กำไร = รายได้ – ค่าใช้จ่าย จะทำให้มีกำไรเพิ่มทำได้ 2 อย่างครับ ไม่หารายได้เพิ่มก็ลดค่าใช้จ่าย แต่จะให้ดีที่สุดก็ต้องทำทั้งเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่าย คุณว่าจริงไหม !!

วันนี้เรามาคุยกันในประเด็นเรื่องการ ลดค่าใช้จ่าย หรือต้นทุนกันก่อนนะครับ แม้มันจะดูขัดแย้งกับคำพูดบางคำที่ว่า “ลดรายได้ ก็ไม่ได้ทำให้รวย” ซึ่งจริง ๆ ผมก็ไม่ได้ไม่เห็นด้วยนะครับ เพียงแต่เห็นย้อนแย้งบางส่วนครับ ว่า “ไม่ลดต้นทุน ก็อาจทำให้เราจนหรือเจ๊งเลยก็ได้”

เคยเห็นเรือล่มเพราะรอยรั่วเล็ก ๆ ไหมหละครับ ธุรกิจมันก็เหมือนเรือหละครับ ไม่ว่าลำเล็กหรือใหญ่ เมื่อเห็นรอยรั่วไม่ใช่การมัวนิ่งเฉย รีบจ้ำอ้าวพายแจวเรือ เดินเครื่องเรือให้เร็วขึ้นเพื่อให้ถึงเป้าหมายให้เร็วเข้า มันอาจโชคดีถ้าเราไปถึงจุดหมายก่อนที่จะน้ำท่วมเรือ แต่เมื่อไปถึงเป้าเราก็ต้องเสียแรงเสียเวลาจัดการกับน้ำที่เข้าเรือ จัดการกับรูรั่ว มากกว่าตอนที่เราเพิ่งเห็นรูนั้นนะครับ

หากโชคร้ายเรือไปไม่ถึงเป้าหมายหละครับ เราก็จมไปกับเรือลำนั้น ตายไปด้วยกันเพราะรอยรั่วเล็ก ๆ ที่เราเห็นว่ามัน “ไม่เป็นไรหรอก”

9 วิธีลดต้นทุน สำหรับกิจการ SMEs

1.วางแผนงบประมาณและเข้มงวดการใช้จ่ายให้ตามแผน

คงต้องเริ่มกับการมารื้อแผนงานค่าใช้จ่าย งบประมาณในด้านต่าง ๆ กันนะครับ ว่ามีความเหมาะสม พอควร มีความรัดกุมมากน้อยขนาดไหน หรือว่าทุกวันนี้เราคิดจะจ่ายอะไรก็จ่าย จะซื้ออะไรก็ซื้อ มีโครงการอะไรก็ไม่ได้กำหนดกรอบงบประมาณ ไม่ได้มีการสืบค้นราคา ไม่เปรียบเทียบราคา ซื้อแพง จ่ายค่าโง่อยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า

เอาใหม่ครับ !! วางกรอบจัดทำแผนงานทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน “จ่ายเงิน” คิดให้จบในกระดาษ ก่อนที่จะลงมือจ่ายเงินจริง

นอกจากวางแผน ที่ชัดเจนแล้วสิ่งที่สำคัญไม่ย่อหย่อนไปกว่ากันคือ การเข้มงวดในการปฏิบัติตามแผนค่าใช้จ่ายเหล่านั้นนะครับ หากต้องจ่ายเพิ่มก็ต้องมีแผนงานพิจารณาอนุมัติ ไม่อย่างนั้นก็จะเข้าสู่วังวนเดิม

2.ใช้วิธีการ Barter แลกเปลี่ยนสินค้าแทนเงิน

วิธีการหนึ่งที่อยากลองเสนอคือการ แลกเปลี่ยน สินค้าหรือบริการแทนการใช้เงิน ยกตัวอย่างเช่น เราขายมือถือ เพื่อนเราทำบัญชี แทนที่เราจะจ้างเพื่อนทำบัญชีด้วยเงินทุนก้อนใหม่ เราก็ใช้วิธีการจ่ายเป็นมือถือ แล้วเพื่อนก็ทำบัญชีให้เรา

มันเป็นวิธีแบบโบราณที่เรียกว่า “หมูไป ไก่มา” แลกเปลี่ยนกันด้วยความเท่าเทียบและเหมาะสม โดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม อาจจะทำไม่ได้กับทุกธุรกิจ สินค้า แต่ผมว่ามันก็พอมีช่องทาง บางสินค้าค้า บริการที่เขายินดีที่จะ Barter แลกเปลี่ยนกับเรานะครับ

3.ใช้สินค้ามือสอง บ้างก็ไม่มีใครว่า

เดี๋ยวนี้สินค้า เครื่องมือ อุปกรณ์สำนักงาน มือสองมีให้เลือกซื้อเลือกหากันมากครับ ไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ ราคาอย่างน้อย ๆ เราประหยัดไปกว่า 30-40% เลยทีเดียวนะครับ

ห๊ะ !! อะไรนะ ประหยัดได้ 30-40% เท่ากับว่าเราสามารถทำกำไรเพิ่มได้กว่า 30-40% เช่นกัน โอ้แม่เจ้า…

ใช่แล้วครับ เพราะทุกวันนี้กำไรจะหาได้สัก 10-20% ผมบอกได้เลยว่าแทบกระอักเลือดนะครับ สินค้ามือสองจึงน่าจะเป็นทางเลือกต้น ๆ สำหรับการตั้งต้นธุรกิจ เป็นแนวทางสำหรับการลดต้นทุนที่เหมาะสมสำหรับยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน

4.อะไรทำเองได้ ก็ควรทำ ลงแรงมากกว่าลงเงิน

อย่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ (มันอาจจะเป็นความล้มเหลวก็ได้) บางอย่างถ้าเราทำเองได้ก็ทำก่อนเถอะครับ จะได้เรียนรู้ไปด้วย เผลอ ๆ อาจจะได้งานที่ดีกว่าจ้างคนอื่นทำ

ผมยกตัวอย่างเช่นการจ้างบริษัทโฆษณาทำการตลาดออนไลน์นะครับ พวกนี้อาจได้ไม่คุ้มเสีย หากเราจ้างแล้วไม่รู้ว่าเขาทำอะไรให้เราบ้าง เผลอ ๆ เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ผมแนะนำว่าอย่างนี้เราต้องไปลงเรียนคอร์สแล้วมาฝึกทำเอง จะประหยัดกว่ามากเลยทีเดียว ยิ่งทำไปบ่อย ๆ มันจะเกิดความชำนาญ และมีโอกาสค้นพบเคล็ดวิชาไหมฟ้า สำหรับธุรกิจเราเองก็เป็นได้นะครับ

อย่าหวังพึ่งลมหายใจของคนอื่นไปตลอดกาล แต่จงฝึกหายใจ ฝึกก้าว ฝึกเดินด้วยขาของเราเองให้มากที่สุดครับ ไว้คล่องแคล่ว แล้วค่อยจ้างคนอื่น อย่างรู้คุณค่าของเงิน และได้ประสิทธิผลของงานมากที่สุด

5.ทำเล ห่างออกมาจากชุมชนบ้างก็ได้

ผมเชื่อว่าเรื่องของทำเล เป็นเรื่องของความเหมาะสมของธุรกิจครับ แต่บางธุรกิจทำเลแหล่งชุมชนก็ไม่จำเป็นนะครับ เมื่อมันไม่จำเป็นก็ไม่ต้องพาตัวเองเข้าไป เพราะจะทำให้ต้นทุนมันเพิ่มขึ้นโดยมิใช่เหตุครับ

ยกตัวอย่างคุณทำธุรกิจขนมขบเคี้ยว จำเป็นไหมที่ออฟฟิต สำนักงานต้องไปอยู่ในใจกลางเมือง ผมกลับมองว่า ไปอยู่นอกเมือง ชานเมืองเลยก็ได้ ขอเพียงแค่คมนาคมสะดวกสามารถส่งสินค้าเข้ามาในเมืองได้ง่าย อย่างนี้ประหยัดงบค่าออฟฟิตได้มากโข

ต้องดูธุรกิจเราด้วยนะครับ ว่ามัน ควรอยู่ที่ไหน ไม่ใช่ว่าเห็นเพื่อนอยู่ในแหล่งชุมชน ในเมืองแล้วเราจำเป็นที่จะต้องตามเขาไปด้วย มีเยอะนะครับธุรกิจที่อยู่ในเมือง แต่หักลบกลมนี้แล้ว บ่.จี๊ เงินไม่มีนะครับเพราะต้องเสียค่าที่เช่าหมด

6.บัตรเครดิต ใช้แต่พองาม

มือใหม่หัดขายส่วนใหญ่ก็ได้เงินมาจากบัตรเครดิตนี่แหละครับ ผมเองก็ทำ ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่ครับ เพียงแต่ว่าสิ่งที่ผมทำคือ แบ่งให้ชัดเจนครับว่า บัตรนี้สำหรับธุรกิจ บัตรไหนสำหรับส่วนตัว อย่านำมามั่วใช้ด้วยกัน

นอกจากนั้นแล้วครับ ต้องมีการบันทึกรายการใช้จ่ายให้ชัดเจน รวมถึง “จ่ายเต็ม” จำนวนนะครับ อย่าพยายามจ่ายแบบยอดต่ำสุด เพราะมันจะเป็นการบริหารเงินแบบ “หนี้พอกหางหมู”

การใช้บัตรเครดิต เป็นการช่วยเราบริหาร cash flow อย่างดีนะครับถ้าเรารู้จักใช้และวางแผนการใช้อย่างพองาม หากใครรุ่มร่ามเรื่องใช้บัตรเครดิต ในการทำธุรกิจก็มีสิทธิ์เจ๊ง เอาได้ง่าย ๆ เหมือนกันนะครับ

7.กระดาษเลิกใช้ถ้าไม่จำเป็น

กระดาษเป็น หรือ ของใช้อะไรที่ “ไม่จำเป็น” แนะนำว่าให้ ลด ละ เลิก ใช้ไปเลยก็ดีนะครับ เพราะต้นทุนเล็ก ๆ น้อย มาก ๆ เข้ามา ๆ มันก็กลายเป็นต้นทุนที่เราไม่ควรต้องจ่ายนะครับ

นอกจากเรื่องของกระดาษ สิ่งของเล็กน้อย แล้ว เราสามารถที่แปลง ขยะ เหล่านี้ให้เป็น “เงิน” กลับมาได้ด้วยนะครับ มีบริษัทที่เขารับซื้อขยะ หรือไม่เราเองก็เก็บรวบรวมไปขายเองที่เขารับซื้อขยะก็ได้นะ อย่างที่ออฟฟิตผมก็ทำ ขายได้ทั้งกระดาษลัง กระดาษหนังสือพิมพ์ ฯ

อย่าละเลยเรื่องเล็ก ๆ น้อย เหล่านี้นะครับ

8.ใช้เทคโนโลยีแทนคนให้มากที่สุด

เดี๋ยวนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือทุนแรงหลายอย่างที่จะใช่ให้เราประหยัดงบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพนักงาน ยกตัวอย่างเช่น การจัดส่งสินค้า เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงาน ต้องซื้อมอเตอร์ไซต์ รถยนต์ให้มันเป็นภาระค่าใช้จ่ายนะครับ เราสามารถใช้เทคโนโลยี แอปพลิเคชั่น บริการใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่สิ่งเหล่านี้ได้

เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจของเราครับ ดูที่ต้นทุนมันต่ำ หรือเป็นของฟรีเลยก็ได้นะครับ ถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีเทคโนโลยีอะไรที่เราสามารถนำมาใช้ได้ ผมคงต้องตอบว่า พี่ลองหาดูใน google สิครับ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า มีคำตอบ มีทางเลือกให้กับท่านได้เยอะทีเดียว

9.การตลาดออนไลน์ เริ่มเลยทันที

สุดท้ายของแนวทางลดต้นทุนที่ผมเสนอคือ รุกตลาดออนไลน์ แต่ใช่ว่าเวทีนี้ไม่มีรายจ่ายนะครับ มีครับ แต่เมื่อเทียบกับการตลาดบนโลกออฟไลน์แล้วส่วนนี้ถือว่าน้อยกว่าพอสมควร แต่ แต่…ไม่ใช่บอกให้เลิกการค้าขายออฟไลน์ไปนะครับ ผมแนะนำให้เพิ่มช่องทางนี้มาเพิ่มต่างหากนะครับ

สร้างเว็บ ขายบนเฟส IG หรือ Line@ ทำให้เป็นใช้ให้คล่องครับ ผมแนะนำว่าไปหาลงเรียน หาหนังสือมาอ่านแล้วทดลองทำ ทดลองเล่นครับ อย่าเสียเวลาบนโลกออนไลน์โดยเสียเวลาและเสียเงิน ไหน ๆ จะติด Social แล้วก็ให้ติดกันแบบได้เงินน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่านะครับ

ลองนำแนวทางลดต้นทุนทั้ง 9 ข้อไปลองนำปรับใช้กันดูนะครับ หรือหากมีใครมีคำแนะนำในการบริหารต้นทุนได้ดีกว่านี้ อยากให้ลองแนะนำกันเข้ามานะครับ แบ่งปันความรู้กันครับ บอกเล่ากันได้เป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ สังคมเถ้าแก่ใหม่ครับ