล้านชั่วโมงตลอดปี 2021 ดังนั้นหากแบรนด์มีความร่วมมือกับ Influencer ที่มีการทำสตรีมมิ่งจะช่วยให้แบรนด์เพิ่มการรับรู้และยอดขายได้มากขึ้น

3. เนื้อหาที่ผู้ใช้งานสินค้าและบริการจริงสร้างขึ้น

เนื้อหาที่ผู้ใช้สินค้าและบริการจริงสร้างขึ้นคือเนื้อหาที่มีอิมแพคต่อกลุ่มเป้าหมายมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ทางแบรนด์สร้างขึ้นเราจะเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายจะให้ความเชื่อถือเนื้อหาของผู้ใช้งานสินค้าจริงมากกว่า เนื้อหาดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้า แฮชแท็กของแบรนด์ แท็กรูปภาพที่ปรากฏอยู่ในโซเชี่ยลมีเดียช่องทางต่าง ๆ คือสิ่งที่แบรนด์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น

4. โซลูชันการกำหนดเป้าหมายใหม่

อีกไม่นาน Google จะถูกกำหนดให้เลิกใช้ cookie ของบุคคลที่ 3 จากนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งตัว cookie มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้เว็บไซต์และข้อมูลนี้เองที่มีความสำคัญต่อนักการตลาดในการนำไปใช้งาน ดังนั้นนักการจลาดจึงต้องพยายามมองหาโซลูชั่นใหม่ในการกำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาเนื้อหาและโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลต่อไป

5. การตลาดแบบคล่องตัว (Agile)

การตลาดแบบ Agile เป็นการตลาดที่เน้นการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้นักการตลาดสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น โดยการตลาดแบบนี้มีประโยชน์ในแง่ที่สามารถปรับความยืดหยุ่นให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงจากการวางแผนซ้ำ ๆ สามารถที่จะส่งมอบคุณค่าได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ให้ความสำคัญกับคุณค่าของลูกค้าและผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่ากิจกรรมและผลลัพธ์ เน้นการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น มีความโปร่งใสและเน้นการทำงานร่วมกันผ่านเวิร์กโฟลว์

6. ประสบการณ์ของลูกค้าที่เหนียวแน่น

ลูกค้ายังคงคาดหวังประสบการณ์ที่ตรงกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ มีความจำเพาะและปรับรูปแบบให้เข้ากับพวกเขามากที่สุด ซึ่งนักการตลาดต้องหลีกเลี่ยงการให้ความสำคัญเฉพาะแค่แคมเปญเท่านั้นต้องไม่ลืมว่าลูกค้าไม่ได้ตอบสนองต่อแบรนด์ด้วยช่องทางนี้เพียงช่องทางเดียว

นักการตลาดจึงต้องเข้าใจพฤติกรรมและประสบการณ์ต่าง ๆ ของลูกค้าให้มากโดยวิธีการหนึ่งที่เราอยากแนะนำก็คือการสร้างแผนที่การเดินทางของลูกค้า ซึ่งจะแสดงภาพกระบวนการต่าง ๆ ของลูกค้าตั้งแต่การคิดและการตัดสินใจซื้อ โดยวิธีการนี้จะทำให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้ามากขึ้นและทำการตลาดได้ตรงกับความต้องการของพวกเขาได้ในที่สุด

7. ช่องทางประชาสัมพันธ์ทุกแพลตฟอร์มต้องปรับให้เหมาะสมและทำงานได้ง่ายในทุก ๆ อุปกรณ์

หากคุณมีช่องทางการติดต่อกับลูกค้าที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นช่องทางเว็บไซต์หรือโซเชี่ยลมีเดียรวมถึงแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ คุณต้องแน่ใจว่าช่องทางทุกช่องทางของคุณสามารถทำงานได้ดีบนทุก ๆ อุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงคอมพิวเตอร์ เพราะเมื่อใดที่ลูกค้าเข้าถึงคุณได้ง่ายในทุกเครื่องมือสื่อสารก็เท่ากับว่าคุณกำลังส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับพวกเขาเช่นกัน

อีกหนึ่งข้อควรคำนึงก็คือคุณต้องมั่นใจว่าทุก ๆ ช่องทางที่คุณสร้างขึ้นนั้นใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก เพราะอะไรก็ตามที่ใช้งานยาก เข้าถึงยากมันไม่น่าดึงดูดใจเอาเสียเลย

8. กลยุทธ์การค้นหาด้วยเสียงสำหรับ SEO

นอกเหนือจากการ search หาข้อมูลด้วยการพิมพ์ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับการตลาดในปี 2023 ก็คือการประยุกต์ใช้ SEO สำหรับการค้นหาด้วยเสียง จริง ๆแล้วการใข้เสียงในการสั่งงานอุปกรณ์ต่าง ๆ มีการพัฒนามาระยะหนึ่งแล้ว วิธีการเช่นนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการค้นหาสิ่งที่ต้องการผ่านเสียง หากธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้และคำตอบมีความแม่นยำก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแต้มต่อสำคัญที่มีเหนือกว่าคู่แข่ง

9. การตลาดเชิงสนทนา

แทนที่จะให้ลูกค้ารอคอยคำตอบอย่างไม่มีจุดหมายจะเป็นการดีกว่าไหมถ้าคุณจะสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที การตลาดในแนวทางนี้ถูกเรียกว่า Conversation marketing หรือการตลาดแนวสนทนาซึ่งอาศัยการส่งข้อความที่มี keyword ตรงกับสิ่งที่ต้องการคำตอบและระบบ AI เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้คนที่เข้ามายังหน้าเว็บ การตลาดแนวทางนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังสนทนากับแบรนด์มากกว่าที่จะรู้สึกเพียงแค่การทิ้งข้อความไว้เพื่อรอการตอบกลับเท่านั้น

10. การสร้างคอนเทนต์ให้มีเนื้อหาที่เน้นให้เกิดการโต้ตอบของกลุ่มเป้าหมาย

หมดยุคของการโพสต์เนื้อหาที่มาในรูปแบบ passive ที่เน้นให้ลูกค้ารับสารเพียงทางเดียวแล้ว เพราะในอนาคตเนื้อหาที่เน้นกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายโต้ตอบได้เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างความสนใจได้มากกว่าเช่นอินโฟกราฟิกแบบโต้ตอบ แบบทดสอบต่าง ๆ เกม การประเมินผล รวมถึงคลิปวิดีโอที่สามารถโต้ตอบกลับได้

81% ของนักการตลาดยอมรับว่ากลยุทธ์นี้มีต้นทุนต่ำแต่สร้างอิมแพคได้สูงกว่า มีประสิทธิภาพในการดึงดูดความสนใจได้มากกว่าเนื้อหาแบบที่เป็น passive ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ยังรวมไปถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ชม

เพิ่มโอกาสในการขายและ Conversion เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ และมีส่วนปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

11. เครื่องมือและแอพที่ใช้ VR

ในอนาคตเทคโนโลยี VR จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตมากขึ้น ในเชิงการตลาดเทคโนโลยี VR จะช่วยโปรโมทแบรนด์ด้วยการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้ลูกค้าใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ นวัตกรรมนี้จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในวงการการตลาดในปี 2023

12. AI เพื่อการเทรนด์ที่ดีขึ้น

เทคโนโลยี AI กำลังจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในหลายอุตสาหกรรมภายในไม่กี่ปีข้างหน้า  นักการตลาดเองก็กำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เช่น โมเดลข้อมูล อัลกอริธึมเพื่อให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น  ข้อมูลนี้สามารถช่วยนักการตลาดเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับแต่งและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เนื้อหา และปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าให้เป็นส่วนตัว จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางทำการตลาดในปี 2023 ที่จะถึงนี้

13. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT

Internet of Things (IoT) ได้มีการพัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และตอนนี้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น โดยคำนี้อธิบายเครือข่ายของทุกสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อผ่านเซ็นเซอร์และซอฟต์แวร์เพื่อวัตถุประสงค์ในการเชื่อมต่อและแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันทางอินเทอร์เน็ต ด้วยเหตุนี้นักการตลาดจึงควรเริ่มคิดเกี่ยวกับวิธีการรวม IoT และAIเพื่อเน้นไปสู่การตลาดแบบ omnichannel สำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะถึงนี้

14. เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม

กระแสความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การตลาดที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสำคัญไม่น้อย แบรนด์ใดที่ทำให้เห็นว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมก็จะได้รับโอกาสจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

นักการตลาดในปัจจุบันพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์สินค้ามีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านแคมเปญต่าง ๆ และต้องยอมรับว่าแคมเปญหลายอย่างก็มีกระแสตอบรับในเชิงบวกไม่น้อยทีเดียว

15. การเป็นตัวแทนและการรวมกัน

นักการตลาดหลายคนพยายามอย่างมากที่จะสร้างแคมเปญที่สื่อถึงความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมกัน โดยกลยุทธ์นี้จะเน้นไม่ให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก ซึ่งมีงานวิจัยระบุมาว่าผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์ต่าง ๆ จะส่งเสริมในเรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียม ซึ่งหากธุรกิจของคุณทำได้ก็จะกลายเป็นแรงผลักดันเชิงบวกต่อความพยายามในการสร้างความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกซึ่งจะสร้างความไว้วางใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ในที่สุด

16. มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวกำลังได้รับการพูดถึงมากในปัจจุบัน บริษัทที่มีชื่อเสียงหลายบริษัทกำลังพัฒนาเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องให้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ใช่เทคนิคทางการตลาด แต่ความปลอดภัยของข้อมูลที่มากขึ้นจะช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจที่จะให้ข้อมูลส่วนตัว คุณจึงจำเป็นต้องพิจารณาอัปเกรดซอฟต์แวร์ความเป็นส่วนตัวของคุณในปี 2023 เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว

ทั้ง 16 เทรนด์การตลาด 2023 คือสิ่งที่คุณควรจะให้ความสำคัญหากต้องการที่จะรักษาความได้เปรียบเหนือคู่แข่งเอาไว้ เพราะเมื่อใดที่เทรนด์การตลาดเปลี่ยนแปลงไปแล้วคุณไม่พยายามตามเทรนด์นั้นก็เท่ากับว่าคุณกำลังเดินถอยหลังและในไม่ช้าคุณจะพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งที่พัฒนาตัวเองไปอย่างแน่นอน

หากท่านกำลังมองหา ที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์  ทีมงาน Taokae MAI พร้อมให้บริการ

ตัวอย่างคอนเทนต์ธุรกิจขายตรง