ในยุคนี้เป็นยุคที่หลายๆ คนอยากเป็นเจ้าของกิจการ จึงมีธุรกิจเกิดขึ้นหลากหลายประเภทและหลายรูปแบบ รวมไปถุงธุรกิจแฟรนไชส์ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ อาชีพที่ได้รับความสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้ธุรกิจแฟนรไชส์ที่เราทุ่มเทสร้างขึ้นมาเป็นที่รู้จักกว้างขวาง มีคนสนใจซื้อแฟรนไชส์ และจะทำอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจแฟนรไชส์ของเราอยู่ได้อย่างยืนยาว เรามีเทคนิคมาบอกกัน

 

1 สินค้าที่นำมาสร้างแฟรนไชส์ต้องมีความต้องการแบบชัดเจน

            ทุกการทำธุรกิจก่อนจะเริ่มต้นทำเราต้องรู้ความต้องการของผู้บริโภคก่อน ถึงแม้ว่าการทำธุรกิจแฟรนไชส์นั้นหลายๆ คนจะบอกว่าสินค้าอะไรก็เป็นแฟรนไชส์ได้นั้นเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าถามว่าสินค้าอะไรที่นำมาสร้างธุรกิจแฟรนไชส์แล้วจะอยู่ได้ยืนยาว เรื่องนี้ต้องคิดกันมากสักหน่อย

นั่นเพราะสินค้าบางอย่างอาจเป็นแค่ความต้องการของผู้บริโภคเพียงชั่วคราว เช่น เป็นกระแส แฟชั่น หรือเป็นสินค้าที่ไม่ใช่ที่นิยมจากผู้บริโภคอย่างชัดเจน

แต่หากเป็นสินค้าที่เป็นความต้องการของผู้บริโภคแบบชัดเจนจับต้องได้แล้วข้อนี้ถือว่าผ่าน มีกลุ่มลูกค้ารอซื้ออย่างแน่นอน

2 ต้องมีร้านต้นแบบ

ร้านต้นแบบ ก็คือหน้าร้านขายสินค้าของคุณเองที่หากมีคนสนใจอยากซื้อแฟรนไชส์เขาก็ไปยืนดูได้เลยว่าร้านของคุณมีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ขายของอย่างไร ราคา แพ็คเกจจิ้งหน้าตาเป็นอย่างไร มีรูปแบบร้าน การตกแต่งสีสันน่าดึงดูดความสนใจมากน้อยแค่ไหน เรียกว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้ลูกค้านั่นเอง และจะให้ดีควรมีร้านสาขาตัวอย่างสัก 2-5 สาขา เพื่อให้คนรู้จักมากขึ้น โดยคุณอาจลงทุนขยายสาขาเองหรือเป็นการขายแฟรนไชส์ตัวอย่างก่อนก็ได้

3 ต้องมีการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์แฟรนไชส์

ไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็หนีไม่พ้นเรื่องของการตลาดและประชาสัมพันธ์ บางคนบอกว่า ขายของรายได้แค่นี้จะไปจ่ายเงินทำการตลาดประชาสัมพันธ์ให้เสียเงินเพิ่มอีกทำไม หรือบางคนที่ขายดีอยู่แล้วอาจคิดว่า ทำไมต้องเสียเงินเพิ่มด้วยในเมื่อร้านของเราก็ขายดีอยู่แล้ว

การตลาดและประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นวิธีการบอกให้โลกรู้ว่าคุณมีของดีรอพวกเขาอยู่ตรงนี้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเห็นผล แต่ถ้าคุณทำถูกวิธีและถูกช่องทางแล้วย่อมได้ผลเกินกว่าเงินที่ลงทุนไปอย่างแน่นอน

4 ต้องมีการควบคุมคุณภาพ

คุณภาพเป็นเรื่องจำเป็นไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค ถ้าเป็นของกินต้องควบคุมความสด ใหม่ สะอาด ทั้งก่อนส่งให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์และต้องมีวิธีควบคุมคุณภาพบอกให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์รู้ด้วยเพื่อรักษาคุณภาพสินค้าก่อนถึงมือลูกค้า ในขณะที่ถ้าเป็นของใช้ต้องดูแลคุณภาพให้สินค้าเป็นไปตามที่เราโฆษณาไว้ในทุกๆ ด้าน

 5 เจ้าของต้องลงไปดูแลเอง

หลายๆ ครั้งการเป็นเจ้าของธุรกิจที่ให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ เท่านั้นจนลืมที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องบางเรื่อง จุดสำคัญของธุรกิจแฟรนไชส์ก็คือ ถ้าคุณมีจำนวนแฟรนไชส์ไม่มากจนเกินกว่าที่จะดูแลได้ด้วยตัวคนเดียว เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ต้องไปดูแลผู้ซื้อแฟรนไชส์ด้วยตัวเอง อย่าคิดว่าเราสอนทีมงานมาจนมั่นใจแล้วส่งทีมงานไปแทนก็ได้ ทำงานมีคุณภาพเหมือนเรา คำตอบคือไม่เหมือน เพราะแม้ว่าทีมงานจะเก่งแค่ไหนแต่ขาดสิ่งหนึ่งไป นั่นคือ “หัวใจเจ้าของ”

และการที่เจ้าของได้ลงไปดูแลเองจะทำให้ได้รู้ถึงปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นกับหน้าร้านว่าเป็นอย่างไร หลายๆ ครั้งที่เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์มั่นใจว่าได้วางระบบการขาย ระบบคลังสินค้า ไว้อย่างดีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องลงไปดูแลเองนั้น อาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะปัญหาหน้าร้านนั้นมีมากมายกว่าที่เราจะกำหนดได้ เช่น พนักงานขาย ความชอบ-ไม่ชอบของลูกค้า เป็นต้น

6 ต้องมีจรรยาบรรณคนทำแฟรนไชส์

เรื่องหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือ “จรรยาบรรณ และซื่อสัตย์” หากบอกว่าธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณที่ขายให้แก่ผู้สนใจนั้นพวกเขาจะได้รับสิ่งใดบ้าง เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์จะช่วยดูแลส่วนใดให้บ้าง เช่น การตลาด การบริหารคลังสินค้า เมื่อมีผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วก็ต้องทำให้เขาได้ตามที่บอกไว้จริงๆ ไม่ใช่แค่การบอกให้ดูดี มีคนหลงเชื่อจ่ายเงินค่าแฟรนไชส์ให้แล้วไม่ทำตามนั้น

 

สำหรับผู้ที่คิดอย่างสร้างธุรกิจแฟรนไชส์นอกจากจะมองตลาดออกแล้วว่าสินค้าใดมีความต้องการยังต้องพร้อมที่จะทุ่มเทไปกับการสร้างธุรกิจด้วย และถ้าได้นำ 6 เทคนิคนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจแฟรนไชส์ของตัวเองแล้วมั่นใจว่าธุรกิจแฟรนไชส์จะต้องเติบโตและอยู่ยาวอย่างแน่นอน