ขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊คได้โดยไม่เสียเพื่อน และบางทีเพื่อนเรานั่นแหละที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าและเป็นผู้ติดตามที่ดีเยี่ยม โดยการกดไลค์  แชร์ คอมเม้นท์เพื่อรีวิวสินค้าของเรา ทำให้สินค้าและบริการของเรามีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น

เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ขายของผ่าน Facebook กัน เพื่อน ๆ ที่เรา Follow ก็ยังมีโพสขายสินค้ากันอยู่เรื่อย ๆ แถมยังขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แล้วถ้าเราอยากขายสินค้าผ่าน Facebook บ้างล่ะ จะทำอย่างไรให้ Profile ดูน่าสนใจยอดขายกระฉูด และที่สำคัญเพื่อนที่ติดตามเรายังอยู่ดี ไม่หนี ไม่บล็อคให้เราต้องช้ำใจ

1.รูปโปรไฟล์สำคัญสุด

เขาจะหยุดหรือสไลด์ผ่านไปก็อยู่ที่รูปโปรไฟล์ของเรานี่แหละค่ะ หากรูปโปรไฟล์น่าสนใจการที่เขาจะหยุดเพื่ออ่านข้อมูลสินค้าของเราก็มีสูง แล้วรูปโปรไฟล์ที่น่าสนใจควรมีลักษณะอย่างไร

  • รูปที่ใช้ควรเป็นรูปใหม่ ไม่ใช่รูปเดิมที่เคยใช้มาแล้วหลายครั้ง หรือเป็นการนำรูปภาพของผู้อื่นมาใช้ ถึงแม้จะเป็นสินค้าเดียวกันและเหมือนกันก็ตาม เพราะการใช้รูปเก่า ๆ เดิมๆ ในมุมมองของคนดูมันไม่มีความน่าสนใจอะไรอีกแล้ว เพราะเขาอาจเคยอ่านมาแล้ว ผ่านตามาหลายครั้งแล้ว โอกาสที่เขาจะหยุดอ่านข้อมูลของเราก็จะน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
  • ลูกเล่น สีสันดึงดูดสายตา คนเราชอบอะไรที่แปลกใหม่ การใช้สีสันที่สะดุดตาและการเพิ่มลูกเล่นแปลกใหม่ลงไปในรูปโปรไฟล์ จะทำให้ลูกค้าหยุดดู และนั่นเขาจะรู้ว่าเราคือใคร ขายอะไร สินค้ามีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน
  • รูปโปรไฟล์สื่อความหมาย ผู้ใช้เฟสบุ๊คกว่า 70% ไม่ชอบอ่าน หรือดูคลิปอะไรนานเกิน 15 วินาทีVisual Content  ที่ดีจะช่วย Present ตัวเอง เพียงแค่เห็นรูปภาพก็รู้แล้วว่าเราขายอะไรอยู่ สินค้าและบริการของเราเกี่ยวข้องกับอะไร แต่อย่าลืมใส่ลูกเล่นเพิ่มความน่าสนใจลงไปด้วยนะคะ

2.ข้อความไม่ยาวย้วยจนเกินงาม

จริงอยู่ว่าการอธิบายคุณสมบัติของสินค้าและข้อความโฆษณาโปรโมชั่นต่าง ๆ จะทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจสินค้าและบริการต่าง ของเรามากขึ้น และจะสามารถโน้มน้าวให้เขาเลือกสินค้าและบริการของเราได้…แต่ไม่ใช่กับ Facebook  การโพสข้อความเพื่อกระจายสินค้าผ่าน Facebook ควรสั้น กระทัดรัด แต่ทรงประสิทธิภาพที่สุด

  • ข้อความยาว ๆ จะทำให้ดูรกสายตา และที่แน่ ๆ เขาไม่ชอบอ่านอะไรที่เยอะ ๆ ยาว ๆ เราสามารถใส่ข้อความที่สามารถกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น ได้ใน 3 บรรทัด และใช้วิธีการแชร์บทความจากหน้าเวปไซต์ของเราจะดีกว่า เพราะเมื่อเขาเกิดความอยากรู้อยากเห็น เขาจะอยากกดหน้าเวปที่เราแชร์เองค่ะ
  • ไม่ควรใช้คอนเทนต์เดิม ๆ นอกจากจะมีผลต่อการเข้าถึงโพสของเราเพราะหากคอนเทนต์ขาดความสดใหม่ Facebook จะไม่ให้ความสำคัญและจะกำหนดการเข้าถึงโพสของเราน้อยลง แม้จะมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากก็ตาม นอกจากผลกระทบจากระบบของ Facebook เองแล้ว ยังมีผลต่อกลุ่มเพื่อนใน Facebook ของเราด้วย  เพราะข้อความซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไม่มีความน่าสนใจและเบื่อหน่ายรำคาญได้

3.คลิปวีดีโอโดนใจ

เพราะผู้ใช้เฟสบุ๊คใช้วเลาในการดูคลิปวีดีโอไม่เกิน 15 วินาที และไม่ชอบรออะไรนาน ๆ การที่ไฟล์ใหญ่ ทำให้ใช้เวลาโหลดนาน สุดท้ายต่อให้วีดีโอนำเสนอเนื้อหาดีแค่ไหน ถ้าคนไม่รอก็ขายไม่ได้ การนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบวีดีโอ ต้องมีความน่าสนใจ แปลกใหม่ ดึงเอาความโดดเด่นของสินค้าและบริการของเราออกมาพรีเซนท์ให้โดนตาโดนใจมากที่สุด แม่ค้าออนไลน์ควรใช้ 15 วินาทีให้มีคุณค่า ขายจุดเด่นของเราให้ได้ก่อน เมื่อลูกค้ามีความสนใจสินค้า เขาจะคลิกเข้าไปดูข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งการคอมเม้นท์หรือส่งข้อความสอบถามเพิ่มเติมเองค่ะ

4.Face Live ไฟลุก

ยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไลฟ์สดขายสินค้ากำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านของผู้ขายและผู้ซื้อที่มีความมั่นใจในตัวผู้ขายมากกว่าการโพสขายสินค้าแบบใช้รูปถ่ายแบบเดิม ๆ เพราะสามารถพูดคุยโต้ตอบ สอบถามกับแม่ค้าได้ในทันที และสามารถมองเห็นสินค้าจริงจากการไลฟ์ขายสินค้าของร้านค้า  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2019 นื้ Facebook ได้ให้ความสำคัญกับ Video content และ Face Live เป็นอย่างมาก ได้มีการจัดความสำคัญให้มีการเข้าถึงกลุ่มผู้คนได้มากกว่าการโพสรูปภาพแบบเดิม ๆ ดังนั้น Face Live จะเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าได้ดีกว่า

  • คิด Concept ที่เหมาะกับสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ความแปลก และแตกต่าง ควรมีสคริปท์ และจัดสรรเวลาในการ Face Live ในแต่ละช่วงได้เหมาะสม  กระชับ มีแผนสำรองในกรณีจำนวนผู้เข้าชมไม่ตรงตามเป้า เช่น การแจกของสมนาคุณให้ผู้ที่ร่วมแชร์ และเชิญเพื่อเข้าร่วมชมไลฟ์
  • โพสข้อความกระตุ้นล่วงหน้า สร้างความอยากรู้อยากเห็นอยากติดตามดูว่าสินค้าและบริการของเราเป็นยังไง ดีจริงหรือไม่ หรือการแจ้งโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อในช่วงเวลาไลฟ์
  • แจ้งวัน เวลาล่วงหน้า ถ้าอยู่ดี ๆ เราก็ Face Live โดยที่ไม่มีการแจ้งวันและเวลาล่วงหน้า ผู้ที่เข้ามาชมคงน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะไลฟ์ และคนที่เข้ามาชมก็คงเป็นเพียงคนที่เข้ามาและผ่านไป เพราะความบังเอิญ ไม่ได้มีความสนใจสินค้าของเรามาตั้งแต่แรก ดังนั้น ควรแจ้งวันและเวลาที่เราจะไลฟ์ล่วงหน้า  มีการโพสข้อความเตือนความจำว่าวันนี้ เวลานี้ เราจะ Face Live  เป็นระยะ ๆ

5.ไม่โพสขายสินค้าพร่ำเพรื่อ

เพื่อนคงไม่โอเคหากเปิด Facebook มาแล้วมีแต่โพสขายสินค้าเต็มไปหมด  การโพสขายหรือโฆษณาสินค้าควรมีการโพสเป็นเวลา โดยเลือกช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งาน Facebook เป็นจำนวนมาก  คือช่วงเวลา 11:00 – 13:00  และ 19:00 – 21:00 ซึ่งจะเป็นช่วงพักเที่ยงและหลังเลิกงาน สำหรับวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ควรโพสข้อความหลัง 10.00 น. เป็นต้นไป เพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนจะใช้เวลาในการพักผ่อน สามารถใช้งานโซเชียลมีเดียได้ทุกที่ทุกเวลา  แต่อย่าลืมว่า คอนเทนต์ที่เราใช้ในการโพสควรสดใหม่และมีคุณภาพ  จะสามารถสร้างความน่าสนใจและมีอัตราการเข้าถึงมากกว่าข้อความเดิม ๆ

เพียงเท่านี้เราก็สามารถขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊คได้โดยไม่เสียเพื่อน และบางทีเพื่อนเรานั่นแหละที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าและเป็นผู้ติดตามที่ดีเยี่ยม โดยการกดไลค์  แชร์ คอมเม้นท์เพื่อรีวิวสินค้าของเรา ทำให้สินค้าและบริการของเรามีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น  และมีผู้เข้าชม Profile ของเราเพิ่มมากขึ้นผ่านการ ไลค์ & Share จากเพื่อนของเราอีกด้วย