” ตอนนี้ผู้บริโภคฉลาดมากขึ้น
เลือกว่าจะเชื่ออะไรและไม่เชื่ออะไร “

อ่านประโยคนี้แล้วสะดุดใจมาก ?
ต้องมาเขียนขยายความคิดกันต่อเลย
ใช่แล้วค่ะ !!
ผู้บริโภคอย่างเราตอนนี้มีทางเลือกมากขึ้นด้วย
ช่องทางการค้นหา แหล่งซื้อของ หรือแม้แต่หาดูรีวิวว่าอย่างไรดี อย่างไหนแย่ก็มีช่องทางมากขึ้น
ไม่ได้อาศัยดูจากในโฆษณา
จากผลทดลอง
จากงานวิจัย
จากผลสำรวจ
.. ที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ทำเอง เออเองอีกต่อไป ?
แต่ .. การแอบแฝง แทรกซึมก็ยังมีอยู่เสมอ
ในทุกๆรีวิวก็มีทั้งรีวิวจริง รีวิว( หน้า )ม้า
????
หนีไปช่องทางไหนๆก็ยังเจอโฆษณาอีกต่างหาก
ผู้บริโภคอย่างเราพอรู้นะคะว่า อันนี้ม้า อันนี้ไม่ม้า
อันนี้โฆษณากำลังจะมาเนียนขาย
แล้วการมีม้า มีโฆษณาแบบไหน
ส่งผลกับการตัดสินใจซื้อ
สรุปผ่านมุมมองผู้บริโภค ได้ 3 ข้อง่ายๆดังนี้ค่ะ ?

1. ถ้าไม่เกินจริงด้านภาษาจะซื้อ
อย่างแรกที่เราเห็นรีวิวต่างๆ ไม่ว่าจะตามกระทู้ คอมเมนต์ หรือบลอคเกอร์ทั้งหลาย
เราจะเห็นภาษาหรือการใช้คำในรีวิวนั้นๆก่อน
ภาษาที่เวอร์ หรือเกินคำปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

เช่น รีวิวโฟมล้างหน้ายี่ห้อ A ฟองละเอียดเนียนนุ่มดุจใยไหม ปรนนิบัติผิวได้ดีมากๆเลยค่ะ

* ชีวิตปกติเราไม่ค่อยใช้คำว่า ดุจ หรือปรนนิบัติใช่ไหมคะ !!! ดูปลอมทันที
ในผู้บริโภคบางกลุ่มเค้าอาจตัดสินใจซื้อค่ะ
แต่ .. ก็มีอีกกลุ่มเช่นกันที่ต้องการรีวิวของจริง
ไม่ม้า ไม่เนียนขาย อย่ามาเนียนหลอกกันให้ยาก
แถมภาษาสวยแบบนี้ดูไกลตัวไปด้วย
ถ้าจะม้า หรือ ขายของบอกกันตรงๆจะได้ใจไปมากกว่าแถมยังได้ความเชื่อถือเรื่องความจริงใจอีกด้วยค่ะ
ขอยกตัวอย่าง ถ้าม้าแล้วไม่เนียน เรียกว่าโป๊ะแตกก็จะเกิดกระแสตรงข้ามตามภาพประกอบ

2.ถ้าไม่โฆษณาเยอะเกินไปจะซื้อ

เอ้า !! โฆษณาเยอะๆสิดี จะได้เป็นที่จดจำได้ เวลาไปซื้อก็จะนึกถึงสินค้าเราเป็นอย่างแรก
โฆษณาที่บ่อยเกินไปจะทำให้เกลียดสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆได้เพราะมากจนน่ารำคาญ
( ถึงจะเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
แต่ก็คงเป็นความรู้สึกระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ไม่ค่อยดีเท่าไร
และสำหรับความเห็นส่วนตัวจะไม่ยืนยาว )

ขออนุญาตยกตัวอย่าง จากโพสต์หนึ่งในเพจ ADAddict
กระแสตอบรับที่จริงใจจากเสียงส่วนหนึ่งของผู้บริโภคอย่างเรา

แต่ .. ถ้าในมุมมองของนักการตลาด มันดีมากเลยค่ะ
เพราะจะได้การโฆษณา PR เมาท์ต่อ ด้วยตัวของมันเอง

เมาท์แบบรักหรือเกลียด ก็ไม่รู้แหละ
ได้ชื่อว่ามีการกระจายแบบปากต่อปากของสินค้าหรือบริการอันนี้ก็แล้วกัน ✌

Free Marketing แบบนี้ ไม่ดีตรงไหน
แถมจำได้ขึ้นใจอีกด้วย ( เพราะเห็นบ่อยเกินจนฝังไปในความจำ )

3.ถ้ามีโปรโมชั่น , ส่วนลด ,แลก แจก แถม ที่น่าสนใจจะซื้อ

100 ทั้ง 100 ก็แพ้ใจเรื่องนี้ค่ะ
บางทีสินค้า , บริการที่ได้ใช้สอย ตัดสินแพ้ชนะกันที่ราคา ของแถม ที่น่าสนใจได้เหมือนกันค่ะ
และ ..

หากลูกค้าเปลี่ยนใจจากแบรนด์ได้เพราะราคา หรือโปรโมชั่น ก็อย่าเพิ่งตกใจไป
ถ้าสินค้า , บริการดีของเราดีก็กลับไปตายรังเหมือนเดิมชัวร์ๆ
** ทำสินค้า และบริการให้ดีเข้าไว้ ถึงจะเผลอใจบ้าง เดี๋ยวก็กลับมาค่า **

หลักการตลาดเป็นพื้นฐานที่ดีในการโฆษณาและทำรายได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นลองดูปัจจัยหรือบริบทของสินค้าหรือบริการของเราด้วย
ว่าสามารถใช้ได้ไหม เอาแบบแบรนด์นั่นนี้ที่เค้าทำแล้วปังมาแล้วได้รึเปล่า
สุดท้าย ผู้บริโภคอยากเห็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ความจริงใจ และ Service Mind ที่ดี
จากแบรนด์ที่ไว้วางใจที่จ่ายเงินใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆค่ะ
( หรือถ้าจะมีทริคก็ขอให้เนียนดูลื่นไหลนะคะ )

** จากใจจากผู้บริโภค **
เจอกันในโพสต์ต่อไปค่ะ