การทำธุรกิจสินค้าเกษตรออนไลน์ ต้องเลิกคิดว่าตนเองเป็นเกษตร แต่ให้คิดว่าเราเป็นนักธุรกิจสินค้าเกษตร

เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2562 สถาบันพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ได้รับเชิญจาก ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ – สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ให้ไปร่วมบรรยายและเสวนาให้กับ เกษตรกร และผู้ที่สนใจ จะยกระดับธุรกิจสินค้าเกษตรสู่การตลาดออนไลน์

โดยทาง อ.เกียรติรัตน์ จินดามณี เป็นตัวแทนสถาบันฯ ได้เข้าร่วมบรรยาย และให้ความรู้กับผู้ประกอบการใน 3 เรื่องสำคัญหลัก ๆ คือ

1.รู้จักและเข้าใจการทำธุรกิจสินค้าเกษตร ออนไลน์ การทำธุรกิจสินค้าเกษตรออนไลน์

เนื้อหาในส่วนนี้เป็นการแนะนำให้เกษตรกร ได้รู้จักและเข้าใจ พฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ (Customer Journey) อ.เกียรติรัตน์ ได้ชี้ให้เห็นเส้นทางการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ ตั้งแต่กลุ่มเป้าหมาย พัฒนาไปเป็นลูกค้า และแฟนคลับ ว่าต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง ผ่านโมเดล 4 S ซึ่งประกอบด้วย See ,Search ,Shop และ Service

2.รู้จักเครื่องมือและช่องทางทำธุรกิจสินค้าเกษตรออนไลน์

เครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์มีอยู่มาก แต่จะใช้เครื่องมือเหล่านั้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต้องมีการวางแผนให้ตรงกับ พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้สินค้าแต่ละประเภท กลุ่มลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน พฤติกรรมต่างกัน การตัดสินใจซื้อต่างกัน ช่องทางการซื้อต่างกัน การระดมความคิดเพื่อกำหนดแนวทางสร้าง Content ในแต่ละขั้นตอนหรือแต่ละช่วงจังหวะของกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก ส่วนของเครื่องมือออนไลน์ อ.เกียรติรัตน์ ได้เน้นย้ำว่าเกษตรกรต้อง สร้าง Content เองให้ได้และได้ให้ทดลองทำ Workshop เพื่อสร้างคอนเทนต์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจสินค้าเกษตรต่อไป

3.ร่วมเสวนา การทำธุรกิจออนไลน์ ตลาดยังสดใสและไปรอดจริงหรือ

ปิดท้ายการอบรมในวันที่ 2 ก.ค. 62 ด้วยเวทีเสวนา พูดคุย ระหว่างวิทยากรกับ ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม โดยได้รับเกียรติจาก อ.ดร.เกษมสันต์ สกุลรัต์ เป็นผู้ดำเนินรายการ วิทยากรร่วมเสวนาประกอบด้วย อ.ดร.ศุศราภรณ์ แต่งตั้งลำ ,อ.อานนท์ บุณยประเวศ และ อ.เกียรติรัตน์ จินดามณี ประเด็นเสวนาประกอบด้วย

1.สถานการณ์การตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบันยังสดใสจริงหรือ ?

วิทยากรทั้ง 3 ท่านได้ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การตลาดออนไลน์ยังเติบโต และสดใส อย่างแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเกษตรกรจะพร้อมปรับตัวเองเพื่อเติบโตไปกับโลกออนไลน์หรือไม่ คนที่ปรับตัวได้และพร้อมที่จะปรับเท่านั้นจึงจะมีโอกาสสร้างไปต่อ ส่วนคนที่ไม่พร้อม โลกของเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ไม่รอคนปรับตัวไม่ทัน ซึ่งเราจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างแน่อน

2.จะ ร่วง หรือ รอด สินค้าเกษตรออนไลน์ต้องทำอย่างไร ?

จะทำเกษตรให้รอดต้องเลิกคิดแบบ “เกษตรกร” ทั่วไป แต่ต้องคิดว่าเราเป็น “นักธุรกิจสินค้าเกษตร” คือมองเป็นนักพัฒนาสินค้าเกษตร นักการตลาดสินค้าเกษตร จึงจะมีโอกาสรอด ไม่ทำสินค้าเกษตรตามกระแส แต่ต้องมีหลักเบื้องต้น

  • กลุ่มเป้าหมายต้องชัดเจน ไม่ทำแบบหว่านแห
  • ทำสินค้าเกษตรคุณภาพ ทั้งในด้านสินค้าและแพ็คเก็จ
  • ใช้เครื่องมือทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ตามความเหมาะสม
  • ร่วมกันทำงาน ใครผลิตเก่งให้ผลิต ใครทำการตลาดเก่งให้ช่วยทำการตลาด

หวังว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมฝึกอบรมจะได้นำความรู้และคำแนะนำจากวิทยากรไปปรับใช้ในการผลักดันธุรกิจให้เติบโต เป็นเฟืองขับเคลื่อนธุรกิจสินค้าเกษตรไทยให้ขยายไปทั้งในและต่างประเทศ

ขอขอบคุณ ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ – สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ที่เชิญบุคลากรจากทางสถาบันพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไปให้ความรู้กับเกษตร