เงินน้อยทําธุรกิจอะไรดี ? ไม่มีเงินทุนจะทำธุรกิจได้อย่างไร ? ไม่มีประสบการณ์อยากมีธุรกิจของตัวเอง ? หลากหลายความกังวลใจข้อสงสัยสำหรับคนที่จะทำธุรกิจ ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่เงินทุนน้อยคือการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ขนาดเล็ก

แม้เงินทุนจะไม่ใช่ปัจจัยหลักของความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเงินทุนก็ยังเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินต่อไปข้างหน้าได้ คำถามต่อมาที่มักจะถูกถามอยู่เสมอสำหรับคนที่เริ่มต้นอยากทำธุรกิจเป็นของตนเองว่า “แล้วเราจะต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ดีจึงจะเพียงพอต่อการทำธุรกิจ” รวมไปถึง “มีเงินทุนอยู่เท่านี้จะทำธุรกิจอะไรได้บ้าง” เมื่อหลาย ๆ ท่านยังคงกังวลใจว่า ถ้าเรายังมีเงินทุนน้อยอยู่เราควรเลือกลงทุนธุรกิจแบบไหนดี บทความนี้มีคำตอบครับ

เงินทุนเป็นเพียงตัวขับเคลื่อนแต่ไม่ใช่ทุกอย่างของธุรกิจ

ต้องขอย้ำเตือนกันอีกรอบครับว่า เงินทุนเป็นเพียงกลไกช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้เท่านั้น แต่ยังไม่ใช่ทุกอย่างในการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้หรือไม่ มีอยู่ด้วยกันไม่กี่อย่างครับ นั่นก็คือ “ความรู้ ประสบการณ์และความอดทน” 3 สิ่งนี้ต่างหากจึงจะเป็นสิ่งชี้วัดความสำเร็จในการทำธุรกิจ เพราะทั้ง 3 สิ่งนี้เปรียบได้ดั่งขาตั้งทั้ง 3 ของกระถางที่แบกรับตัวกระถาง หรือก็คือธุรกิจที่คุณทำเอาไว้ หากขาดขาเพียงขาใดขาหนึ่ง ธุรกิจย่อมไม่อาจตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคงและรอวันพังทลายล้มครืนลงไปในพริบตาเดียว เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณพึงจะให้ค่าให้ราคามากกว่าในเรื่องของเงินทุนก็คือ “ความรู้ ประสบการณ์และความอดทน”

เหตุที่บอกว่าเงินทุนไม่ใช่ทุกอย่างของธุรกิจ นั่นก็เพราะมีบางธุรกิจที่ดำเนินการแบบ “จับเสือมือเปล่า”

เงินน้อยทําธุรกิจอะไรดี ?

เชื่อหรือไม่ว่ามีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่สามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจได้โดยแทบไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนเลย โดยพวกเขาจะใช้เพียงความสามารถของตนเองล้วน ๆ ครับ อย่าเพิ่งตกใจเพราะเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้มันคือเรื่องจริง ซึ่งนับตั้งแต่ที่โลกของเราเข้าสู่ยุคออนไลน์อย่างเต็มตัว มันก่อให้เกิดธุรกิจที่เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่ดำเนินการแบบ จับเสือมือเปล่า ขึ้นมา รูปแบบของธุรกิจแบบนี้คือผู้ทำธุรกิจไม่ต้องมีการสต๊อกสินค้าให้ยุ่งยากเลย การทำธุรกิจจะเริ่มดำเนินการก็ต่อเมื่อ “ลูกค้า” ติดต่อออเดอร์สินค้าเข้ามา และมีการ “ชำระเงิน” เรียบร้อยแล้ว ธุรกิจจึงจะเริ่มต้นเดินเครื่องครับ ธุรกิจที่ว่านั่นก็คือธุรกิจประเภทการรับ พรีออเดอร์สินค้าจากต่างประเทศ และการทำ “dropship” แม้ธุรกิจประเภทนี้จะไม่ต้องใช้เงินลงทุนสักสตางค์แดงเดียวก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือผู้ทำธุรกิจจะต้องใช้ความสามารถของตนเองมาทดแทนครับ การจะประสบความสำเร็จจึงขึ้นอยู่กับความสามารถ ประสบการณ์และความขยันล้วน ๆ การทำธุรกิจแบบนี้มีทั้งผู้ที่ประสบความสำเร็จสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ และผู้ที่ล้มเหลวเหนื่อยเปล่าก็มี

เงินน้อยทําธุรกิจอะไรดี ?

สำหรับผู้ที่พอจะมีเงินทุนอยู่บ้าง แม้เงินทุนนั้นมีอยู่อย่างจำกัดไม่เกินหลักหมื่นหลักแสน ธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับคุณก็คือ “ธุรกิจขนาดเล็ก” ที่ใช้เงินลงทุนไม่เยอะ เพราะด้วยเงินทุนที่ไม่ได้มีเยอะมากคุณจะทำอะไรที่ดูเกินตัวไม่ได้ คุณอาจลองพิจารณาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่ ชานมไข่มุก หรือวอฟเฟิลดูก็ได้ครับ

หากคุณรู้สึกว่า คุณไม่มั่นใจที่จะเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวของคุณเอง คุณอาจพิจารณานำเงินลงทุนที่คุณมีมาเลือกลงทุนใน “ธุรกิจแฟรนไชส์” ก็ได้ครับ ซึ่งการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์มีข้อดีดังต่อไปนี้

 1. ไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

การเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตนเองคุณต้องเตรียมตัวและเตรียมใจที่จะต้อง “เหนื่อย” เอาไว้ได้เลย เพราะนับตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการวางแผน จนกระทั่งไปถึงการวางขายสินค้า คุณจะต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง ต้องเรียนรู้และแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นด้วยตนเอง ทุก ๆ ขั้นตอนคุณต้องค่อย ๆ ลงมือทำเสมือนการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่และต่อยอดไปเรื่อย ๆ เพราะการทำธุรกิจไม่มีขั้นตอนลัด ที่สำคัญแม้คุณจะเริ่มต้นไปทีละขั้น ๆ ธุรกิจที่คุณเริ่มต้นก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จ 100% อีกต่างหาก

 2. คุณได้แบรนด์และชื่อแบรนด์มาเป็นของคุณเอง

การทำธุรกิจนั้น การได้รับการยอมรับและฐานของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากคุณเริ่มทำธุรกิจเองกว่าที่คุณจะฝ่าฟันไปจนถึงจุดนั้นมันต้องใช้เวลาในการสร้างครับ แต่สำหรับการลงทุนในแฟรนไชส์นับตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณจรดปากกาเซ็นสัญญา คุณก็ได้รับมาทั้งชื่อแบรนด์ ชื่อเสียงที่สั่งสมของแบรนด์ การยอมรับนับถือของลูกค้าและฐานลูกค้าทั้งหมดของแบรนด์นั้นมาเป็นของคุณ เพราะฉะนั้นการซื้อแฟรนไชส์จึงเป็นทางลัดหนึ่งเดียวที่จะช่วยคุณร่นระยะเวลาในการทำธุรกิจอย่างแท้จริง

3. ได้ระบบบริหารจัดการการ operation ของเขามาทั้งหมด

ในการทำธุรกิจ ระบบบริหารจัดการธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญครับ หากคุณมีระบบบริหารจัดการที่ดี ธุรกิจของคุณก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ ระบบบริหารจัดการที่ดีเกิดจากการเรียนรู้ การลองผิดลองถูกและการเลือกวิธีแก้ไขปัญหา ผสมกันเป็นองค์ความรู้ที่ใช้ในการทำธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ย่อมต้องใช้เวลาไม่น้อยในการสั่งสม แต่สำหรับการลงทุนในแฟรนไชส์ คุณจะได้องค์ความรู้ในการบริหารจัดการทั้งหมดนี้มาทันที และเป็นองค์ความรู้ที่ถูกต้องแม่นยำเสียด้วย เพราะผ่านการเรียนรู้ การลองผิดลองถูกมาแล้วนั่นเอง

4. กำไรชัดเจน คาดการณ์ได้

ข้อดีอีกประการหนึ่งของการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์นั่นคือ คุณสามารถคาดการณ์ผลกำไรที่จะได้รับได้อย่างชัดเจนหากคุณทำตามวิธีการที่ทางแฟรนไชส์กำหนดครับ เหตุก็เพราะว่าวิธีการนั้นทางแฟรนไชส์ได้ทดลองจนเป็นรูปธรรมชัดเจนมาแล้วว่า หากทำตามวิธีการนี้แฟรนไชส์ซีจะได้รับกำไรเป็นผลตอบแทนอย่างไรบ้าง การที่คุณสามารถคาดการณ์ผลกำไรได้ล่วงหน้าจะส่งผลต่อแผนทางการเงินที่คุณวางไว้ และย่อมจะดีกว่าการลงทุนทำธุรกิจด้วยตนเองแต่ไม่อาจคาดการณ์รายได้ได้อย่างชัดเจน

5. ทางแฟรนไชส์ช่วยตรวจดูทำเลที่ตั้งให้ เพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนในระดับหนึ่ง

ทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อนเลยอาจเกิดความผิดพลาดได้ตั้งแต่ขั้นตอนในการเลือกทำเล การเลือกทำเลที่ไม่ดีมาทำธุรกิจคือหายนะของธุรกิจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะหากธุรกิจของคุณดำเนินการเกี่ยวกับอาหาร หากคุณตัดสินใจลงทุนในแฟรนไชส์ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่โชกโชนของพวกเขา จะช่วยให้คุณสามารถคัดกรองทำเลที่ตั้งร้านให้แก่คุณได้ อันจะช่วยลดความเสี่ยงล้มเหลวของคุณได้ครับ เพราะความล้มเหลวไม่ได้ส่งผลเฉพาะแค่เงินทุนของคุณเท่านั้นแต่หากยังหมายถึงชื่อเสียงที่สั่งสมมาของแบรนด์ด้วยเช่นกัน

6. แฟรนไชส์บางธุรกิจสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย ๆ

แฟรนไชส์บางธุรกิจนอกจากจะช่วยให้คุณวางแผนทำธุรกิจและให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา ยังสามารถช่วยคุณหาแหล่งเงินทุนเพื่อมาดำเนินธุรกิจได้เช่นกัน ด้วย Connection ที่อาจมีกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ก็ส่งผลให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจเป็นของตนเองได้อย่างง่ายดาย

แม้เงินทุนจะไม่ใช่ทุกอย่างของธุรกิจก็ตาม แต่หากคิดจะทำธุรกิจคุณก็อาจต้องมีเงินลงทุนเผื่อเอาไว้บ้างเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจครับ ความสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณจะต้องมีเงินลงทุนเท่าไร หากแต่ความสำคัญกลับอยู่ที่ “คุณได้เลือกทำธุรกิจได้เหมาะกับเงินทุนที่คุณมีหรือไม่ต่างหาก” การทำธุรกิจควรจะตั้งอยู่บนพื้นฐานที่จับต้องได้ ไม่ใช่การวาดฝันวาดวิมานไว้บนอากาศ หากคิดจะทำอะไรต้องประเมินกำลังของตนให้ดีครับ เพราะการทำอะไรที่เกินกำลัง เกินความสามารถที่คุณจะบริหารจัดการได้ นั่นแหละคือคุณกำลังเดินเข้าสู่หนทางแห่งหายนะอย่างไม่ต้องสงสัย