7 แนวคิดสู่การมีอิสรภาพทางการเงินโดย Robert Kiyosaki

7 แนวคิดสู่การมีอิสรภาพทางการเงินโดย Robert Kiyosaki

แนวคิดสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน ทั้ง 7 แนวคิดนี้เป็นแนวคิดของ Robert Kiyosaki เจ้าของผลงานหนังสือพ่อรวยสอนลูก หรือ Rich Dad Poor Dad หนึ่งในสุดยอดหนังสือขายดี โดยเขาได้พัฒนา แนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องของการเงินออกมาให้เราได้ทำการศึกษาค้นคว้า และต่อไปนี้ก็คือ 7 แนวความคิด สู่การมีอิสรภาพ ทางการเงินที่น่าสนใจซึ่งบทความนี้ เราจะมาเล่าให้คุณฟัง

1.จงทำความเข้าใจเกี่ยวกับงบการเงิน

ในชั้นเรียน 1 ในวิชาที่ยากมากและหลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจก็คือวิชาบัญชี ซึ่งแท้ที่จริงแล้ววิชาบัญชีคือวิชาที่มีความสำคัญมากเพราะมันเกี่ยวข้องกับ ทุก ๆ อย่างในเรื่องของการเงินไม่ว่าจะเป็นงบการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และเรื่องที่น่าเศร้าก็คือมีคนถึง 99 % ที่ไม่รู้จักงบการเงินเลยแม้แต่น้อย

ไม่ว่าคุณจะเรียนเก่งขนาดไหนไม่ว่าผลการเรียนของคุณจะเป็นอย่างไรแต่สุดท้ายแล้วเมื่อคุณจบการศึกษาออกมาแล้วคุณมีความจำเป็นต้องไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารโดยเฉพาะการกู้ยืมเงิน ธนาคารไม่เคยสนใจผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของคุณเลย ในทางกลับกันสิ่งที่ธนาคารสนใจก็คืองบการเงินของคุณว่าคุณมีสถานภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด งบการเงินจึงเป็นสิ่งที่รายงานตัวของคุณหลังจบการศึกษา ถ้าคุณมีสุขภาพทางการเงินที่ดีซึ่งแสดงออกทางงบการเงินอันแข็งแกร่ง ธนาคารก็พร้อมที่จะให้คุณกู้เงินได้ง่ายกว่าคนที่มีสุขภาพทางการเงินที่ไม่ดี

2.จงรู้จักแหล่งที่มาของรายได้ของคุณ

Robert Kiyosaki ให้ความสำคัญกับการที่คุณสามารถรู้ว่าแหล่งที่มาของรายได้ของคุณคืออะไร โดยได้แบ่งแหล่งที่มาของรายได้ออกเป็นสี่แหล่งซึ่งถูกเรียกว่า Cash flow quadrant ตามลักษณะการทำงานคือ ลูกจ้างหรือ Employee ซึ่งจะมีรายได้มาจากเงินเดือนหรือบำนาญ ถัดมาคืออาชีพอิสระหรือ Self Employed ซึ่งจะมีรูปแบบเงินรายได้คล้ายคลึงกัน ลูกจ้างโดยสองกลุ่มนี้อยู่ในฝั่งซ้ายมือ ส่วนในฝั่งขวามือคือนักธุรกิจ(Business) และนักลงทุน(Investor) ซึ่งกลุ่มคนทั้งขวามือนี้เป็นกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่ง มากกว่ากลุ่มคนที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ โดยสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างคนที่อยู่ทางด้านซ้ายและขวาก็คือแนวความคิดในการสร้างรายได้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

3.จงรู้ว่าควรทำงานเพื่อสร้างสินทรัพย์ไม่ใช่จ่ายหนี้

Robert Kiyosaki ได้บอกข้อแตกต่างระหว่างคน ทั่วไปและคนที่มีความมั่งคั่งเอาไว้ก็คือคนทั่วไป มักจะทำงานหาเงินเพื่อที่จะนำมาจ่ายหนี้คืน เช่นบิล ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ในขณะที่คนที่รวยเขาจะหาเงิน เพื่อสร้างสินทรัพย์และนำสินทรัพย์นี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง มีคนจำนวนไม่น้อยที่ติดกับดักของรายได้เพียงคิดว่าเมื่อมีเงินเดือนแล้วก็นำไปใช้จ่ายต่าง ๆ โดยไม่วางแผนเกี่ยวกับการเงินเลย ผิดกับคนที่มีความมั่งคั่ง พวกเขาจะนำรายได้ไปต่อยอดเป็นสินทรัพย์เพื่อที่ว่าสินทรัพย์เหล่านี้จะย้อนกลับมาสร้างความมั่งคั่งกลับคืนให้พวกเขาในท้ายที่สุด

4.คนที่เก็บออมเงินเก่งคือผู้ที่จะพ่ายแพ้ในท้ายที่สุด

Robert Kiyosaki ให้ทัศนคติเกี่ยวกับผู้ที่เก็บออมเงินเอาไว้ในรูปแบบของเงินฝากในธนาคารว่าสุดท้าย คนเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ในที่สุด เพราะเงินออมเมื่อเวลาผ่านไปจะไม่สามารถสู้อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้ในแต่ละปี รวมถึงนโยบายของรัฐก็อาจทำให้เงินของคุณมีมูลค่าลดลง ผิดกับสินทรัพย์บางอย่าง เช่นทองคำที่หากเก็บเอาไว้นานวันก็จะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในทุกปี ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้คนเก็บออมเงินในรูปแบบของสินทรัพย์อื่นที่ไม่ใช่เงินฝากในบัญชีธนาคารเพราะสุดท้ายผู้ที่มีเงินอยู่เพียงในธนาคารอย่างเดียวจะกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ต่อระบบการเงินในที่สุด

5.อย่ากลัวที่จะผิดพลาด

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ คนในยุคนี้สามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้ด้วยตนเองและมักจะรู้คำตอบล่วงหน้าของคำถามเสมอ แต่กระนั้นก็กลับกลายเป็นว่าพวกเขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนั่นก็เพราะว่าพวกเขารู้ เพียงอย่างเดียวแต่กลัวที่จะเริ่มต้นลงมือทำสิ่งต่าง ๆ เพราะกลัวความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น การที่เรากลัวความผิดพลาดท้ายที่สุดจะกลายเป็นกับดักที่ขัดขวางไม่ให้เราเจริญก้าวหน้า ในโลกของการเงินแค่เพียงคุณรู้ว่าอะไรคือความเสี่ยงหรืออะไรไม่ใช่ความเสี่ยงแต่คุณยังเล่นเกมแบบเพลย์เซฟคุณยังไม่ฉลาดในทางการเงินเพราะการที่คุณไม่เสี่ยงอะไรเลยจะไม่ทำให้คุณฉลาดขึ้น แม้ว่าคุณจะรู้ว่าท้ายที่สุดผลลัพธ์ต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร แต่หากคุณไม่ลงมือทำก็ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ขึ้นมา

6. จงรู้เกี่ยวกับการจัดการภาษี

ทุกคนมักจะกลัวที่จะเสียภาษีเพราะภาษีอาจทำให้ความมั่งคั่งของคุณลดลง แต่กระนั้นหากคุณสามารถจัดการวางแผนเกี่ยวกับภาษีได้เป็นอย่างดี ภาษีย่อมไม่ใช่สิ่งที่สร้างปัญหากับคุณแต่อย่างใดและบางครั้ง มันก็แสดงถึงความมั่งคั่งของคุณได้เช่นกัน มีวิธีการมากมายที่จะทำให้คุณปลอดจากภาษีหรือเสียภาษีน้อยลง ซึ่งวิธีการเหล่านี้ก็เป็นวิธีการที่กฎหมายให้การรับรองอย่างเช่นในอเมริกา ลูกจ้างมักจะต้องเสียภาษีถึง 40% ในขณะที่อาชีพอิสระต้องเสียภาษีถึง 60% ในขณะที่นักธุรกิจเสียภาษีเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ และนักลงทุนไม่ต้องเสียภาษีใด ๆ เลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะอเมริกาสนับสนุนให้ลงทุนในนามของนิติบุคคลเพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์ทางภาษีต่าง ๆ นี่คือเหตุผลที่ทำไมคนรวยที่สามารถจัดการวางแผนภาษีอย่างถูกต้องจึงสร้างความมั่งคั่งได้มากกว่าคนธรรมดาที่เป็นเพียงพนักงานกินเงินเดือนเท่านั้น

7. โรงเรียนไม่เคยสอนอะไรเกี่ยวกับการเงินเลย

ความจริงอันน่าเศร้าอีกอย่างที่ Robert Kiyosaki กล่าวไว้ก็คือโรงเรียนอาจสอนในสิ่งที่นักเรียนจำเป็นต้องรู้เกือบทุกอย่างแต่โรงเรียนไม่เคยสอนเรื่องเกี่ยวกับการเงินเลย คนที่มีวุฒิการศึกษาสูง ๆ อาจไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการเงิน เรื่องของการเงินนั้นเป็นสิ่งที่คนที่มีประสบการณ์โดยตรงเป็นผู้ถ่ายทอดต่อ ๆ กันเท่านั้น อย่าคาดหวังว่า โรงเรียนจะสอนเรื่องการเงินกับคุณ หากคุณต้องการ เข้าใจเรื่องการเงินอย่างดีพอคุณจำเป็นต้องศึกษาจากกูรูในเรื่องของการเงินซึ่งพวกเขาพร้อมจะถ่ายทอดเคล็ดลับทางการเงินที่พวกเขารู้และประสบความสำเร็จให้กับตัวคุณ

อิสรภาพ ทางการเงินคือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่มีคนจำนวนน้อยมากที่สามารถบรรลุ อิสรภาพ ทางการเงิน ได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องจัดการการเงินของตนเองได้อย่างไร หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีอิสรภาพ ทางการเงินสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำก็คือ การศึกษาหาความรู้ทางด้านการเงินจากผู้เชี่ยวชาญ จริงเพื่อนำมาวางแผนปรับปรุงการเงินของคุณให้มีประสิทธิภาพมันจึงจะเป็นหนทางไปสู่อิสรภาพทางการเงินอย่างที่ต้องการในอนาคต

ข้อมูลอ้างอิง  youtu.be/zNTNWQmf1DE

สรุปอัตราเงินสมทบประกันสังคม 2564 ล่าสุด