100.0
Score

เงินทุนน้อย อยากทำธุรกิจ หรือ ไม่มีเงินทุนแต่อยากมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง จะเริ่มอย่างไร ปัญหาส่วนใหญ่ของการเริ่มต้นธุรกิจ เอาเข้าใจจริงๆ คนประสบความสำเร็จในชีวิตมากมากยก็เริ่มจากทุนน้อย หรือ ไม่มีเงินทุนด้วยซ้ำไป เรียกว่ามีแค่เสื่อผืนหมอนใบ จนตอนนี้ธุรกิจเติบโตมีหมื่นล้านแสนล้าน

 

ข้ออ้างที่มักจะได้ยินได้ฟังกันบ่อยที่สุดสำหรับผู้ที่คิดฝันอยากทำธุรกิจแต่ไม่ยอมลงมือทำเสียทีก็คือ “ไม่มีทุน” ถ้าข้ออ้างเรื่องทุนเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางไม่ให้คุณเดินไปข้างหน้ารับรองได้เลยครับว่าชีวิตนี้คุณไม่มีโอกาสได้ทำธุรกิจอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน

ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คุณคิดว่าจริง ๆแล้วคุณจำเป็นต้องมีทุนเท่าไหร่จึงจะพอ หลักแสน หลักล้าน หรือหลักสิบล้าน ? หากคุณคิดว่าการจะเริ่มทำธุรกิจจำเป็นจะต้องระดมทุนมากมายถึงเพียงนี้ ขอให้คุณกลับไปคิดใหม่ครับ เพราะที่จริงแล้วมีธุรกิจจำนวนไม่น้อยเลยที่ประสบความสำเร็จธุรกิจสามารถเติบโตด้วยเงินทุนเริ่มต้นไม่ถึงแสนด้วยซ้ำ แม้เงินลงทุนเพียงน้อยนิดแต่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้นั่นย่อมแสดงว่า เงินทุนไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ชี้ชะตาของธุรกิจ”

เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจว่า เหตุที่ธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยทุนอันน้อยนิดแต่กลับยืนหยัดเติบโตได้อย่างภาคภูมิเขามีแนวคิดกันอย่างไร ถ้าคุณพร้อมแล้วเราจะมาดูปัจจัยแห่งความสำเร็จนี้ไปพร้อม ๆกันครับ

เมื่อเงินทุนไม่ใช่ทุกอย่างของธุรกิจ แล้วจิตวิญญาณที่แท้จริงในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จคืออะไร

อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นครับว่า “เงิน” ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่จะชี้วัดว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เพราะมีธุรกิจจำนวนไม่น้อยเลยที่สามารถหาทุนมาตั้งธุรกิจได้มากแต่สุดท้ายกลับต้องล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า เหตุที่เขาเหล่านั้นต้องพ่ายแพ้ให้แก่สมรภูมิในโลกธุรกิจนั่นก็เพราะเขาขาดจิตวิญญาณที่แท้จริงในการทำธุรกิจครับ แม้ทุนจะหนา สายป่านจะยาวเพียงใดแต่ถ้าไม่มีจิตวิญญาณของการทำธุรกิจ คุณก็มีโอกาส “เจ๊ง” อยู่ดี จิตวิญญาณในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมีดังนี้ครับ

        1. เงินทุนน้อย อยากทำธุรกิจ ต้องเริ่มต้นทำในสิ่งที่ตนเองชอบ

คุณคงเคยได้ยินคำว่า “ถ้าได้เริ่มต้นหรือทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ผลลัพธ์ที่ได้มันจะออกมาดี” คำพูดนี้คือเรื่องจริงสุดคลาสสิค เพราะการได้ทำในสิ่งที่รักที่ชอบนั่นหมายความว่าคุณจะทำมันอย่างมีความสุขและไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลยหากต้องขลุกอยู่กับมันทุก ๆวัน ในการทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน การที่คุณเริ่มต้นทำในสิ่งที่คุณรักที่คุณชอบนั่นคือคุณกำลังทำในสิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณอยู่ อะไรที่เป็นตัวตนของคุณอยู่แล้วคุณย่อมที่จะเข้าใจและใส่ใจเป็นอย่างดี คุณจึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จครับ ลองเริ่มต้นธุรกิจโดยการมองหาในสิ่งที่คุณรักและชอบดูสิครับไม่ว่าจะเป็น ความรักในการทำอาหาร ความรักในการถ่ายภาพ เป็นต้นแล้วนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจในแบบที่คุณสนใจ เชื่อเถอะครับว่าสิ่งเหล่านี้มีโอกาสทำเงินให้แก่คุณได้อย่างแน่นอน

        2.เงินทุนน้อย อยากทำธุรกิจ ต้องสะสมความรู้เพื่อดำเนินการและเพื่อต่อยอดธุรกิจ

“มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน” อุปมาอุปมัยบทนี้ยังคงความทันสมัยอยู่ทุกเวลา ในโลกของการทำธุรกิจถ้าคุณมีแต่ทุนแต่ไม่มีความรู้อะไรเลยว่าจะต้องเริ่มต้นหรือบริหารธุรกิจอย่างไรให้อยู่รอด หากเป็นเช่นนี้คุณควรจะเก็บเงินของคุณเอาไว้ในบัญชีธนาคารเพื่อเก็บกินดอกผลเสียยังจะดีกว่า เพราะการทำอะไรโดยไม่มีความรู้และไม่มีความเข้าใจคือความเสี่ยงที่น่ากลัวอย่างที่สุด ในยุคปัจจุบันความรู้ต่าง ๆหาได้ไม่ยากหรอกครับ และคุณก็โชคดีกว่าคนในยุคก่อนที่แหล่งความรู้ต่าง ๆสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นทางอินเทอร์เน็ตหรือคอร์สเรียนออนไลน์ จงแสวงหาความรู้ใส่ตัวเอาไว้ให้มาก ๆครับยิ่งคุณรู้มากคุณยิ่งมีโอกาสทำเงินทุนเริ่มต้นอันน้อยนิดให้เติบโตและต่อยอดไปได้ไกล แม้ว่าแหล่งความรู้จากอินเทอร์เน็ตคุณควรจะต้องไตร่ตรองความน่าเชื่อถือเสียก่อนก็ตาม เพราะข้อมูลในนั้นก็ไม่ได้ถูกต้องไปหมดทั้ง 100 % แต่ข้อมูลหลาย ๆอย่างในนั้นคุณก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ครับ

        3. ต้องสั่งสมประสบการณ์ด้วยการ “ลงมือทำ”

“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นหรือจะสู้ลงมือทำ” คือคำเปรียบเปรยที่บอกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม คุณจะต้องลงมือทำให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างจึงจะดี ความฝันที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณจะวางความฝันไว้อย่างไร สิ่งที่สำคัญจริง ๆอยู่ที่คุณต้องลงมือทำ ในแง่ของธุรกิจ “ประสบการณ์” เป็นสิ่งสำคัญที่สุดและเป็นสิ่งที่จะถ่ายทอดหรือส่งต่อให้แก่กันก็ไม่ได้ หากอยากจะประสบความสำเร็จคุณต้องลงมือทำด้วยตนเองเท่านั้น สิ่งนี้คือข้อแตกต่างระหว่างนักคิด นักฝันกับนักปฏิบัติครับ คนที่เป็นนักคิดเขาอาจจะวางแผน วางแนวคิดต่าง ๆลงในกระดาษแต่เขาจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความคิดของเขาจะให้ผลลัพธ์เป็นเช่นไร จะถูกต้องหรือเป็นไปตามที่คิดไว้หรือไม่ แต่สำหรับนักปฏิบัติ เขาไม่จำเป็นต้องคิดให้เยอะหรือคิดให้ซับซ้อน แต่พวกเขาจะใช้วิธีการลงมือทำและคอยดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นไปอย่างที่ต้องการหรือไม่ หากไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการเขาจะหาปัญหาและเข้าทำการแก้ไขในทันที กระบวนการที่เกิดขึ้นนี่แหละสุดท้ายก็จะสั่งสมตกตะกอนเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าให้แก่พวกเขา ยิ่งลงมือทำมากเท่าใดคุณก็จะยิ่งมีประสบการณ์อันประเมินค่าไม่ได้มากขึ้นเท่านั้น คิดให้น้อยและลงมือทำให้มาก การลงมือทำเท่านั้นจึงจะบอกได้ว่าความคิดของคุณถูกต้องอย่างที่หวังเอาไว้หรือไม่

        4. สิ่งที่สำคัญมากกว่าเงินก็คือเรื่องของ “ใจ”

“จะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง” หากคิดจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จคุณต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของใจเสียก่อน ใจในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำธุรกิจในสไตล์ใจใหญ่โดยไม่คิดหน้าคิดหลังนะครับ เพราะคุณมีโอกาสเจ๊งได้เช่นกัน การให้ใจในการทำธุรกิจจึงหมายถึงคุณต้องให้ความใส่ใจในสิ่งที่คุณกำลังทำ ถ้าคุณรู้ตัวเองว่าคุณมีเงินทุนน้อยหรือมีข้อจำกัดในเรื่องของสายป่านที่ยาวไม่พอ คุณจำเป็นจะต้องลงแรง ลงมือทำให้มากขึ้น ลงกำลังความคิดลงไปให้มากขึ้น ขยันหาความรู้ใหม่ ๆมาต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เติบโต เพียงเท่านี้คุณก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจได้ไม่แพ้บรรดาธุรกิจที่มีเงินทุนหนาครับ อย่าให้ความสำคัญกับเงินลงทุนมากกว่าการให้ใจกับสิ่งที่ทำ เพราะถ้าคุณให้ใจกับมันมากพอเงินทุนแค่เพียงหลักหมื่นก็มีโอกาสทวีมูลค่าไปเป็นหลักล้านได้ไม่ยาก

ย้ำกันอีกครั้งครับว่า การจะเริ่มต้นทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เรื่องของเงินทุนไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่น่าวิตก เพราะแม้เงินทุนจะน้อยแต่ถ้าคุณรู้วิธีการเพิ่มขนาดของธุรกิจให้เติบโต คุณก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ แต่สิ่งที่คุณควรจะเป็นกังวลมากกว่าคือ “ถ้าคุณไม่รู้วิธีการทำธุรกิจ” เพราะนั่นย่อมหมายถึงแม้คุณจะมีเงินทุนมากมายเป็นภูเขา ความไม่รู้จะผลาญให้เงินทุนของคุณหมดลงไปได้ในพริบตา จงหมั่นแสวงหาความรู้ สั่งสมประสบการณ์ ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ และใช้ใจในการทำธุรกิจ ด้วยจิตวิญญาณทั้ง 4 อย่างนี้แหละครับที่จะบันดาลความสำเร็จให้แก่คุณอย่างแท้จริง