กรณีศึกษาเครื่องนอน PASAYA  จากโรงงานทอผ้าเล็กๆ สู่ ธุรกิจสู่ 1,000 ล้านบาทส่งออกทั่วโลก 

• Facebook
• Twitter
• Line

แบรนด์ PASAYA มีจุดเริ่มต้นมาจาก บริษัท สิ่งทอซาติน โรงงานทอผ้าเล็กๆ ย่านพระประแดงในปี 2529  โรงงานที่มีเพียงเครื่องจักรทอผ้ามือสอง 20 เครื่องกับคนงาน 50 คน

เมื่อบริษัทไปได้ดี จึงเริ่มขยายกิจการและทำส่งออก พบปัญหา ไม่สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าได้อย่างครบวงจร  ที่สุดจึงบริษัทตัดสินใจค่อยๆ ขยายการผลิตให้ครบตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อควบคุมคุณภาพสินค้าได้เต็มที่ 100%   จนเกิดเป็นโรงงานใหญ่บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ในจังหวัดราชบุรี

ความสำเร็จเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ผู้บริหาร  “คุณ ชเล วุทธานันท์”  ผู้ก่อตั้งบริษัทซาตินสิ่งทอ นำความรู้ปริญญาตรี วิศวกรรมสิ่งทอ จากสหรัฐอเมริกา มาช่วยบริหารธุรกิจครอบครัว ด้วยวิสัยทัศน์เฉียบคมทางตลาดในวันนั้น ทำให้มองขาดว่า แนวโน้มธุรกิจสิ่งทอไทยจะลำบากหากไม่ปรับตัวจากเดิม ที่เพียงรับจ้างผลิตเท่านั้น (OEM) เพราะคู่แข่งต่างพัฒนาอย่างก้าวกระโดด  นั่นคือจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ PASAYA เติบโตอย่างรวดเร็ว

PASAYA แพศยา มารยาดี นำพาธุรกิจก้าวไกล

จากการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ OEM (Origianl Equipment Manufacturer)  สู่การเป็นผู้ออกแบบสินค้าเอง ODM (Original Design Manufacturing)  และสุดท้ายขยับมาเป็นผู้ผลิต &จำหน่ายในแบรนด์ตัวเอง OBM (Original Branding Manufacturing)  บริษัทจึงต้องคิดตั้งชื่อแบรนด์ขึ้นมา โดยมีโจทย์ คือ เป็นคนไทย ต้องใช้ภาษาไทย , เป็นชื่อที่ฟังแล้วจำได้ติดหู , ต้องเป็นเสียงสระเสียงยาว ที่ทุกชาติ ทุกภาษาสามารถออกเสียงได้  ….โจทย์ง่ายๆ  แค่นี้ไม่มีอะไรซับซ้อน

“แพศยา“  คือคำตอบที่ได้ในขณะนั้น เพื่อที่จะสื่อถึงผู้หญิงที่สวย เก่ง ฉลาดและมีอำนาจในตัวเอง แต่ติดอยู่ที่คนไทยจะคิดอย่างไรกับชื่อนี้  ฟังเผินๆ มันอาจจะคือปัญหา แต่ถ้าดูให้ดี คิดตามให้ลึก …  คำนี้ คือใช่เลย ครบถ้วนตามเงื่อนไข เมื่อเขียนเป็นภาษาอังกฤษออกมา จึงได้เป็น “ PASAYA” อย่างที่เห็น  สวยงามครบสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ

ใช้ Design สร้างแบรนด์สินค้า ใช้ IT ขับเคลื่อนธุรกิจ

การมองไกลของผู้บริหารในเวลานั้นได้สร้างความยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา คือ มีการตั้งหน่วยออกแบบดีไซน์ และ หน่วย IT  ขึ้นมาในองค์กร  ไม่น่าเชื่อเพียงเท่านี้ ก็ได้ทำให้โรงงานเล็กๆ ในย่านประพระแดง สามารถทำสิ่งที่แตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่นๆได้  สุดท้ายก็นำพาบริษัทให้ไปไกลได้ถึงต่างแดนในอีก 2 ปีถัดมา  สิ่งที่พาให้ก้าวเดินอย่างเกินคาดอีกอย่าง ก็คือ การที่บริษัทได้ปลดล็อกทางความคิด ยอมให้หน่วยออกแบบดีไซน์สร้างผลงานได้ โดยไม่ยึดติดต้นทุนราคา ณ จุดนี้ ทำให้มีงานผ้าใหม่ๆ ดีไซน์แปลกๆ สีสันสวยงาม ออกมาสู่ท้องตลาดอีกมากมาย

ไม่แข่งกันเอง ไปโต Global

PASAYA จะเลือกออกงาน Fair ที่ไม่มีคู่แข่งจากเอเชีย โดยเฉพาะจีน ด้วยเหตุผลที่ว่า ประเทศในแถบเอเชียไม่ควรจะแข่งขันกันเอง เราควรต้องสร้างตัวเองให้ต่าง โชว์ศักยภาพให้เต็มที่และพัฒนาให้ทัดเทียมกับแบรนด์ยุโรป นั่นคือสิ่งที่ PASAYA  คิดเสมอมา

The Factory is perfect โรงงานคือบ้านหลังที่สองของพนักงาน

พนักงานกว่า 800 คนของบริษัท ทำงานอย่างมีความสุข  บนเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ใน จ.ราชบุรี กับสภาพแวดล้อมโรงงานที่ถูกออกแบบมาให้เป็นอย่างดี เช่น  โรงทอ มีการติดเแอร์ไอน้ำให้, โรงย้อม ทำอาคารแบบไม่มีกำแพง เพื่อไม่ให้ร้อนอบอ้าว, โรงเย็บ มีป่าสีเขียวไว้ให้กลางอาคาร เพื่อพักสายตา มีโรงอาหารดีไซน์สวย style modern  ชื่อเก๋ๆ ว่า “ Octospider ”   อาคารสัญลักษณ์แห่งคุณภาพชีวิตพนักงาน ที่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งใน Landmark ของโรงงานแห่งนี้ไปแล้ว

การมีชีวิตที่ดี มีสวัสดิการที่ดี ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี งานที่ออกส่งต่อมาก็จะมีคุณภาพดีไปด้วย  แนวคิดง่ายๆ จากบริษัท เพื่อส่งต่อความสุขให้พนักงาน 

ถอดวิสัยทัศน์ ปรับตัวสู้วิกฤต … ดิ้นทุกทาง เพื่อความอยู่รอด

เมื่อเกิดปัญหาการส่งออกชะลอตัวลง บริษัทมีการปรับยุทธศาสตร์พาองค์กรฝ่าวิกฤต โดยปรับภาพลักษณ์ และให้ความสำคัญกับตลาดภายในประเทศมากขึ้น  ขายสินค้าราคาโรงงานผ่านช่องทาง Outlet  ของโรงงาน ซึ่งสุดท้ายแล้วสามารถต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย  อีกทั้งยังส่งสินค้าไปขายยังศูนย์การค้าโดยตรงลดขั้นตอนผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย ค่อยๆ ปรับลดสัดส่วนรับจ้างผลิตลงเพื่อเพิ่มสัดส่วนในแบรนด์ตัวเองให้มากขึ้น ทั้งยังอนุญาตให้พนักงานหนึ่งคนทำงานได้หลายหน้าที่ และสร้างแรงจูงใจโดยการให้ค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น … เป็นการดิ้นทุกทาง ทำทุกอย่างเพื่อสร้าง PASAYA ให้แข็งแรง

นอกจากนั้น ยังสร้างความเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า ที่นี่ไม่มีนโยบายปรับลดพนักงาน  พนักงานจึงเทใจให้ งานนี้บริษัทได้ไปเกินร้อยWhisper of PASAYA … เรียนรู้ธุรกิจผ่านเส้นใย

1.สูตรสำเร็จไม่มีอะไรซับซ้อน

มันเพียงแค่การสร้างสินค้าที่มีคุณภาพให้ดี ให้เกียรติลูกค้า ซื่อสัตย์เสมอต้นเสมอปลาย และเจ้าของต้องเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง ไม่มีอะไรยากกว่านี้

2.ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่า “ความไม่รู้”

ความไม่รู้ในที่นี่ คือ ความไม่รู้ในการทำธุรกิจ  ไม่ว่าจะเรื่อง Demand Supply , Life Style ลูกค้า  ถ้าไม่รู้สุดท้ายจะไม่ทัน และจะแพ้ไปในที่สุด  ไม่ได้ไม่มี  ไม่รู้ต้องรู้

3.หาที่ยืนบนพื้นที่โล่ง เพื่อสูดความหอมหวานได้เต็มที่

สร้างความต่างของตัวเองให้ได้ หาจุดยืนตัวเองให้เจอ แล้วปักหลักลึกลงไปในแนวดิ่ง จากนั้นค่อยแผ่ขยายออกแนวด้านข้าง

4.คุณภาพชีวิตที่ดี คือ จุดเริ่มต้นของสินค้าคุณภาพดี

สภาพแวดล้อมที่ดี สะดวกสบายสำหรับการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพเชิงบวกให้พนักงานทุกคน สุดท้ายแล้วผลงานที่มีคุณภาพดีก็จะเกิดตามมาได้ไม่ยาก และสร้างมูลค่ากลับคืนสู่บริษัทอย่างมหาศาล

เมื่อก่อน เธออาจจะดูอ่อนเยาว์นัก  เมื่อเทียบกับระดับแบรนด์โลก

แต่วันนี้ PASAYA  ไม่ใช่หญิงสาวไร้เดียงสาอีกต่อไป

เธอกลายเป็นหญิงสาวชั้นสูงแสนพราวเสน่ห์ ดูดี มีมาด ชนิดที่มองแล้วไม่อาจละสายตาได้เลย

I fall in love with you…PASAYA   เธอช่างแพศยา จริงๆ !!!

บทความโดย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร “เขียนบทความสร้างรายได้ รุ่น 2”

คุณ ดาริกา กลัดณรงค์ (ปุย) ปริญญาตรีเภสัชศาสตร์บัณฑิต จากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบัน  เภสัชกร part time ของโรงพยาบาลเอกชน

บทความเกี่ยวกับกรณีศึกษา

• กรณีศึกษากระเป้าผ้า นารายา อดีตแม่ค้าขายไข่ไก่และถุงพลาสติกประตูน้ำสู่ธุรกิจกระเป๋าพันล้าน
• กรณีศึกษา สมุนไพรอภัยภูเบศร ธุรกิจเพื่อชุมชน บทพิสูจน์ภูมิปัญญาไทยไม่เก่าเลย
• กรณีศึกษา เอ็มเค จาก“สุกี้เอ็มเค” ถึง“เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” ร้านอาหารหมื่นล้าน
• กรณีศึกษา Superrich ธุรกิจแลกเงินแสนล้าน ใครเป็นเจ้าของ ?
• กรณีศึกษา Café’ Amazon ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันสู่แฟรนไชส์พันล้าน

• Facebook
• Twitter
• Line