สินเชื่อคืนถิ่นจาก ธ.ก.ส.โอกาสใหม่สำหรับแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เตรียมพร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อคืนถิ่นให้กับแรงงานไทยที่กลับมาจากอิสราเอล โดยมีวงเงินทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการกลับมาสร้างอาชีพให้กับตัวเอง สินเชื่อนี้มีวงเงินสูงสุดรายละ 150,000 บาท ดอกเบี้ยเพียง 1% โดยมีรัฐบาลสนับสนุนดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2% และมีการปลอดชำระหนี้ 1 ปี สามารถกู้ได้นานสูงสุด 20 ปี

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังเตรียมมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมด้วยวงเงิน 1,500 ล้านบาท สำหรับแรงงานที่เสียชีวิตในอิสราเอลจะมีการยกหนี้ และสำหรับแรงงานที่มีสัญญาเงินกู้ผูกพัน หากกลับมาประเทศไทยจะมีการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้เหลือ 2.5% โดยมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2566

สำหรับมาตรการพักหนี้ลูกค้ารายย่อย ปัจจุบันมีเกษตรกรกว่า 1 ล้านรายที่แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการ คิดเป็น 51% ของลูกค้าที่มีสิทธิ์ และยังมีลูกค้าอีก 3 แสนรายที่อยู่ในโครงการพิเศษ คาดว่าจะมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นกว่า 85% โดยมีประเด็นเรื่องผู้ค้ำประกันและสัญญาต่างๆ เป็นอุปสรรคในบางกรณี

การปล่อยสินเชื่อคืนถิ่นและมาตรการเยียวยานี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรและแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างประเทศ และเพื่อสนับสนุนให้พวกเขาสามารถกลับมามีอาชีพและเสริมสร้างเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้.

บทวิเคราะห์ สินเชื่อคืนถิ่นจาก ธ.ก.ส.โอกาสใหม่สำหรับแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล

สินเชื่อส่วนบุคคลกู้ง่าย ดอกเบี้ยต่ำ ยื่นกู้ออนไลน์ที่นี่เลย  

มาตรการของธ.ก.ส. นี้เป็นตัวอย่างของการทำนโยบายที่มีความเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤติ การให้สินเชื่อที่มีเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือแรงงานที่กลับมาจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนและการสร้างอาชีพในท้องถิ่น นอกจากนี้ การเยียวยาแรงงานที่เสียชีวิตและการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังเป็นการแสดงถึงความเอาใจใส่และความรับผิดชอบทางสังคมของธนาคาร ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินและธนาคารของประเทศได้

สรุป

การปล่อยสินเชื่อคืนถิ่นและมาตรการเยียวยาของธ.ก.ส. นับเป็นก้าวที่สำคัญในการช่วยเหลือแรงงานไทยที่กลับมาจากต่างประเทศ และเป็นการลงทุนในมนุษย์ที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจไทยในระยะยาว มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ และเป็นการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทยในอนาคต