เถ้าแก่ใหม่ทั้งหลายครับเคยมีคำพูดแบบนี้ผุดขึ้นมาในความคิดกันบ้างหรือเปล่าครับ ???

                ‘เปิดร้านตั้งนานลูกค้าไม่ติดซะที’

                 ‘เศรษฐกิจอย่างนี้ขายอะไรก็ขายไม่ได้หรอก’

                ‘เรามันทุนไม่หนา ค้าขายไม่คล่อง สายป่านไม่ยาว มีแต่รอวันเจ๊ง’

                                      

          เป็นเรื่องธรรมดานะครับในการทำธุรกิจที่เลี่ยงไม่ได้กับปัญหาขายของไม่ได้ หาลูกค้ายาก

ปัญหาขายของไม่ได้ ไม่มีลูกค้า ไม่รู้จะขายให้ใคร ไม่รู้จะขายอย่างไร ไม่รู้จะขายที่ไหน ปัญหาเหล่านี้ เรียกแบบภาษาวิชาการหน่อยว่า ปัญหาด้านการตลาด ครับ

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า “ตลาด” ไม่ได้หมายถึงสถานที่ขายของนะครับ แต่หมายถึงพฤติกรรมการแลกเปลี่ยนในสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ นั่นคือคุณต้องการเงินลูกค้าต้องการของหรือบริการของคุณ

นั่นแปลว่า ตลาดมันจะเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไหร่ อย่างไร ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีแผงขายของ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เห็นชัด ๆ ทุกวันนี้หลาย ๆ คนก็ช้อปปิ้งหน้าจอกันไงครับ หันมองรอบ ๆ ตัวสิครับทุกวันนี้คนเราซื้อขายกันได้ตลอดเวลา

พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่หน้าเก่าทุกท่านครับ  คุณต้องเจอปัญหาด้านการตลาดทุกคนอย่างแน่นอน เมื่อต้องเจอปัญหาการตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และต้องเตรียมตัวเพื่อรับมือกับปัญหาการตลาด คุณพ่อค้าแม่ค้าจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นหมอตรวจอาการทางการตลาดให้ได้

ผมขอแนะนำการสำรวจอาการป่วยทางการตลาดด้วยโจทย์ง่าย ๆ 9 ข้อ ดังนี้ครับ

  1. สภาวะตลาด คุณต้องรู้ว่าสินค้าที่คุณขายตอนนี้สภาวะเป็นอย่างไร ภาพรวม ๆ เป็นอย่างไร มองด้วยใจเป็นกลางอย่าเข้าข้างตัวเอง ธุรกิจที่คุณทำอยู่ตอบสนองลูกค้ากลุ่มไหน มีมากน้อยเพียงใดในพื้นที่เป้าหมายของคุณ ถ้าสภาวะตลาดของเรามันไม่ดีต้องรีบหาทางหนีทีไล่
  2. ส่วนแบ่งทางการตลาด ในตลาดหรือในธุรกิจที่คุณทำอยู่ มองให้ออกว่าตอนนี้ ใครเป็นเจ้าใหญ่ แล้วคุณอยู่จุดไหนของตลาด อยู่ในกลุ่ม ผู้นำ กลาง ๆ หรือผู้ตาม
  3. แนวโน้มทางการตลาด ตลาดของคุณหรือธุรกิจของคุณ มีแนวโน้มไปทางไหน ขาขึ้นหรือขาลง
  4. ตลาดเป้าหมาย กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร คุณจะขายบริการหรือสินค้าให้เขาเหล่านั่นเมื่อไหร่และอย่างไร
  5. ลักษณะทั่วไปของลูกค้า ลูกค้าของคุณเป็นอย่างไร รายได้เท่าไหร่ ช่วงอายุเท่าไหร่ เพศอะไรเป็นหลัก
  6. สภาพการแข่งขัน ในตลาดเดียวกันหรือธุรกิจประเภทเดียวกัน มีการแข่งขันที่รุนแรงหรือไม่
  7. คู่แข่งขัน ในตลาดของคุณคือใคร มากราย หรือน้อยราย มีผลกระทบกับธุรกิจของเราทั้งในแง่บวกแง่ลบมากน้อยแค่ไหน
  8. รายละเอียดการเปรียบเทียบกับคู่แข่งขัน ความสามารถในการแข่งขันของเราเทียบกับคู่แข่ง
  9. วิเคราะห์ SWOT คือการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค ในธุรกิจของคุณข้อสุดท้ายนี่สำคัญมากเลยนะครับ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ กันเลยทีเดียว เพราะถ้าคุณสามารถวิเคราะห์ SWOT ได้ดี ตรงตามความเป็นจริงที่สุด ทางออกหรือทางแก้ไขปัญหากาตลาดจะถูกตอบคำถามด้วยการวิเคราะห์ SWOT นี่แหละครับ ลองศึกษาดูนะครับ

 

การสำรวจอาการทางการตลาดทั้ง 9 ข้อ เป็นการทำให้คุณ “เรียนรู้จุดอ่อนของทั้งตัวเองและคู่แข่ง” ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาที่ตรงจุด นั่นคือการแก้ปัญหาการตลาดในธุรกิจของคุณได้ นำไปสู่การวางแผนการตลาดในธุรกิจของคุณอย่างถูกทาง และตัดจุดอ่อนเสริมจุดแข็ง พลิกอุปสรรคเป็นโอกาส

แต่ไม่ว่าคุณจะวางหมากวางแผนการตลาดอย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ห้ามขาดไปเลยคือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM : Customer Relationship Management) เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาและคุณเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนที่วางใจได้ มีความรัก ความหวังดี และความห่วงใยให้แก่กัน

ใจเขาใจเราครับ ลองคิดว่าตัวคุณเป็นลูกค้าดูสิครับ ต่อให้ของดีแค่ไหน ถูกแค่ไหน แต่บริการแย่ ไม่สนใจลูกค้า ไม่ให้คำแนะนำ ไม่มีบริการหลังการขาย ถ้าเลือกได้คุณก็คงไปเลือกซื้อของร้านอื่นจริงหรือเปล่าครับ แล้วทุกวันนี้ลูกค้ามีทางเลือกมากมายนะครับ สิ่งที่จะผูกใจลูกค้าได้คือความใส่ใจ ความซื่อสัตย์ และการบริการที่ดีอย่างสม่ำเสมอครับ

 

ท้ายนี้ ขอทิ้งท้ายยาสามัญ 4 ข้อ เพื่อพิชิตใจลูกค้า ถ้าคุณสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ แค่ 1 ใน 4 ข้อนี้ สินค้าของคุณไม่มีเอาท์แน่นอน มนุษย์จะกรองเอา 4 สิ่งนี้เข้ามาในชีวิตเขาครับ

“สิ่งที่เขาเชื่อ = ถ้าเขาเชื่อว่าสินค้าคุณดีสำหรับเขา เขาจะซื้อของคุณ

สิ่งที่เขากลัว = ถ้าสินค้าคุณขจัดความกลัวจากชีวิตเขาได้ เขาจะซื้อของคุณ

สิ่งที่เขาให้คุณค่า = ถ้าสินค้าคุณทำให้ชีวิตเขามีคุณค่าขึ้น เขาจะซื้อของคุณ

สิ่งที่เขาสนใจ = ถ้าสินค้าคุณทำให้เขาสนใจได้ เขาจะซื้อของคุณ”