จากกระทู้โด่งดังใน pantip.com จากเงิน 30,000 บาท วันนั้น สู่ร้านในวันนี้ (http://pantip.com/topic/35885254) ผมได้มีโอกาสเข้าไปอ่าน บอกได้เลยครับว่าประทับใจกับความเป็นมาของธุรกิจวิธีคิดของผู้ชายคนนี้ จึงติดต่อ คุณโจ๊ะ รากบุญ เพื่อขอสัมภาษณ์นำเรื่องราวของเขามาบอกเล่าให้กับเพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันว่า
“ในวันที่เรามีเงินก้อนสุดท้ายที่ไม่มากนักเราควรจะบริหารจัดการมันอย่างไรดี ?”
เพราะต้นทุนทางรายได้เราไม่เท่ากันแต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถสร้างให้มันเท่ากันได้คือ “ต้นทุนความอดทนและพยายาม” จาก 30,000 บาทในวันนั้น ทำให้คุณ โจ๊ะ มาถึงวันนี้ได้อย่างไร ได้เวลาที่เรามาแกะรอยเถ้าแก่ใหม่คนนี้แล้วครับ
มาทำความรู้จักผู้ชายติ๊ด ๆ คนนี้กันคับ
สวัสดีครับ เพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ ผม ธีรนัย หนูศรีเจริญ (โจ๊ะ ) อาชีพปัจจุบัน เจ้าของร้านกาแฟดริปเล็กๆ ริมถนนใหญ่ที่มีรถพ่วงจอดบังหน้าร้านมากที่สุดในประเทศไทย เป็นสถาปนิกฟรีแลนซ์ และเป็นสต๊อกเกอร์ขายภาพออนไลน์
ก่อนมาเป็นมาทำร้านกาแฟ รากบุญ เคยทำอะไรมาก่อน
ก่อนหน้านี้ผมทำงานเป็นสถาปนิกในบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ซึ่งทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนได้ 3 ปี ก็ทำทั้งงานประจำ และก็รับงานนอกด้วยเช่นกัน เพราะช่วงนั้นผมต้องช่วยแม่ใช้หนี้ จึงต้องหารายได้เพิ่ม ช่วงนั้นแทบไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย เพราะทำงานหนักมาก
บางครั้งก็โดนเบี้ยวค่าแบบบ้าง แต่ก็ทำต่อไปเพราะเป้าหมายตอนนั้นคือ ช่วยแม่ปลดหนี้ให้ได้ พอทำงานได้ 3 ปี เริ่มมีเงินเก็บบางส่วน หลังจากแบ่งใช้หนี้ในแต่ละเดือน จังหวะนั้นจึงได้ตัดสินใจลาออกไปลงทุนทำเหมืองแร่กับเพื่อนที่ประเทศลาว ด้วยความอ่อนด้อยประสบการทำให้เหมืองแร่งเจ๊งกันมาตามระเบียบ
ผมเหลือเงินหลังจากบินกลับมา 1,500 บาทในบัญชี เรื่องนี้พูดเลยว่า สุดๆจริงๆ แต่ก็ยังดีที่มีบ้านให้กลับมาตั้งหลักก่อน หลังจากนั้นต้องเร่งหางานสถาปัตย์ทำ โดยบริษัทเก่าเมตตาป้อนงานช่วยนั้นได้งานจากรุ่นพี่ด้วยเช่นกัน พร้อมกับควบคู่กับการทำงานขายภาพออนไลน์ ซึ่งตอนนั้นก็เป็นช่วงสะสมผลงานรายได้จึงไม่มากมายอะไรนัก
เหลือเกินกลับมา 1,500 บาทแล้วมาเริ่มเป็นฟรีแลนซ์ใหม่ เป็นมาอย่างไรมาทำร้านกาแฟ
หลังจากที่ทำฟรีแลนซ์มาได้ซักพัก ก็เริ่มจะรู้จักลูกค้าเพิ่มขึ้น มีอยู่โครงการหนึ่งเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ โครงการนี้ถ้าได้สร้างคงจะดีมาก เพราะผมตั้งใจทำมาก รวมไปถึงงานอื่นๆที่เริ่มทำไปพร้อมๆกัน
แต่เนื่องด้วยลูกค้ามีปัญหาเรื่องเงิน จึงหยุดโครงการนี้ไว้ก่อน จึงมีลางสังหรณ์ว่าต้องหารายได้อื่นเพิ่มอีกทางแล้ว ไม่งั้นตายแน่ๆ โชคดีที่ร้านแม่เป็นร้านข้าว จึงขายน้ำเพื่อเสริมร้านข้าวของแม่ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้เป็นร้าน เป็นเพียงซุ้มน้ำเล็กๆหน้าร้านข้าวเท่านั้น
ในที่สุดก็ตัดสินใจทำร้านขึ้นมาด้วยเงินที่ใช้สร้าง 30,000 บาท เพราะก่อนหน้านี้เจอปัญหาชีวิต จึงทำให้เหลือเงินเพียง 30,000 บาทในการทำร้าน มันจึงเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับผมตอนนั้น ทำร้านยังไงให้งบไม่เกิน
เงิน 30,000 บาทเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร
เนื่องจากก่อนหน้าที่จะทำร้านผมเจอวิกฤตชีวิตอีกรอบจนทำให้เหลือเงินที่จะทำร้าน 30,000บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บจากการทำงานเป็นฟรีแลนซ์ตลอดระยะเวลา 1 ปี
โจทย์แรกที่ผมพูดกับตัวเองเลยคือ สร้างยังไงให้ไม่เกินงบ
ผมจึงเริ่มออกแบบและเลือกวัสดุในการทำร้าน ออกตระเวนหาของที่จะใช้ทำร้าน ของที่หาได้ในท้องถิ่น ของเหลือใช้ ของที่คิดว่าพอจะทำร้านได้ แต่สิ่งแรกที่ทำคือ ออกแบบให้โครงสร้างทั้งหมดเสร็จครบ 100 % และแยกทำทีละเฟสไป
เฟสแรกจะเป็นพื้นที่ด้านใน ซึ่งผมจ้างผู้รับเหมาทำในส่วนที่เป็นกระจกหน้าร้าน ฝ้า ผนังด้านหลัง ส่วนงานทาสี งานเขียนผนังทำเองทั้งหมด สำหรับงานไฟผมได้จ้างพี่ที่รู้จักกันช่วยต่อไฟและเป็นลูกมือเขา ผมก็คิดว่าถ้าร้านเสร็จจะทำยังไงให้คนรู้จักร้านเราได้ไวที่สุด ผมได้ถ่ายกระบวนการที่ทำร้านไว้ทุกขึ้นตอน
ในตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ในการทำร้านด้วยงบประมาณที่ต่ำ จึงลองเขียนกระทู้เล่นๆ เพื่อแชร์ประสบการณ์
สาเหตุที่เลือกธุรกิจนี้ มันเกิดจากร้านแม่เป็นร้านข้าวซึ่งการทำร้านขายน้ำเสริม มันก็เหมือนเป็นการเสริฟในส่วนร้านข้าวเช่นกัน ในช่วงแรกจะขายสมูตตี้เป็นหลักเพราะร้านแม่จะเป็นร้านอาหาร กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มลูกค้าร้านแม่ ต่อมากลุ่มลูกค้านักเรียนมากขึ้นจึงเพิ่มพวก ชาและนม
เนื่องจากบริเวณร้านเป็น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ โรงเรียน ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งร้านผมอยู่ติดกับถนนใหญ่สายเอเชีย จนในที่สุดก็ขยับขยายมาเป็นกาแฟ เพราะลูกค้าที่เดินเข้ามาถาม ในเมื่อความต้องการของลูกค้ามี ผมจึงตัดสินใจทำกาแฟเพิ่ม
ตอนนั้นผมก็ไม่มีเงินซื้อเครื่องชงกาแฟ แต่จังหวะนั้นลิซซิ่งที่ผมผ่อนรถอยู่เขามีโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่ไม่เคยค้างชำระ ด้วยวงเงินจำนวนหนึ่ง แต่รายจ่ายต่อเดือนยังคงเท่าเดิม ถึงแม้ว่าระยะเวลาอาจจะยาวขึ้น (เรื่องเป็นหนี้รวดเร็วทันใจ) ณ เวลานั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือวิธีนี้แล้ว รายจ่ายต่อเดือนไม่เพิ่ม ถึงแม้ว่าระยะเวลาจะยาวขึ้น เพราะผมคิดว่าผมซื้อมาเพื่อเป็นเครื่องมือทำมาหากิน
มีปัญหาอะไรอีกที่เจอนอกจากเรื่องเงินทุน
อุปสรรคของผมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือ
1.เรื่องของงบในการทำร้านที่จำกัดมากๆ สิ่งที่จำเป็นกับเรื่องนี้คือ การวางแผนการออกแบบให้เสร็จสมบูรณ์ แล้วแยกเฟสสร้างตามฤดูกาล
เช่น เฟสแรกผมเริ่มทำจากด้านในก่อน โดยใช้พื้นที่ที่มันจำกัดมากๆในการทำร้านด้วยขนาดพื้นที่ 3.3X4.5 ม. ทำพื้นที่ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปเพื่อให้เกิดการแชร์ในโซเชียล และติดแอร์(จำเป็นมากเพราะอ.เถินร้อนมาก)
จากนั้นพอใกล้หน้าหนาวจึงเริ่มทำเฟสสอง คือหน้าร้าน ทำให้มีพื้นที่นั่งใต้ต้นไม้ และเคลียร์หน้าร้านให้โล่ง ทำสะพานไม้ไผ่เชื่อม เรื่องนี้แก้ปัญหารถพ่วงจอดบังหน้าร้านได้เลยครับ
ผมลงมือทำสร้างร้านด้วยตัวผมเองทุกย่างผนังที่ผมเขียนเอง ดึงดูดกลุ่มนักเรียนให้มาที่ร้าน ซึ่งช่วงแรกกลุ่มนักเรียนจะมากันเยอะเพราะกระแสของการถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค เช็คอินต่างๆ เนื่องจากร้านผมขนาดเล็ก ทำให้ไม่เพียงพอสำหรับนักเรียนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ และพื้นที่ด้านนอกก็ยังไม่มีเงินทำ จึงต้องยอมจำนนไปก่อน
บางครั้งถ้าลูกค้าสั่งน้ำก็วิ่งส่งตามสถานที่ต่างๆด้วยเช่นกันครับ ผมทำแบบนี้ได้ซักพัก ก็พอมีเงินเก็บ พอที่จะทำบาร์ของตัวเอง
ส่วนที่ 2 คือ เรื่องของผลิตภัณฑ์ ต้องยอมรับว่าช่วงแรกรสชาติต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงมาก ทั้งเรื่องของเมนูชา นม และกาแฟ จนได้คำแนะนำจากลูกค้า จึงปรับแก้ไข
ส่วนกาแฟมันยากตรงหาเมล็ดพันธุ์ที่ดี โรงคั่วที่มีความชำนาญในการคั่ว และทักษะของตัวเราเองที่ต้องพัฒนาให้เร็วที่สุด สิ่งเหล่านี้ได้คำแนะนำจากลูกค้าท่านหนึ่ง จนได้รู้จักกับโรงคั่ว ผู้ที่มีความรู้ช่วยสอนพื้นฐานในการทำให้กับผม ผมไม่มีเงินที่จะเป็นเรียนคอร์สต่างๆของสถาบันที่สอนเรื่องการทำกาแฟครับ ได้แต่ฝึกฝน และให้พี่ๆช่วยแนะนำ
ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายๆส่วนที่ต้องพัฒนาให้เก่งอีกเยอะเลยครับ ที่สำคัญร้านกาแฟบริเวณถนนสายเอเชีย ของอ.เถินมีเยอะมาก รวมไปถึงอเมซอน ที่นักเดินทางมักจะแวะพักทานกาแฟกัน มันจึงเป็นโจทย์ว่าทำยังไงให้เกิดความแตกต่างจากร้านอื่นๆ เนื่องจากผมก็ดริปกาแฟทานเอง จึงคิดว่างั้นเราทำดริปไว้เสริฟลูกค้ากลุ่มที่ทานกาแฟพิเศษแล้วกัน
ส่วนกาแฟจากเครื่องเอสเพรสโซ ก็เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ทานกาแฟทั่วไป มันจึงทำให้ที่ร้านมีเมล็ดกาแฟที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม หากถามว่ามันยุ่งยากมั้ย ก็ตอบเลยว่ายุ่งยาก แต่มันคือจุดขายของร้านที่มีเมล็ดให้ลูกค้าได้เลือกทานตามใจปรารถนา (อย่างกับอาหารตามสั่ง)
ถึงแม้ว่าวันนี้ลูกค้าที่ร้านอาจจะไม่มากมายอะไรนัก แต่อย่างน้อยๆ ลูกค้าที่มีในปัจจุบันก็ได้ทานกาแฟในแบบที่ตัวเองชอบ
สร้างจุดเด่นมีสไตล์ของตัวเองเพื่อดึงดูดลูกค้า
เนื่องจากบริเวณนี้จะมีทั้งสถานที่ราชการต่างๆแล้ว ก็ยังติดถนนใหญ่สายเอเชียอีกด้วย กลุ่มลูกค้าจึงแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 2 กลุ่มคือ กลุ่มท้องถิ่น กับ กลุ่มขาจร ซึ่งกลุ่มท้องถิ่นจะแบ่งได้เป็นวัยทำงาน กับ นักเรียน
ในช่วยแรกนักเรียนจะเยอะเพราะช่วงแรกของการทำร้านยังไม่มีกาแฟ แต่พอเริ่มมีกาแฟ กลุ่มวัยทำงานเริ่มเยอะกว่า สัดส่วนนักเรียนน้อยลง เพราะกลุ่มวัยทำงานจะทานพวกกาแฟ สมูตตี้ ชา และ นม จึงทำให้ตอนนี้กลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มคนวัยทำงาน
สำหรับส่วนขาจร คงต้องใช้เวลาในการสร้างอีกนานเหมือนกัน เพราะขาจรส่วนมากยังไม่ทราบว่ามีร้านกาแฟเล็กๆของผมติดถนนสายเอเชียอยู่ ส่วนมากจะแวะปั้มเพราะง่ายและสะดวก ซึ่งในอนาคตถ้าลูกค้าขาจรมากขึ้น ผมคงจะได้เริ่มทำ เฟส 3 ต่อ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการรองรับลูกค้าที่มากขึ้นและห้องน้ำที่มากขึ้นด้วยครับ
นอกจากบรรยากาศที่น่านั่งที่ร้านมีเมนูอะไรแนะนำ
ตอนนี้หลักๆจะมีกาแฟสดซึ่งเมล็ดที่ใช้จะมีทั้งระดับการคั่วอ่อน กลาง เข้ม กาแฟดริปซึ่งใช้เมล็ดที่เป็น Single Origin ของแหล่งปลูกนั้นๆ สมูตตี้จะมีแบบที่เป็นผลไม้สดและแช่แข็ง ชา นม และเค้กซึ่งสั่งร้านที่รู้จักกันทำขึ้นในแบบที่เป็นของร้าน จะได้ไม่ซ้ำกับเจ้าอื่นๆในอำเภอครับ
อะไรคือจุดเด่น ของ รากบุญ ดิฟ คอฟฟี่
1.การตกแต่งที่แสดงตัวตนของเจ้าของร้านออกมา การเลือกใช้วัสดุที่คุ้นตาแต่เรียบง่าย ดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
2.ความเป็นกันเองของเจ้าของกับลูกค้าบริการดุจญาติมิตร
3.สร้างทางเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น
4.เมล็ดกาแฟที่ใช้มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน ตั้งแต่แหล่งปลูก ไปจนถึงโรงคั่ว
ทำธุรกิจกาแฟยังมีช่องทางอีกไหม ในมุมของของคุณ โจ๊ะ
พี่คนหนึ่งบอกไว้ว่า ธุรกิจกาแฟ เข้าง่าย ออกก็ง่าย แต่สำหรับผมมันไม่ง่ายครับ เพราะเราไม่ได้ตั้งเป้าแต่แรกกว่าจะต้องทำกาแฟเลย เพราะด้วยเรื่องของทุนในการซื้อเครื่องชงกาแฟ จึงต้องเริ่มทำจากสิ่งที่ลงทุนน้อยที่สุด ไปตามลำดับ เพิ่มตามความต้องการของลูกค้าที่เข้ามา และสร้างจุดแตกต่างในธุรกิจที่ทำกันเยอะมากในท้องถิ่น และเพิ่มเติมความรู้ ทักษะของตัวเองให้เก่งขึ้น ซึ่งเป็นการลงทุนน้อยที่สุด และทำกาแฟด้วยความเข้าใจ
มอง รากบุญ ดิฟ คอฟฟี่ ไว้อย่างไร
ผมอยากให้ร้านกาแฟเล็กๆนี้เป็นเหมือนจุดพักผ่อนของนักเดินทาง ก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดหมายของตนเองต่อ อยากให้เป็นเหมือนจุดพักรถที่มีกาแฟดีๆ บรรยากาศดีๆที่อบอุ่น และงานฝีมือของคนในชุมชมที่น่าสนใจ อยากให้นักเดินทางได้เห็นว่า อ.เถิน ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่าน แต่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่หลายๆคนไม่เคยรู้
ทำให้นักเดินทางได้รู้จักร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ติดริมถนนสายเอเชีย เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าขาจรที่อยากทานกาแฟที่มีความหลากหลาย และมีเมล็ดกาแฟที่ใช้ในร้านจำหน่ายเป็นของฝากด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีสินค้า เช่น แก้วกาแฟ ดริปเปอร์ ปั้มด้วยมือ ติดแบรนด์ร้าน ซึ่งเป็นสิ้นค้าแฮนด์เมดทั้งสิ้น
มีหลักในการบริหารร้านและลูกน้องอย่างไร
ในตอนนี้ทำเองคนเดียวทุกอย่าง เพื่อให้เก่งและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น หากวันหนึ่งมีลูกน้อง จะได้เทรนลูกน้องได้ เพราะธุรกิจร้านกาแฟผมยังขาดประสบการณ์ จึงต้องลุยเองก่อน เพราะถ้าอยากให้มันยั่งยืนอย่างที่หวัง จำเป็นต้องเรียนรู้ให้มากในศาสตร์นี้
กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จก้าวเล็กๆ ของ รากบุญ ที่ทำมีวันนี้
เราจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้ง เมื่อเราล้มและลุกขึ้นใหม่
แนวทางการทำธุรกิจแบบ “รากหญ้า Marketing” ของคุณโจ๊ะ คืออะไร
ร้านรากบุญมีสโลแกนว่า “ราคารากหญ้า คุณภาพรากแก้ว” ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าสำคัญครับ เราจะคัดสรรค์สิ่งที่ดีให้ลูกค้า มีที่มาที่ไป ราคาสมเหตุสมผล
หากเพื่อน ๆ จะทำธุรกิจกาแฟแบบนี้บ้างคุณโจ๊ะ มีคำแนะนำอย่างไรบ้าง
สิ่งแรกที่ต้องลงทุน คือความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่เราจะทำ ถึงไม่มีความรู้เลย ก็ต้องศึกษาจากผู้รู้ หรือด้วยตัวเอง แล้วเราขายให้ใคร เราจะสร้างความแตกต่างในธุรกิจที่คนทำเยอะๆได้อย่างไร และเตรียมใจพร้อมรับกับอุปสรรคที่มันจะมาหาคุณทุกรูปแบบ ใช้สติ คิดให้เยอะ อดทนให้มาก
ข้อคิดฝากถึงเพื่อน ๆ เถ้าแก่ใหม่ ที่จะเริ่มทำธุรกิจ หรือกำลังประสบปัญหา
“ใจสู้รึเปล่า … ไหวไหมบอกมา …โอกาสของผู้กล้า…ศรัทธาไม่มีท้อ”
เป็นเพลงชาติของคนทำธุรกิจแล้วเจอปัญหา เมื่อเจอ เมื่อท้อ ให้ฟังเพลงนี้ครับ แล้วลุกขึ้นสู้อีกครั้ง อ้าว!!! ร้องพร้อมกันอีกรอบครับ
โปรโมทชั่น หรือ ส่วนลดพิเศษ หากลูกค้าที่ตามอ่านจากเว็บ Taokaemai
หากลูกค้าท่านใดที่ตามอ่านจากเว็บ Taokaemai เดินมากระซิบข้างหูผม…ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ รับส่วนลด 10 % ไปเลยครับ
ช่องทางติดต่อธุรกิจ
Fanpage : https://www.facebook.com/RakboonDripCoffee/
Facebook : https://www.facebook.com/arjoe.eojar
ID Line : teeranaijoe
IG : rakboon_drip_coffee
Tel. 081-0420939
บริการอบรม ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจออนไลน์ ฝึกอบรมภายในบริษัท แบบตัวต่อตัว การทำ Content Marketing,การโฆษณา Facebook,การโฆษณา Tiktok,การตลาด Line OA และการทำสินค้าให้คนหาเจอบน Google
บริการดูแลระบบการตลาดออนไลน์ให้ทั้งระบบ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสารความรู้การทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ Add Line id :@taokaemai
รับชมคลิป VDO ความรู้ด้านการตลาด กรณีศึกษาธุรกิจ แหล่งเงินทุนน่าสนใจ ติดตามได้ที่ช่อง Youtube : Taokaemai เพื่อนคู่คิดธุรกิจ SME